หากใครพบกับปัญหาที่สัญญาณ Wi-Fi ไม่ครอบคลุมทั้งบ้าน และเคยลองใช้ WiFi Repeater หรือ WiFi Extender แต่ยังไม่ตอบโจทย์การใช้งาน อีกหนึ่งวิธีในการแก้ปัญหาโดยไม่ต้องซื้อ Router ตัวใหม่ยกชุดทั้งหมด ก็คือการพิจารณาเลือกซื้อเป็น Asus Extendable Router ตั้งแต่แรก และในวันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีแก้ปัญหา Wi-Fi หลุดบ่อย ไม่เสถียร เน็ตช้า สัญญาณอ่อน
ASUS Extendable Router คืออะไร ?
โดยปกติแล้วสิ่งที่ใช้เชื่อมต่อเน็ตเราจะได้ Router ที่แถมหรือยืมฟรีมาจาก Ais, True, 3BB อะไรก็ว่ากันไป ซึ่งมันจะมีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่ด้วยเหตุผลด้านต้นทุน ส่วนคนที่ต้องการใช้งานเต็มประสิทธิภาพหรือหนักหน่อยก็จะไปซื้อ Router แยกมาใช้โดยเฉพาะ (ซื้อเองมันก็ต้องดีกว่าอยู่แล้ว) ทีนี้การเลือกซื้อ Router ตัวใหม่บางทีมันอาจจะแค่ตัวเดียวก็อาจตอบโจทย์แล้วจบเลย
แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราเลือกเป็น Extendable Router (AiMesh) ตั้งแต่ครั้งแรก เพื่อที่อนาคตเผื่อว่าเราจะขยับขยายอะไรมันจะได้สะดวกกว่า ยกตัวอย่างเช่นหากลองเอาไปใช้งานจริงแล้วห้องนอนเราสัญญาณไม่ถึง หรือแม้กระทั่งห้องครัวสัญญาณไม่ดี (บางคนดู YouTube ทำอาหารไปด้วย) หรืออย่างตัวผมเองที่ต้องการติดกล้องวงจรปิดหน้าบ้าน แล้วพบว่าสัญญาณ Wi-Fi มันมาไม่ถึง
แน่นอนว่าบ้านเรามันไม่มีทางกว้างขึ้นหรอก แต่การปรับปรุงผังของบ้านหรือความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี อะไรที่เราคิดว่าไม่จำเป็นอนาคตมันก็กลายเป็นเรื่องจำเป็น (อดีตเราดูทีวีผ่านสายเคเบิ้ลดาวเทียบ แต่ทุกวันนี้คือทีวีทุกเครื่องควรจะต่อ WiFi ได้ด้วย) ดังนั้นการขยับขยายในอนาคตอันใกล้นั้นเป็นสิ่งจำเป็นมาก และระบบ Router ของทาง ASUS ออกแบบมาตั้งแต่ปี 2017
ASUS RT-AX82U V2
ที่เราจะมารีวิวกันวันนี้ก็คือ ASUS RT-AX82U V2 โดยเราจะใช้ตัวนี้เป็น Node (เรียกว่าตัวรองก็ได้) สาเหตุที่ไม่อยากให้เรียกว่าตัวที่ 2-3-4 เพราะมันไม่ได้ทำเรียงลำดับส่งต่อกันแบบนั้น เมื่อเชื่อมกันมันจะเป็นเหมือนเครือข่ายใยแมงมุม หากตัวใดตัวหนึ่งสะดุดหรือหยุดทำงาน ตัวที่เหลือก็สามารถเชื่อมต่อหรือส่งข้อมูลทำหน้าที่แทนกันได้ทันที และทุกอย่างคือทำงานอัตโนมัติ
สาเหตุที่ยกรุ่น ASUS RT-AX82U ก็เพราะว่าราคามันไม่แพงมาก (ประมาณ 5-6 พันบาท) WiFi 6 แถมยังรองรับ Dual band AX5400; 2.4 GHz 2×2, 5 GHz 4×4 เหมาะกับการเล่นเพราะมี Mobile Game Mode, Gaming port, Open NAT, Gear accelerator แต่น่าเสียดายที่เป็น 1 Gbps คงไม่เหมาะกับผมเพราะเน็ตบ้านผมความเร็ว 2 Gbps ตามที่เคยรีวิวไป
