สำหรับคนที่สงสัยว่า เครื่องปั่นยี่ห้อไหนดี ? วันนี้เราสรุปมาให้กับ รีวิวหลายแบรนด์ชั้นนำประจำปี 2022 เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจว่าเครื่องไหนที่จะเหมาะกับเรา ไม่ว่าจะเป็นการปั่นน้ำผลไม้, ปั่นอาหาร, ปั่นสมูทตี้, ฯลฯ โดยเราได้รวบรวมเอา 10 อันดับเครื่องปั่นอเนกประสงค์น่าซื้อ อัปเดต 2022 ถ้าพร้อมแล้วเราลองไปดูทีละรุ่นกันได้เลยครับ
10 อันดับเครื่องปั่นน่าซื้อในปี 2022
- Sharp เครื่องปั่นอเนกประสงค์ชาร์ป รุ่น EM-ICE2
- Electrolux เครื่องปั่น UltimateTaste 500 รุ่น E3TB1-210K
- Philips Blender เครื่องปั่นเอนกประสงค์ รุ่น HR2041/50
- Toshiba เครื่องปั่นอเนกประสงค์ รุ่น BL-T60
- Tefal เครื่องปั่นน้ำผลไม้พร้อมโถบดสับ BLENDEO BLENDER รุ่น BL2B1166
- Haier เครื่องปั่น Blender รุ่น HBL-3338
- OTTO เครื่องปั่นน้ำผลไม้ รุ่น BE-120
- Clarte เครื่องปั่นอเนกประสงค์ รุ่น FBL101P
- Smarthome เครื่องปั่นเอนกประสงค์ รุ่น BD-1510
- Worldtech เครื่องปั่นน้ำผลไม้ รุ่น WT-PB1800
1. Sharp เครื่องปั่นอเนกประสงค์ชาร์ป รุ่น EM-ICE2
แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากญี่ปุ่นที่ทุกบ้านไว้วางใจ ถ้าให้พูดถึงแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่าหนึ่งในนั้นต้องมีแบรนด์ Sharp อย่างแน่นอน และหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนที่ทุกคนพูดถึง คือเครื่องปั่นอเนกประสงค์ชาร์ป รุ่น EM-ICE 2 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริง โถปั่นและโถบดแห้งใช้วัสดุคุณภาพระดับ FOOD GRADE มาพร้อมใบมีดสเตนเลสฟันปลา 5 แฉก คมกริบ แข็งแรง ทนทาน ปรับความเร็วได้ 2 ระดับ พร้อมปุ่ม Pulse เพื่อการผสมและปั่นให้ดียิ่งขึ้น มาพร้อมกับพลังมอเตอร์ 500 วัตต์ ขนาดความจุ 1.25 ลิตร
ปลอดภัยด้วยระบบนิรภัย 2 ระบบ
- MOTOR SAFETY เครื่องจะหยุดทำงาน เมื่อใส่อาหารมากเกินไป
- SAFETY LOCK เครื่องจะไม่ทำงาน หากวางโถปั่นไม่เข้าที่
เครื่องปั่นอเนกประสงค์ชาร์ป สามารถสร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำผัก น้ำผลไม้ หรือไอศกรีม สามารถปั่นน้ำแข็งก้อนให้เนื้อเนียนละเอียดได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมาพร้อมโถบดแห้งสำหรับช่วยในการปั่นอาหารอีกด้วย มีศูนย์บริการรองรับทั่วทุกภูมิภาค สามารถซื้อได้ผ่านห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปและร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ผ่านทาง Shopee
2. Electrolux เครื่องปั่น UltimateTaste 500 รุ่น E3TB1-210K
แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศสวีเดน มีจุดเด่นตรงที่ใบมีด TruFlow คมเป็นพิเศษ เพิ่มประสิทธิภาพในการตัดชิ้นอาหารให้นุ่มนวลและสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับทั้งเมนูร้อนและเย็น เต็มพลังการปั่นได้ผลลัพธ์ในการปั่นตามต้องการ ด้วยมอเตอร์ที่ทรงพลังช่วยในการตัดสับอาหารและส่วนผสมได้อย่างลงตัว สามารถเลือกความเร็วในการปั่นได้ตามต้องการตั้งแต่ความเร็วรอบต่ำสำหรับการปั่นสมูทตี้ และความเร็วสูงในการบดปั่นน้ำแข็ง พร้อมการปั่นแบบเป็นจังหวะ กำลังไฟ 500 วัตต์ สามารถทำความสะอาดด้วยเครื่องล้างจาน
