Dyson Pure Cool Link เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการผลิตพัดลมไร้ใบ แถมมีคุณสมบัติกรองอากาศในตัว รองรับการสั่งงานผ่าน App กำจัดอนุภาคที่ขนาดเล็ก 0.1 ไมครอน ได้สูงสุดถึง 99.95% และสิ่งที่หลายคนไม่รู้คือในอาคาร มีมลพิษทางอากาศมากกว่าภายนอกอาคารถึง 5 เท่า และชีวิตส่วนใหญ่เราใช้ชีวิตอยู่ภายในอาคารประมาณ 90%
Dyson Pure Cool Link
พัดลมสุดเทพตัวนี้ แบบทาวเวอร์ ราคา 31,900 บาท (ตัวที่รีวิว) แบบตั้งโต๊ะ ราคา 25,900 บาท รับประกันคุณภาพ 2 ปี (ฟรีค่าแรงและค่าอะไหล่ ภายใต้เงื่อนไขการรับประกัน) แน่นอนว่าราคาสูงขนาดนี้ต้องมีอะไรดีแน่นอน ซึ่งเราจะกล่าวถึงในรีวิวนี้
วางจำหน่ายที่: ห้างสรรพสินค้าและร้านอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ อาทิเช่น เซ็นทรัล ชิดลม / เพาเวอร์บาย เซ็นทรัลเวิล์ด / เซ็นทรัล ลาดพร้าว / พารากอน / เอ็มโพเรียม / เดอะมอลล์ บางกะปิ / เดอะมอลล์ บางแค / ฯลฯ
ความรู้สึกแรกของพัดลมสุดเทพตัวนี้ก็คือ “ทำไมแพงจัง” ซึ่งถึงแม้ผมจะมีประสบการณ์ที่ดีกับ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson DC62 และ Dyson DC74 มาแล้วก็ตาม แต่ยังไงก็ต้องยอมรับว่า Dyson คือเบอร์หนึ่งของโลกในเรื่องของเทคโนโลยีเครื่องดูดฝุ่น ส่วนพัดลมที่มีหลักการคล้ายกันก็น่าจะวางใจได้เรื่องคุณภาพ
ในมุมมองของคนทั่วไป (รวมถึงผมเองในตอนแรกเห็น) คือมันก็แค่พัดลมไร้ใบแล้วก็ควบคุมได้ผ่าน App ทำไมถึงต้องแพงขนาดนี้ หรือว่าอันที่จริงแล้วมันจะมีความสามารถอื่นซ่อนอยู่ เป็นการรีวิวพัดลมที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิตผมเลยก็ว่าได้
แกะกล่องมาสิ่งที่เจออย่างแรกเลยก็คือรีโมท ที่แค่ดีไซน์ก็ชนะขนาดแล้วสองข้างสมดุล ราวกับว่าบริษัทนี้มีปรัชญาการดีไซน์ออกแบบมาเพื่อ User Friendly เฉกเช่นเดียวกับ Apple ไม่มีผิด นอกจากนี้ผมยังได้เห็นการตั้งค่าสุดง่ายผ่านทางแอปพลิเคชัน อ้อ … ลืมบอกไปมันสามารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ในบ้านได้ด้วยนะ
ไม่ใช่แค่พัดลมแต่คือเครื่องกรองอากาศ
อีกหนึ่งความสามารถที่ Dyson Pure Cool Link สามารถทำได้ (และทำได้ดี) ก็คือเรื่องกรองอากาศผ่านฟิลเตอร์ HEPA ในแบบ 360 องศา สามารถกำจัดสารก่อภูมิแพ้และมลภาวะขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอนได้ถึง 99.95% ซึ่งมันเล็กกว่าเส้นผมประมาณพันเท่า
ในขณะที่เครื่องกรองอากาศบางรุ่นที่โฆษณาว่า กรองอากาศได้ถึง 99.00% และความต่างเพียง “0.95%” ดูจากตัวเลขเหมือนจะน้อย แต่แท้จริงแล้วประสิทธิภาพนั้นต่างกันถึง 20 เท่า !!! ภายใต้มาตรฐาน EN1822 (100% – 99.95%) / (100% – 99%) = 20 (100% หมายถึงประสิทธิภาพสูงสุด)
เครื่องกรองอากาศยี่ห้อดีหน่อย ส่วนใหญ่ก็ราคาหลักหมื่นทั้งนั้น
ดังนั้นจึงพออนุมานได้ว่าราคาที่จ่ายไปของ Dyson Pure Cool Link ราคา 25,900 – 31,900 บาท ก็ไม่ได้เป็นราคาที่แพงแบบไม่มีเหตุผลอะไรขนาดนั้น ให้ราคาดีไซน์ + เทคโนโลยี + ประสิทธิภาพ (กรองอากาศ) รวมแล้วมีเหตุผล
ความเซอร์ไพร์สอีกอย่างก็คือการเก็บรีโมทของ Dyson ทำออกมาได้เก๋มาก คือด้วยความโค้งของตัวรีโมทบวกกับความโค้งของพัดลม สามารถยึดติดกันได้ด้วยแม่เหล็ก คราวนี้รีโมทก็ไม่หายแล้ว ไชโย !!!