ทีนี้หากใครมี Router ของแบรนด์ ASUS ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมามันจะรองรับฟีเจอร์ AiMesh ทั้งหมด หากคุณอัปเกรดเน็ตบ้านหรืออุปกรณ์ใหม่ ก็ไม่จำเป็นต้องทิ้งของเราเอามาเป็น Extendable Router ขยายสัญญาณเพิ่มเติมได้เลย ไม่ต้องทิ้งหรือซื้อใหม่ให้เปลือง (คุ้มจัง) แล้วข้อดีก็คือไม่จำเป็นต้องเป็นรุ่นหรือซีรีย์เดียวกันได้ ส่วนการตั้งค่าก็ง่ายผ่านมือถือหรือเว็บไซต์ก็ได้
อะแดปเตอร์เดี๋ยวนี้เล็กมาก (ไม่รู้ถ่ายมาให้ดูทำไม 555+) สรุปเอาเป็นว่าสำหรับ Node หากคุณมีของเก่าอยู่แล้วก็สามารถเอามาใช้งานได้เลย แต่ถ้าอยากอัปเกรดเต็มระบบแบบจัดเต็ม เพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุดในการใช้งาน Wi-Fi ก็สามารถเลือกซื้อใหม่ได้ตามความต้องการ หรือจะสำรองเอาไว้ขยายสัญญาณเพิ่มเติม ให้กับห้องที่ไม่ได้เน้นความสำคัญอะไรมากก็ยังสามารถทำได้
(นอกเรื่อง) เดี๋ยวนี้ ASUS ออกแบบหน้าตา Router ได้ดูดีใช้ได้เลยแหล่ะ อย่างรุ่นนี้มีไฟเป็นแบบ Ambient Light ไล่ระดับสีแถมเปลี่ยนได้ผ่าน ASUS Aura RGB อีกด้วย (เท่เวอร์) ใช้เป็นของตกแต่งโต๊ะสายเกมมิ่งได้เลย ไม่ต้องอับอายเอาไปซ่อนให้ไกลหูไกลตาอีกต่อไป นอกจากนี้ยังได้ความปปลอดภัย ASUS AiProtection Pro แบบเกรด Commercial ฟรีตลอดอายุการใช้งาน
ASUS TUF Gaming AX6000
ถัดมาเป็น ASUS TUF Gaming AX6000 โดยเราจะใช้ตัวนี้เป็น Primary (เรียกว่าตัวหลักก็ได้) ต่อตรง WAN 2.5 Gbps เพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุด หรือจะทำเป็น WAN Aggregation ก็ได้สูงสุดถึง 5 Gbps เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับจะใช้งานเป็นตัวหลัก ส่วนราคาก็ไม่ได้สูงมากประมาณ 7,xxx บาท WiFi 6 แถมยังรองรับ Dual band AX6000; 2.4 GHz 4×4, 5 GHz 4×4
ที่เลือกรุ่นนี้เป็นตัวหลักอย่างแรกเลยคือเรื่อง WAN 2.5 Gbps เนื่องจากเน็ตบ้านผมเป็น 2 Gbps และอีกสาเหตุก็คือมี LAN 2.5 Gbps ที่คอมพิวเตอร์ของผมรองรับเช่นเดียวกัน ทำให้สามารถต่อตรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ยังมีแบนด์วิดท์ที่เหลือเฟือในทุกช่องสัญญาณ เหมาะสำหรับการใช้เล่นเกมที่หนักหน่วง และบ้านที่มีอุปกรณ์ไร้สายเยอะมาก ๆ แบบของผม
ด้านหน้ามีไฟแสดงสถานะวางเอาไว้แบบเรียบหรู แต่ส่วนตัวยอมรับว่าชอบ ASUS RT-AX82U V2 ที่ออกแบบมาได้สวยกว่า ASUS TUF Gaming AX6000 ซึ่งเน้นไปที่ขนาดใหญ่และมีน้ำหนักเยอะ เนื่องจากภายในมีการออกแบบเน้นความทนทานตามสไตล์ของ TUF มีการเลือกใช้อลูมิเนียมซิงค์ขนาดใหญ่เพื่อระบายความร้อน เอาเป็นว่าถ้าอยากได้เรื่องความทนทานอาจต้องยอมเขา
เกริ่นในเรื่องของ Router ทั้งสองมาพอสมควร แต่หัวใจหลักของบทความนี้จะพูดถึง Extendable Router ที่เหนือกว่า WiFi Extender ทั่วไปตรงที่เราไม่ต้องมานั่งสลับเครือข่ายเอง แถมทุกชื่อ Wi-Fi ทั้งบ้านเป็นชื่อเดียวกันหมด (ระบบหลังบ้านจะจัดการให้เอง) มีฟีเจอร์พวกความปลอดภัยให้ฟรี สามารถควบคุมการใช้เน็ตของลูกหลานได้ มีโหมดเกิมมิ่งและยังมี VPN ให้ด้วย
