เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากที่วีโว่ไปจับมือกับ ZEISS ผู้ผลิตเลนส์ชื่อดังของโลก จนออกมาเป็นรุ่น vivo X60 Pro 5G ที่เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นที่ดีที่สุดของปีนี้ ในฐานะที่เว็บไซต์ iReview.in.th ได้เครื่องมาก็ถือว่าเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก ๆ เลยอยากจะเอามาแกะกล่องพร้อมกับพรีวิวให้ทุกคนได้ดูกันก่อนเปิดตัววันที่ 10 มิ.ย. 64

vivo X60 Pro

จุดเด่นของรุ่นนี้เลยก็คือการร่วมมือ (Co-engineered with ZEISS) มีการนำเอาเลนส์ Zeiss Vario Tessar ทำร่วมร่วมกับอัลกอริทึ่มลิขสิทธิ์เฉพาะ เพื่อให้ได้ภาพที่ออกมามีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร บวกกับวีโว่ได้นำระบบกันสั่นแบบ Gimbal ที่เคยใช้ใน vivo X50 Pro จนกลายมาเป็น vivo X60 Pro 5G รุ่นล่าสุด

นอกจากจุดเด่นเรื่องของกล้อง กล้อง และกล้อง ก็ยังมีเทคโนโลยีสุดล้ำทั้งหมดเท่าที่จะหามาได้อยู่ใน vivo X60 Pro อีกทั้งยังมีความเบาบางลง (179 กรัม) กระจกหน้าจอแบบโค้ง AMOLED อัตรารีเฟรชเรท 120 Hz สามารถใช้งานกันได้แบบราบลื่นด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 870 + RAM 12 GB และรองรับ 5G

สเปกและคุณสมบัติ

  • ระบบปฏิบัติการ Android 11 (ครอบทับด้วย Funtouch OS 11.1)
  • หน้าจอ AMOLED 3D Flexible Screen ขนาด 6.56″ (ความละเอียด 2376 x 1080 พิกเซล)
  • หน้าจอรองรับ HDR10+ อัตรารีเฟรชเรท 120Hz
  • หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 870
  • แรม 12 GB
  • รอม 256 GB (ไม่รองรับ microSD)
  • กล้องหลังแบบ 3 เลนส์ ออกแบบและพัฒนาร่วมกับ ZEISS
    • กล้องหลัก 48 MP (F/1.48) ระบบกันสั่น Gimbal ชนิด 5 แกน
    • กล้องถ่ายภาพมุมกว้าง 13 MP (F/2.2)
    • กล้องถ่ายภาพระยะไกล 13 MP (F/2.46)
  • กล้องหน้า 32 MP (F/2.45)
  • รองรับสองซิม 3G/4G/5G (N41/N78)
  • ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
  • แบตเตอรี่ 4,200 mAh รองรับ vivo FlashCharge 2.0 (33W)
  • ขนาด 158.58 x 73.24 x 7.59 มม.
  • น้ำหนัก 179 กรัม

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง
  • เคสพลาสติกใส
  • หูฟัง 3.5 มม. (พร้อมจุกปรับขนาด)
  • ตัวแปลงหูฟัง 3.5 มม. > USB-C
  • สายชาร์จ USB-C
  • อะแดปเตอร์ 33 วัตต์

อย่างที่บอกไปคือการจับมือร่วมกับ ZEISS มาพัฒนาในส่วนของกล้องในด้าน Hardware และ Software และใส่สเปกมาแทบทุกอย่างเท่าที่จะหาได้ แต่กลับมีน้ำหนักเบาจนน่าตกใจเพียงแค่ 179 กรัม ได้ขนาดหน้าจอ 6.56″ แต่ก็ยังจับได้ถนัดอยู่เพราะมีสัดส่วนหน้าจออยู่ที่ 90.1% เหมาะกับคนที่เน้นดีไซน์และคุณภาพ

เลนส์ของ ZEISS ให้ความคมและเบลออย่างเป็นเอกลักษณ์ บวกกับระบบ Gimbal Stabilization 2.0 ที่มีกันสั่นแบบกิมบอลถึง 5 แกน ทำให้สามารถถ่ายวิดีโอและภาพนิ่ง (โดยเฉพาะตอนกลางคืน) ได้แบบนิ่งมาก และเพิ่มประสิทธิภาพเข้าไปอีกด้วย Extreme Night Vision 2.0 ช่วยให้สามารถถ่ายกลางคืนสว่างดุจกลางวัน

การใช้งานเป็นชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 870 (5 นาโนเมตร) ถึงแม้ว่าจะเป็นรอง Qualcomm Snapdragon 888 แต่หากพูดถึงการใช้งานจริงก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก การที่มีหน้าจอ Refresh Rate สูงสุด 120Hz ช่วยเพิ่มประสบการณ์ใช้งานที่ดี บวกกับระบบชาร์จเร็ว 33W ใช้เวลาไม่นานแบตเตอรี่ก็ชาร์จเต็ม

สรุป

vivo X60 Pro เหมาะกับผู้ที่ต้องการ “กล้องที่โทรได้” อยากได้เลนส์คุณภาพสูง และดีอย่างเดียวไม่พอ คือต้องมีความเป็นเอกลักษณ์ ZEISS จะเรียกว่าสมาร์ตโฟนสำหรับช่างภาพก็ได้ แต่ทั้งนี้มันก็ยังคงความง่ายกับผู้ใช้งานทั่วไป ฟีเจอร์กล้องที่ใส่มามีคำอธิบายวิธีการใช้งานอย่างละเอียด คือคุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจทฤษฎีการถ่ายภาพ ก็สามารถถ่ายภาพกลางคืนแบบเส้นรุ้งสวย ๆ ได้ด้วย … ซึ่งเราจะรีวิวกันให้ทราบในบทความถัดไปครับ