แอบส่องประกันภัยออนไลน์ … ถูกจริงแต่คุ้มหรือเปล่า?
การต้องซื้อประกันภัยรถยนต์สำหรับผู้ใช้รถแล้วเป็นอะไรที่เลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ต้องจ่ายกันทุกปีจนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปเสียแล้ว หลายคนก็เลือกง่าย ๆ ด้วยวิธีต่อประกันกับเจ้าเดิมจนบางทีก็ลืมเปรียบเทียบไปว่าที่ต่ออยู่ทุกปีนี่มันถูกหรือแพง?
สมัยเรียนผมเคยได้ยินอาจารย์ท่านนึงพูดว่า "ธุรกิจประกันไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็จำเป็นต้องการตัวแทนจำหน่าย เพราะประกันเป็นอะไรที่ขายยากมากต้องเข้าถึงลูกค้า ดังนั้นค่าคอมมิชชั่นจึงสูง" ความเห็นผมก็เห็นด้วยครึ่งไม่เห็นด้วยครึ่งนะ ทำไมเราต้องจ่ายแพงด้วยในเมื่อลูกค้ามีหลากหลายกลุ่ม บางกลุ่มที่เขาต้องการเบี้ยถูก ๆ ก็ให้เขาตัดสินใจเลือกซื้อเองโดยไม่ต้องผ่านตัวแทนไม่ได้หรือ?
เท่าที่ลองเช็คดูก็ไปสะดุดเข้ากับบทวิเคราะห์ด้านประกันภัยรถยนต์ของ DirectAsia ประเทศไทย ที่เขาว่าคนไทยจ่ายเบี้ยประกันแพงกว่าหลายประเทศมากเมื่อเทียบกับรายได้ สาเหตุก็อย่างที่บอกตามต้นคือต้องแบ่งส่วนให้กับตัวแทนหลายทอด และนอกจากนี้ประกันภัยคือการ "เฉลี่ยทุกข์และเฉลี่ยสุข" หมายความว่าทุกคนไปลงเงินที่บริษัทประกัน มีคนขับรถดีบ้างแย่บ้างปน ๆ กันไป คนขับรถดีก็ต้องไปเฉลี่ยเงินให้กับคนขับรถประมาท นอกจากนี้ก็จะเป็นพวกกว่าจ่ายเบี้ยแพงเกินความจำเป็น อย่างเช่นรถใช้ขับแค่ไปรับส่งลูกที่โรงเรียนกับซื้อกับข้าวที่ตลาดดันต้องจ่ายแพงเท่ากับคนอื่นซะงั้น ด้วยเหตุผลนี้จึงนำมาซึ่งวิธีการซื้อประกันแบบใหม่ที่ทำให้ได้ราคาถูกกว่า
ขับรถดีทำไมต้องจ่ายเบี้ยแพง?
จะดีกว่าไหมถ้าคนที่ขับรถแบบระมัดระวังมารวมตัวกันแล้วจ่ายเบี้ยถูก (ก็สมควรอยู่นะเพราะอัตราการเคลมก็ต่ำ) แถมยังเป็นการซื้อผ่านออนไลน์อีกยิ่งสมควรที่จะได้ราคาถูกเข้าไปใหญ่เพราะต้นทุนเขาต่ำกว่าทำไมถึงจะให้ราคาพิเศษแก่ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้ จริงไหมครับ?
ซื้อของยังต้องเช็คราคาและซื้อประกันก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ทุกครั้งที่มี Gadget ออกใหม่ผมจะเช็คข้อมูลจาก Internet ก่อนจากนั้นค่อยหาข้อมูลว่าร้านไหนขายถูกสุดหรือมีโปรโมชั่นดีสุด...