ทดสอบประสิทธิภาพ
เริ่มแรกทดสอบ Wi-Fi ต่อตรงกับ ASUS TUF Gaming AX6000 (Primary) ด้วยอุปกรณ์ Samsung Galaxy S23 สามารถรับความเร็วได้ 1545 Mbps และ 729 Mbps ตามลำดับก็ถือว่าค่อนข้างน่าประทับใจกับการเปลี่ยน Router หลักอันใหม่ (ซึ่งข้อจำกัดจะต่อเน็ตให้ได้เต็ม 2 Gbps เป็นเรื่องยากในทางเทคนิค) หากใครจะซื้อไปใช้งานเดี่ยว ๆ ก็ยังถือว่าแนะนำอยู่ครับ
ถัดมาที่จุดหน้าบ้านของผมโดย Router ได้ติดตั้งไว้บนชั้น 2 ด้วยระยะทางก็ทำให้ข้อจำกัดด้านสัญญาณลดลงไปพอสมควร สามารถรับความเร็วได้ 67 Mbps และ 37 Mbps ตามลำดับก็ถือว่าตกไปค่อนข้างเยอะหากใช้ Router เพียงแค่ตัวเดียว แน่นอนว่ามันไม่สามารถครอบคลุมได้ตลอดทั้งบ้านอย่างแน่นอน งานนี้ยังไงก็ต้องมีตัวช่วยอย่าง Extendable Router อีกตัวคั่นกลาง
หลังจากได้วาง ASUS RT-AX82U V2 (Node) เพิ่มเติมในชั้น 1 เพื่อเป็นตัวกลางในการรับส่งข้อมูลก็ได้ความเร็วขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าจะไม่เท่ากับการต่อตรงระยะใกล้ (มันมีข้อจำกัดเรื่องระยะทางด้วย) แต่ก็ได้ความเร็วออกมาเป็นที่น่าพอใจ 525 Mbps และ 391 Mbps ตามลำดับ ส่วนบ้านใครอยากให้ความเร็วแบบไม่ตกอาจใช้สาย LAN เพื่อเชื่อม Node กับ Primary ด้วยกัน
ในส่วนของการตั้งค่าทั้งหมดทำง่าย ๆ ได้ผ่านหน้าเว็บหรือแอป ASUS Router ได้ทั้งบน Android และ iOS โดยสามารถใช้งานได้แบบง่ายดาย (มีภาษาไทย) โดยที่ไม่ต้องมีความเข้าใจเรื่องศัพท์เทคนิคก็สามารถตั้งค่าได้ ภายในมีฟีเจอร์เกี่ยวกับความปลอดภัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันไวรัสหรือเว็บไซต์อันตราย ขนาดตัวผมเองค่อนข้างระวัง AiProtection ยังช่วยไป 492 ลิงก์
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตของเด็กในบ้าน หรือจะเป็นการตั้งค่าให้ความสำคัญกับอุปกรณ์หรือโปรแกรมไหนว่าควรได้สิทธิ์ความเร็วก่อน มีโหมดการปรับแต่งการเล่นที่สามารถลด Ping ให้สามารถเล่นหลายเกมได้ดีมากขึ้น โดยรวมแล้วค่อนข้างประทับใจกับการใช้งาน โดยเฉพาะในเรื่องของความง่ายที่ผู้ใช้งานแทบไม่ต้องทำอะไรเลย หลายอย่างเป็นระบบอัตโนมัติ
สรุป
ระบบ ASUS Extendable Router ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหา Wi-Fi หลุดบ่อย ไม่เสถียร เน็ตช้า สัญญาณอ่อน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้ร่วมกับ Router ของทาง ASUS ทุกรุ่นตั้งแต่ปี 2017 ทำให้สามารถยืดหยุ่นในการปรับแต่งขยับขยาย การที่เราเปลี่ยน Router ใหม่ในอนาคตไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ก็สามารถเอาของเก่าที่มีอยู่มาใช้งานร่วมกันได้แบบไม่มีปัญหา