ด้านล่างเป็นปุ่มเปิดเพียงปุ่มเดียว (อันที่จริงสั่งผ่านรีโมทก็ได้) รวมถึงเป็นหน้าจอการแสดงผลขนาดเล็กในตัว
รีโมทระยะทำการประมาณ 3-4 เมตร ดูจากรูปภาพก็เข้าใจได้เลยโดยไม่ต้องสอน (แต่สอนหน่อยเถอะเดี๋ยวไม่รู้จะเขียนรีวิวอะไร) ประกอบไปด้วยปุ่มเปิด-ปิด, การสั่งงานอัตโนมัติ, เพิ่ม-ลดความแรง, ตั้งเวลา, ส่าย, โหมดกลางคืนซึ่งจะเป็นการหรี่ไฟ LED และลดความเร็วของพัดลมให้ไม่เกินเบอร์ 4 ลมและเสียงจะได้ไม่แรงจนเกินไป
เชื่อมต่อผ่าน App
อย่างที่กล่าวข้างต้นคือพัดลมตัวนี้เชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ภายในบ้านได้ (พัดลมมี Cloud เท่ที่สุด) นอกจากนี้ยังมีเฟิร์มเวอร์ให้อัปเดตด้วย และถ้าคุณขึ้เกียจหยิบรีโมทก็กดผ่านสมาร์ทโฟนได้เลย รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS
ไม่เพียงแค่ไว้สั่งงานแทนรีโมท Dyson Link App ยังสามารถตรวจสอบอากาศภายในบ้านได้ด้วย สามารถบอกอุณหภูมิและความชื้นผ่านเซ็นเซอร์ที่อยู่ภายใน และเปรียบเทียบกับอากาศที่อยู่ภายนอกบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าเราสามารถสั่งงานให้ฟอกอากาศอัตโนมัติ เมื่ออากาศภายในบ้านแย่ได้ด้วย
ข้อมูลทั้งหมดสามารถเก็บเป็นกราฟเพื่อรวบรวมสถิติได้ด้วย บางครั้งอากาศที่แย่อาจมาจากลมภายนอกที่พัดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หรือแม้กระทั่งการทำกับข้าวภายในบ้านของคุณเอง (จากที่ทดสอบก็พบว่าจริง) และจากคอนโดห้องขนาด 40 ตรม. ของผมเองเปิดประกาศ 15 นาที ก็เปลี่ยนอากาศจาก Fair เป็น Good ได้เลย
ขนาดพัดลมแบบทาวเวอร์กำลังพอดี ความสูงประมาณหน้าอกหากนั่งเก้าอี้ก็สามารถพัดได้ทั้งตัว ด้วยน้ำหนักขนาด 3.7 กิโลกรัม สามารถเคลื่อนย้ายได้ไม่ลำบาก ความแรงปรับได้ 10 ระดับ ตั้งส่ายได้โดยไม่กินพื้นที่เพิ่มแต่อย่างใด
ความลับพัดลมไร้ใบ
สำหรับพัดลมไร้ใบปลอดภัยกับเด็กและสัตว์เลี้ยง สามารถยื่นมือหรือแหย่วัตถุได้อย่างไม่เป็นอันตราย ซึ่งความลับก็คือการดูดอากาศจากข้างล่าง (ผ่านไส้กรองอากาศ) จากนั้นส่งแรงลมมาตามท่ออากาศ โดยทางวิศวกรได้นำความรู้ด้านพลศาสตร์ของไหล คำนวณอย่างแม่นยำจึงออกมาเป็นพัดลมไร้ใบนั่นเอง
ตรงนี้เป็นช่องซึ่งจะดูดอากาศเข้าไปจากรอบทิศทาง
ส่วนอันนี้มอเตอร์เล็กแต่ทรงพลัง (ต่างจากของจีนที่ขายทั่วไป)
และอันนี้ก็เป็นแผ่นกรองแบบวงกลม (สามารถเปลี่ยนได้) โดยการออกแบบของ Dyson ทำให้มันออกมาเป็นพัดลมและเครื่องกรองอากาศขนาดเล็ก ต่างจากเครื่องฟอกอากาศทั่วไปที่จะใช้มอเตอร์ AC และแผ่นกรองขนาดใหญ่ ทำให้มีขนาดเทอะทะกินพื้นที่ภายในบ้าน … สำหรับคนอยู่คอนโดคงทราบดีว่าเรื่องพื้นที่เป็นอะไรที่ซีเรียสมาก
ส่วนตรงนี้จะเป็นเซ็นเซอร์คอยตรวจจับอากาศนั่นเอง
Dyson Link App
แอปพลิเคชันสามารถตรวจสอบอากาศได้ตั้งแต่
- Good
- Fair
- Poor
- Very Poor
และยังแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนฟิลเตอร์ได้ด้วย
