หลังจากงาน #Unpacked5 ที่มีการถ่ายทอดสดพร้อมพากษ์ไทยผ่าน http://www.samsung.com/th/unpacked5/ ณ เวลาตี 2 ประเทศไทย (ใครจะอยู่ฟังนะ) ถึงแม้จะมีเสียงบนเสียงด่ากันบ้างสำหรับคนพากษ์ว่าเสียงบรรยายไม่ดีบ้าง ฟังไม่รู้เรื่องบ้าง คนพากษ์ไม่มีความรู้บ้าง ฯลฯ (เอาเป็นว่าเปล่าประโยชน์เพราะฟังภาษาฝรั่งยังดีกว่า) ดังนั้นตามจารีตธรรมเนียมเราจะมาสรุปฟีเจอร์คร่าว ๆ กันสำหรับคนไม่มีเวลาดูทั้งหมด
Galaxy S5 ถือเป็นมือถือรุ่นเรือธงจาก Samsung (หรอ) และถึงแม้ว่ากระแส Note จะทำได้ดีกว่าก็ตาม แต่ Samsung ก็ยังยืนยันว่ารุ่น S นี่แหล่ะคือสุดยอดของ Samsung ส่วนดีไซน์การออกแบบยังยึดถือแบบเดิมอยู่ตั้งแต่สมัย S3, S4 เรื่อยมา
สเปค : Samsung Galaxy S5
- ระบบปฏิบัติการ : Android 4.4.2 และ TouchWiz แบบใหม่
- หน้าจอ : Super AMOLED 5.1″ ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล 432PPI
- หน่วยประมวลผล : Quad-core 2.5Ghz Snapdragon (อาจเป็นรุ่น 801 หรือ 805)
- แรม : 2GB (น้อยไปนิดนะผมว่า)
- รอม : 16GB, 32GB เพิ่ม Micro SD ได้เหมือนเดิม
- กล้องหลัง : 16MP โฟกัสได้ไวสุด 0.3 วินาที รองรับการถ่าย 4K และ Slowmotion ที่ 720P
- กล้องหน้า : 2.1MP
- ไร้สาย : LTE, NFC, WiFi B/G/N/AC, MIMO, Bluetooth 4.0
- พอร์ท : USB 3.0
- แบตเตอรี่ : 2,800 mAh
อึดทนทานกันน้ำได้
นอกจากนี้ยังสามารถกันน้ำได้ในระดับ IP67 (แต่ทาง Samsung บอกว่ากันฝนเฉย ๆ อย่าเอาไปจุ่มน้ำนะ)
ประหยัดพลังงานสุดขีด
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่แนะนำสำหรับคนเมืองก็คือ Ultra Power Saving Mode เป็นโหมดประหยัดพลังงานแบบสุดขีด โดยจะปรับหน้าจอให้เป็นขาวดำเพื่อให้ใช้งานได้อีกประมาณ 24 ชั่วโมง (หากแบตเตอรี่เหลือแค่ 10%) อันนี้น่าจะตั้งให้ทำงานอัตโนมัติได้แต่ข้อเสียก็คือคุณจะใช้งานอะไรไม่ได้เลยนอกจากโทรเข้าออกและ SMS
ดาวน์โหลดสุดพลัง
ฟีเจอร์ Download booster สำหรับงานที่ต้องการความเร็วแบบด่วนนรกโดยการใช้ WiFi และ LTE ร่วมกัน (เปลือง Data ตายเลย อีกทั้ง WiFi เมืองไทยก็ไม่ได้ช้าขนาดนั้น) สำหรับผมคิดว่าถ้าต่อ WiFi ได้ก็คงไม่มีอะไรด่วนกว่านี้อีกแล้วล่ะ เว้นเสียแต่ว่าอยู่ในที่ห่างไกลความเจริงไม่มี WiFi ส่วน 3G ก็ช้าถ้าให้เพื่อนแชร์ WiFi Tethering ให้แบบนี้ก็น่าจะมีประโยชน์
รักสุขภาพกันมากขึ้น
หลังจาก Apple เปิดตัวชิป M7 คราวนี้ Samsung ก็เน้นสุขภาพเช่นเดียวกัน ด้วยการพัฒนา S Health ที่มีอยู่เดิมให้รองรับอุปกรณ์มากยิ่งขึ้น (ใช้กับ Censor ในเครื่องตรงกล้องที่วัดอัตราการเต้นของหัวใจ) รวมถึงการเก็บข้อมูลและสถิติประเภทต่าง ๆ และอุปกรณ์เสริมขายแยกอย่าง Samsung Gear Fit
สแกนลายนิ้วมือ
ใคร ๆ ต่างก็เรียกร้องสแกนลายนิ้วมือเมื่อ Apple เปิดตัว iPhone 5s และแน่นอนว่า Samsung ก็จัดให้ตามขอมีสแกนลายนิ้วมือในปุ่ม Home ซึ่งรองรับการจ่ายเงินบน Samsung Store กับ Paypal
สรุป
จากการที่ถามความเห็นหลาย ๆ คนมาส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบในดีไซน์ของ Galaxy S5 เท่าไหร่นัก (ผู้หญิงบางคนแซวว่าสีขาวเหมือนผ้าอนามัยเลย) ส่วนเทคโนโลยีที่เพิ่มเข้ามาก็จะเน้นไปทางเทรนด์ของ Wearable device เสียมากกว่า เรื่องแบตเตอรี่อันนี้หลายคนคงเบาใจเพราะมากกว่าเดิมถึง 20% สำหรับสเปคอื่น ๆ นอกนั้นยังดูเฉย ๆ ไม่ค่อยน่าตื่นตาซักเท่าไหร่ Galaxy S5 จะเริ่มขายประมาณเดือนเมษายนนี้มีโดยเริ่มที่สี ดำ ฟ้า ขาว และทองแดง ส่วนราคายังไม่ระบุ (ถ้าถูกกว่าเดิมคงน่าตื่นเต้นมากเลยทีเดียว)
ถ้ายังไงหากทีมงานได้รับเครื่องจริงมาเมื่อไหร่จะรีบรีวิวให้ทราบกันในทันทีครับ แต่ที่แน่ ๆ หักลบคะแนนเรื่องดีไซน์ไว้ก่อนเลย เพราะผมประทับใจงานดีไซน์ของ Galaxy S3, Galaxy S4 มากกว่า ความรู้สึกหลังได้ดูงาน #Unpacked5 ก็คือเหมือน Galaxy S5 เป็นรุ่นที่ทำออกมาคั่นกลางเพื่อรอตัวจริงยังไงก็ไม่รู้แฮะ (หรือผมอาจจะแค่คิดไปเอง) กลัวว่าเร็ว ๆ นี้ Samsung อาจจะมีอีกซักรุ่นออกมาเพื่อหักหลังคนซื้อก่อนเลย
ที่มา – samsung