3. Philips Blender เครื่องปั่นเอนกประสงค์ รุ่น HR2041/50
อีกหนึ่งยี่ห้อที่โด่งดังมาจากหลอดไฟ ส่วนเครื่องปั่นรุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัย พร้อมกับจุดขายที่ระบบ ProBlend อันเป็นเอกลักษณ์ กำลังไฟอยู่ที่ 450 วัตต์ สามารถบนน้ำแข็งได้อย่างละเอียดเพียงแค่ 45 วินาที ข้อเสียคือสามารถปรับความเร็วได้เพียงแค่ระดับเดียว + ปั่นชั่วขณะ มาพร้อมกับโถปั่นสองขนาด (โถใหญ่ขนาด 1.9 ลิตร) ส่วนระบบความปลอดภัยเป็นเซนเซอร์ MTP ช่วยป้องกันไม่ให้มอเตอร์ร้อนเกินไป และขาตั้งแบบดูดเพื่อไม่ให้เครื่องสั่นระหว่างทำงาน ส่วนการรับประกันอยู่ที่ 2 ปี
4. Toshiba เครื่องปั่นอเนกประสงค์ รุ่น BL-T60
อีกหนึ่งแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากญี่ปุ่น มีจุดเด่นอยู่ที่พลังปั่นประสิทธิภาพสูง ด้วยกำลังไฟ 600 วัตต์ มอเตอร์ประสิทธิภาพสูง รอบหมุนสูงถึง 23,000 รอบ ใบมีดสแตนเลสสตีล 4 แฉก แข็งแรง ทนทาน สามารถถอดออกได้ ทำความสะอาดง่ายและรวดเร็ว และยังคงความใช้งานง่าย ปุ่มหมุนปรับระดับความเร็วได้ 2 ระดับ พร้อมระบบปั่นเป็นจังหวะ โถปั่นทำจากพลาสติกคุณภาพสูงปราศจากสารก่อมะเร็ง BPA (BPA Free) ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยเป็น SAFETY LOCK โดยเครื่องจะไม่ทำงาน หากวางโถปั่นไม่เข้าที่
5. Tefal เครื่องปั่นน้ำผลไม้ BLENDEO BLENDER รุ่น BL2B1166
ยกระดับประสบการณ์การปั่นของคุณด้วยเครื่องปั่นแบรนด์จากฝรั่งเศส มาพร้อมกับขนาดกะทัดรัดแต่ทรงพลังด้วยมอเตอร์ 450 วัตต์ และโถปั่นขนาดใหญ่สำหรับครอบครัว 1.5 ลิตร มีการออกแบบฝาปิดให้เป็นถ้วยตวงส่วนผสม เพื่อการเติมส่วนผสมที่ง่ายและแม่นยำ สามารถปรับความเร็วได้เพียงแค่ 1 ระดับ สามารถปั่นน้ำแข็งให้ละเอียดด้วยเทคโนโลยี Ice Crush เพียงระยะเวลาไม่ถึง 1 นาที ระบบระบายความร้อน Air Cooling System ช่วยยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์ และทำให้สามารถปั่นต่อเนื่องได้นานถึง 3 นาที
6. Haier เครื่องปั่น Blender รุ่น HBL-3338
เครื่องปั่นดีไซน์มินิมอลรุ่นนี้ มีจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งทุกเจ้า ด้วยสวิตช์หมุน 5 ระดับ สามารถเลือกความเร็วได้ตามที่ต้องการ ใบมีดผลิตจากสเตนเลสคุณภาพสูง 6 แฉก หนา แข็งแรงทนทาน และคม สามารถบดน้ำแข็ง เนื้อสัตว์ รวมทั้งผักผลไม้ได้อย่างละเอียด ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน สามารถทำความสะอาดได้ง่ายทั้งโถปั่นและใบมีด ถอดออกมาทำความสะอาดและประกอบกลับเข้าไปได้อย่างสะดวก ขณะที่ตัวเครื่องสามารถใช้ผ้าเช็ดได้อย่างหมดจด ส่วนกำลังวัตต์อยู่ที่ 500 วัตต์ และโถขนาด 1.75 ลิตร