การสั่งงานผ่าน App สามารถสั่งได้จากนอกบ้าน ยกตัวอย่างเช่น เวลาเหนื่อย ๆ กลับบ้านมาเราก็อยากที่จะมีอากาศที่สดชื่น (เหมือนแอร์บางรุ่นที่สั่งงานนอกบ้าน กลับมาถึงบ้านแล้วเย็นเลยไม่ต้องรอ) รวมถึงสามารถตั้งกำหนดการทำงานได้ อย่างผมตั้งให้เปิดอัตโนมัติทุกสองทุ่มและปิดทุกหกโมงเช้า
ความสะดวกอีกอย่างก็คือเวลาเรานอนอยู่ หากรู้สึกว่าร้อนหรือเย็นเกินไป ก็สามารถสั่งงานจากสมาร์ทโฟนได้เลย ไม่ต้องคลำหารีโมทรวมถึงไม่ต้องเล็งไปกดที่พัดลม อันนี้สะดวกดีชอบมาก แต่หลัก ๆ ส่วนใหญ่จะใช้ App เพื่อดูรายงานสภาพอากาศในบ้านมากกว่า
ต่างจากเครื่องกรองอากาศอย่างไร
คำถามยอดฮิตในใจหลายคนคือ “แล้วจะต่างจากเครื่องกรองอากาศอย่างไร” สรุปสั้นก็คือ Dyson Pure Cool Link มันเหมือนการซื้อเครื่องกรองอากาศ + พัดลม และความแตกต่างก็มีดังนี้
- เครื่องฟอกอากาศทั่วไปไม่สามารถฟอกอากาศได้ทั้งหมด เครื่องฟอกอากาศหลายรุ่นมีการดึงอากาศที่รุนแรง และเป็นสาเหตุทำให้ฝุ่นละอองบางส่วนเล็ดลอดออกมา
- เครื่องฟอกอากาศทั่วไปไม่สามารถปรับทิศทางได้ โดยปกติแล้วเครื่องฟอกอากาศแบบตั้งพื้น จะไม่สามารถปรับทิศทางได้ และอากาศที่กรองมาแล้วจะถูกส่งทิ้งไปที่เพดานเป็นส่วนใหญ่
- เครื่องฟอกอากาศทั่วไปใหญ่เทอะทะ ด้วยขนาดฟิลเตอร์และมอเตอร์ขนาดใหญ่โดยไม่จำเป็น จึงทำให้กินขนาดพื้นที่ในบ้านโดยสูญเปล่า บวกกับเป็นเพียงแค่เครื่องฟอกอากาศอย่างเดียว คุณต้องซื้อพัดลมเพิ่มอีกตัวยิ่งเกะกะเข้าไปอีก
- เครื่องฟอกอากาศทั่วไปไม่มีระบบตรวจสอบอากาศ และถึงแม้จะมีระบบอัตโนมัติ แต่ระบบตรวจสอบสภาพอากาศอาจไม่มีคุณภาพเพียงพอ จึงทำงานแค่เฉพาะตอนสภาพอากาศแย่จนถึงที่สุดจริง ๆ
- เครื่องฟอกอากาศทั่วไปดูแลรักษายาก โดยปกติแล้วจำเป็นต้องถอดแผ่นกรองมาล้างทำความสะอาดทุกเดือน และจำเป็นต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อรอแห้ง ซึ่งระหว่างนั้นคุณจะฟอกอากาศไม่ได้เลย (เว้นแต่มีสำรอง)
หากคุณต้องการซื้อเครื่องกรองอากาศอยู่แล้ว การเลือกบวกเงินอีกสักหน่อยเพื่อได้พัดลมในตัว และหากคุณต้องการของประดับห้องไปในตัวด้วยยิ่งตอบโจทย์เลย เหมาะกับคนที่อยู่คอนโดที่พื้นที่ทุกตารางเมตรมีค่า และไม่ต้องการความยุ่งยากในการจัดเก็บหรือดูแลรักษา
ข้อดี
- ดีไซน์ล้ำสมัย พิถีพิถันในทุกรายละเอียด
- กรองอากาศและเป็นพัดลมในตัว
- มีระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศ
- สั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน
ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างสูง
- เสียงดังไปนิดเมื่อเปิดเบอร์สูง
สรุป
ด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัย ไม่กินพื้นที่ บวกกับเทคโนโลยีที่ผนวกเข้าไปจนทำให้สมราคา ส่วนอากาศที่ได้จะเป็นอากาศที่สะอาดอย่างแท้จริง เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มาพร้อมกับความทันสมัย หากคุณติดใจเป็นแฟนเครื่องดูดฝุ่นของ Dyson ก็น่าจะหลงรัก Dyson Pure Cool Link ได้ไม่ยาก