หลังจากที่ได้ชมตัวพรีวิวกันไปแล้ว วันนี้เลยเอารีวิวมาให้ได้ชมกันบ้าง เกริ่นก่อนละกัน แท็บเล็ตตัวนี้ขึ้นชื่อว่าเบาและบางที่สุดในโลก ความบางเพียง 7.7 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 535 กรัม พร้อมกับความเร็วที่พอประมาณ เอาเป็นว่ามาดูกันเลยดีกว่าครับ

TOSHIBA-AT200-1

สเปกของ TOSHIBA AT200
– CPU 1.2 GHz Dual-Core ARM Cortex-A9 (TI OMAP4430)
– OS Android 3.2 Honeycomb (อัพเกรดเป็น Android 4.0 Ice Cream Sandwich ได้)
– ขนาด 256.54 มม. x 175.26 มม. x 7.7 มม.
– หนัก 535 กรัม
– หน้าจอ 10.1 นิ้ว
– RAM 1 GB
– กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล

TOSHIBA-AT200-6

อุปกรณ์ที่แถมมาด้วย
– แท็บเล๊ต TOSHIBA AT200
– วอลชาร์จ กับ Adapter
– คู่มือการใช้งาน

สัมผัสแรกที่รู้สึก ?

TOSHIBA-AT200-11

รู้สึกได้ว่าเบามาก ถือไปไหนมาไหนได้สบายเลย (เบากว่า iPhone ด้วยนะ หรือแค่รู้สึกไปเองนะ) เอาเป็นว่าตรงกับ Concept ที่ได้ตั้งไว้ ก็ถือว่าผ่านไปนิดนึงและครับ

หน้าจอกันการขีดข่วน ?

TOSHIBA-AT200-5

หลังจากที่ได้เห็นในงานเปิดตัวเจ้า AT200 ได้มีการทดสอบโดยใช้ คัตเตอร์กรีดโชว์ เลยอยากลองมั่ง ใช้ไขควงเลย ทั้งขีด ทั้งจิ้ม หน้าจอ โอ้ โอ้ โอ้ ไม่เป็นไรเลย สมกับชื่อ Gossila grass จริงๆ

ความละเอียดของกล้อง ?

TOSHIBA-AT200-9

TOSHIBA-AT200-8

จากที่ได้ทดสอบ กล้องที่ติดมายังมีความคมชัดไม่มากนักทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ในส่วนของความเร็วชัตเตอร์นั้นยังไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ถือเป็นจุดหนึ่งที่ยังสู้ แท๊บเล็ตตัวอื่นไมได้

พอร์ตที่แถมมาให้ครบถ้วน ?

TOSHIBA-AT200-7

พอร์ตที่มากับเจ้า AT200 มีมาให้ครบเลยครับ ทั้ง mini-USB, micro-SD, micro-HDMI และ dockingport ถือว่าเป็นการให้ความครบถ้วนของการเชื่อมต่อเลยทีเดียว

ลำโพงของ AT200

TOSHIBA-AT200-3

สำหรับลำโพงนั้น เสียงที่ออกมาค่อนข้างจะดังพอควร แต่รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเพราะเท่าไหร่ กับการทดสอบใส่หูฟัง ใส่หูฟังเพราะกว่าตั้งเยอะเลย

ปุ่มเปิดปิดที่เล็ก ?

TOSHIBA-AT200-10

สำหรับเรื่องปุ่ม ตอนที่ได้จับครั้งแรก หาไม่เจอ = =” มันเล็กไปหน่อย และสีที่ดูกลมกลืนกับ Body มันเลยทำให้หายากหน่อย แต่ถ้าเทียบกับขนาดของเจ้าแท็บเล็ตตัวนี้ก็ถือว่าโอเคอยู่นะครับ

การดีไซน์ ?

TOSHIBA-AT200-2

เกือบลืมไป เพราะมีคนพูดเยอะมากเมื่อเห็นเจ้า AT200 ครั้งแรก คือ มันสวย เห็นแล้วอยากได้ ส่วนมากชอบที่รูปทรงกันมากเลย

TOSHIBA-AT200-4

เทียบกับเหรียญบาทให้ดูกันจะ จะ ไปเลย ประมาณครึ่งหนึ่งของเหรียญบาทเลยทีเดียว บางมาก 😀

ข้อดี
1. คงหนีไม่พ้นเรื่องความเบาและบาง
2. ความเร็วของการทำงาน
3. พอร์ตที่ให้มาครบ

ข้อสังเกต
1. เรื่องของราคาที่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับแท็บเล็ตตัวอื่น

สรุป
เจ้าแท็บเล็ต AT200 ตัวนี้ที่เป็นจุดขายก็มีแต่ความเบาและบาง แต่ด้วยราคาที่ถึง 20,900 บาท ที่อาจจะสูงไปหน่อย ถ้าเทียบกับตัวอื่น ที่มีราคาที่ต่ำกว่า และหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ราคาจึงถือเป็นจุดหนึ่งที่เป็นข้อเสีย ของเจ้า AT200 เลยครับ