7. OTTO เครื่องปั่นน้ำผลไม้ รุ่น BE-120
หากคุณไม่ชอบสีแบบเรียบ ๆ อยากได้ความฉูดฉาดคงหนีไม่พ้นเจ้าเครื่องนี้ ที่มีให้เลือกถึง 3 สี พร้อมกับราคาอันย่อมเยา แม้ว่าดีไซน์ปุ่มกดละตัวเครื่องจะดูย้อนยุคไปหน่อยก็ตาม สามารถใช้ปั่นน้ำผลไม้และบดอาหารแห้ง ตัวโถปั่นและโถบดแห้งทำจากพลาสติกคุณภาพสูง บมีดทำจากสแตนเลสอย่างดี ไม่เป็นสนิม สามารถปรับระดับได้ 2 ระดับ มีระบบวงจรป้องกันมอเตอร์ไหม้ (Circuit Breaker) และมีไม้พายสำหรับคนส่วนผสม ส่วนขนาดอยู่เพียง 1 ลิตร กำลังมอเตอร์ 350 วัตต์
8. Clarte เครื่องปั่นอเนกประสงค์ รุ่น FBL101P
ยังคงความคุ้มค่าต่อเนื่องกับแบรนด์ไทยราคาสบายกระเป๋า (แต่อาจจะหาซื้อยากนิดนึง) เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ใช้งานหนักมากมายอะไรนัก เพราะมีกำลังมอเตอร์เพียงแค่ 150 วัตต์ มาพร้อมโถปั่นน้ำผลไม้พลาสติกขนาด 1 ลิตร มีโถปั่นแห้งสำหรับใช้บดอาหารแห้ง เช่นเมล็ดกาแฟ, พริก หรือถั่ว และกระบอกกรองสำหรับใช้แยกกากจากการปั่นถั่วเหลืองเพื่อทำนมถั่วเหลือง ใครที่ชอบกินสมูตตี้เห็นแล้วน่าจะรักเลย
9. Smarthome เครื่องปั่นเอนกประสงค์ รุ่น BD-1510
สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์ไปกับเครื่องปั่นแบรนด์ไทยอีกรุ่นหนึ่ง ผลิตจากวัสดุคุณภาพดีที่ได้มาตรฐานทนทานต่อการใช้งาน ประสิทธิภาพการปั่นอันทรงพลังด้วยกำลังมอเตอร์ 300 วัตต์ ใช้งานง่ายกับดีไซน์ขนาดกะทัดรัด และปุ่มกดขนาดใหญ่ สีสันที่สดใสถูกใจใครหลายคนแน่นอน มาพร้อมโถปั่นพลาสติกและโถปั่นแห้ง วัสดุตัวเครื่องทำจากพลาสติก ABS และ PP โถปั่นทำจากพลาสติก PS ใบมีดทำจากสแตนเลสสตีล 201 ส่วนขนาดความจุอยู่ที่ 1.5 ลิตร
10. Worldtech เครื่องปั่นน้ำผลไม้ รุ่น WT-PB1800
จ่ายเท่ากันแต่ได้กำลังไฟมากถึง 1,800 วัตต์ เหมาะกับคนบ้านครอบครัวใหญ่ด้วยขนาดความจุโถขนาด 2 ลิตร แข็งแรงทนทาน ปั่นได้อเนกประสงค์ทั้งสมูทตี้ ผักผลไม้ น้ำแข็ง และอาหารอื่น ๆ ปุ่มเปิด-ปิดการทำงานใช้งานง่าย ดันขึ้นลง ไม่ซับซ้อน ใบมีดปั่นทำจากสเตนเลส 4 ใบ เพื่อการปั่นได้ละเอียดยิ่งขึ้น มอเตอร์ทองแดง 100% แข็งแรง ทนทาน ทรงพลัง ฝาปิดมียางแน่นทนทาน ปิดได้แน่น น้ำไม่ไหลรั่วซึม โถปั่นรับอุณหภูมิต้านทาน ได้ -40 ถึง 120 องศา สามารถปั่นของร้อนได้
สรุป
ในงบประมาณ 1,000 กว่าบาท สามารถหาซื้อเครื่องปั่นได้หลายรุ่นมาก (ทั้งแบรนด์อินเตอร์และแบรนด์ท้องถิ่น) สำหรับคนที่อยากได้สักเครื่องเอาไปใช้งานในครัว โดยหากใครมีงบสูงกว่านี้หน่อยจะได้เครื่องปั่นกำลังที่สูงขึ้น แต่เชื่อว่าหากเป็นการใช้งานธรรมดาทั่วไปคงไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ สำหรับเครื่องปั่นดูแค่สเปกอย่างเดียวไม่พอ ต้องดูเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยก็สำคัญไม่แพ้กัน ไม่แนะนำให้ซื้อสินค้าโนเนมที่ไม่มีมาตรฐานเด็ดขาด เพราะถึงแม้ว่าจะราคาถูกกว่าแต่ก็เสี่ยงอันตรายมากกว่าเช่นกัน
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial
