Motorola G สุดยอดมือถือที่คิดว่าใคร ๆ ก็คงจะรู้จัก Motorola G สุดยอดความคุ้มค่าที่มากับราคาเบา ๆ แถม Motorola ยังเป็นธุรกิจที่ Google พึ่งซื้อมาหมาด ๆ แบบนี้จะไม่ศรัทธาได้ไง? (แน่นอนว่าตอนนี้เป็นของ Lenovo ไปแล้ว) และเสียงตอบรับก็ล้นหลามอย่างที่อินเดียนี่ขายหมดภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง

Review-Motorola-G (1)

สำหรับ Motorola G (ต่อไปนี้ขอเรียกว่า Moto G) จะแบ่งออกเป็น 3 รุ่นตามความเข้าใจผมดังนี้

  • Moto G รุ่นปกติออกมาตัวแรก (กล่องกลางที่ผมจะรีวิว) ภายในมี App และการปรับแต่จาก Motorola เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น Camera, Gallery
  • Moto G รุ่นสองซิม (กล่องซ้ายที่ผมจะรีวิว) มีจำหน่ายในบางประเทศ เช่น มาเลเซีย อินเดีย ฯลฯ เหมือนกับรุ่นปกติเพียงแต่มีสองซิมและใช้งาน 3G ได้ทั้งสองซิม
  • Moto G GPE (Google Play Edition) ตัวนี้จะไม่มี App แฝงใด ๆ เลยเช่นเดียวกับ Nexus และได้มาตรฐานทุกอย่างของ Google ข้อเสียก็คือไม่มี FM

สำหรับการรีวิวครั้งนี้จะไม่มีตัว Moto G GPE มาเกี่ยวข้องนะครับ เนื่องจากผมไม่มีแต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าคงเหมือนกับ Moto G รุ่นปกติทุกประการ ยกเว้น Software ภายในที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน Google (แต่ของเดิม ๆ ก็แทบไม่ได้ปรับปรุงหรือยุ่งอะไรมันอยู่แล้วนี่หว่า)

Review-Motorola-G (2)

ภายในอุปกรณ์ของแต่ละรุ่นจะไม่เหมือนกัน สำหรับรุ่นสองซิมจะมีอุปกรณ์พิเศษหน่อยตรงที่ได้หูฟังและที่ชาร์จ (แบบถอดสอยชาร์จไม่ได้) นอกจากนั้นจะได้เฉพาะสาย Micro USB

Review-Motorola-G (3)

สายชาร์จเป็นแบบเบา ๆ ที่ 500mA

Review-Motorola-G (4)

สำหรับ Moto G รุ่นปกติที่ไม่ใช่สองซิมจะแถมสาย Micro USB สั้น ๆ แบบนี้ครับ

Review-Motorola-G (5)

อุปกรณ์เปรียบเทียบระหว่างรุ่นสองซิม (เครื่องจากมาเลเซีย) กับรุ่นปกติ เห็นได้ชัดว่ารุ่นสองซิมจะคุ้มกว่าเพราะได้ทั้ง

  • Moto G
  • ที่ชาร์จ
  • หูฟัง
  • ฟิล์ม
  • ฝาหลังแบบสุ่มอีกหนึ่งสี

ส่วนรุ่นปกติจะได้ที่สาย Micro USB แบบสั้นหัวเดียวกระเทียมลีบ (บางสายบอกว่าได้ฟิล์มด้วย)

Review-Motorola-G (6)

ส่วนผมไปซื้อมาที่มาเลเซียประมาณสองสัปดาห์ก่อนได้ส่วนลด RM10 แล้วก็ Mobile Flash Drive จาก Apacer มาด้วยอีก 8GB (เป็นของแถมพิเศษจากร้าน Harvey Norman) ตอนนั้นจ่ายไปแค่ RM788 (ประมาณ 7,800 บาท)

Review-Motorola-G (7)

กล่องด้านบนจะเป็นเครื่องรุ่นปกติครับ ส่วนกล่องด้านล่างจะเป็นรุ่นสองซิม หนาขึ้นมานิดนึง

Review-Motorola-G (8)

เทียบกันจะ ๆ สำหรับ Moto G ทั้งสองรุ่นก็ไม่มีความแตกต่างอะไรเป็นที่สำคัญมากมายอะไรนะครับ ส่วนความจุแบ่งออกเป็นรุ่น 8GB และ 16GB ราคาต่างกันประมาณ 1,000 บาท ส่วนตัวผมค่อนข้างจะเอนเอียงไปทางรุ่น 8GB มากกว่า เพราะราคาเครื่องก็ถูกกว่าและความจุก็ต่างกันประมาณแค่ 8GB หากสาเหตุที่คุณซื้อ Moto G เพราะราคาถูกการที่ซื้อสเปค 16GB ก็เท่ากับว่าราคามันไม่ถูก แล้วแบบนี้ซื้อ Nexus 4 หรือ Nexus 5 ไม่ดีกว่าหรือ?

ส่วนอีกสาเหตุคือ Moto G มีขนาดหน้าจอที่ไม่ใหญ่มากและสเปคก็ไม่ได้แรงเวอร์มากมายอะไร RAM 1GB (แต่ก็ยังลื่นอยู่) คงไม่เหมาะกับการเล่นเกมความจุเยอะ ๆ อยู่แล้ว

Review-Motorola-G (9)

ด้านซ้านเป็นเครื่องสองซิม (มาเลเซีย) สัญลักษณ์ Motorola กลับเป็นสีขาว (งงจัง) อันนี้ก็ไม่รู้ว่าผู้ผลิตจะทำออกมาให้เป็นปริศนาธรรมให้ขบคิดหรืออย่างไร

สเปคของ Moto G

  • ระบบปฏิบัติการ : Android 4.4.2
  • หน้าจอ : IPS 4.5″ (ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล ~ 329 PPI), กระจก Gorilla Glass 3
  • หน่วยประมวลผล : Snapdragon 400 Quad-core 1.2 GHz
  • แรม : 1 GB
  • รอม : 8 GB, 16 GB (แล้วแต่รุ่น) พร้อมฟรี Google Drive 50 GB (2 ปี) เพิ่มเมมไม่ได้
  • กล้องหลัง : 5 MP, บันทึกวิดิโอ HD 720p+HDR
  • กล้องหน้า :  1.3 MP
  • รองรับ 3G : Quadband (850/900/1900/2100 MHz)
  • ไร้สาย : WiFi (B/G/N), Bluetooth 4.0
  • แบตเตอรี่ : 2070 mAh
  • ขนาด : 129.9 x 65.9 x 11.6 มม.
  • น้ำหนัก : 143 กรัม

ราคาเพียงแค่หกพันกว่าบาท จัดเต็มมาขนาดนี้แบรนด์เล็กตายอนาถครับ (แต่ก็แปลกที่คนหลายคนยังเลือก I-mobile และหลอกตัวเองว่าคุ้มอยู่)

Review-Motorola-G (10)

แบตเตอรี่ของ Moto G ไม่สามารถถอดได้ทุกรุ่นและถึงแม้แบตเตอรี่จะมีเพียงแค่ 2070 mAh แต่ถ้าหากใช้งานแบบเบา ๆ แล้วล่ะก็สามารถอยู่ได้ถึงสองวันเลยทีเดียว การที่ทาง Moto G ทำออกมาได้แบบปราณีตขนาดนี้บ่งบอกได้เลยว่าวิศวกรคงต้องทุ่มเทเป็นอย่างมากอย่างแน่นอน และข้อควรรู้เกี่ยวกับ Moto G ก็คือ

  • Moto G ไม่มีฟีเจอร์ของ Moto X อยู่เลย เช่น Active Display, Quick Capture
  • Moto G ยังคงมีสารเคลือบกันน้ำอยู่เหมือน Moto X (คลิปฝรั่งโชว์แช่น้ำได้ถึง 30 นาที)
  • Moto G มีฝาหลัง 19 สี 19 แบบ และเปลี่ยนได้เลือกได้ 3 ประเภทหลัก (ขายแยก)
  • ทีมซอฟต์แวร์ Moto G ได้บอกว่าได้มีการปรับแต่งมาดีมาก ๆ จนชนะ Galaxy S4 ในเรื่อง
    1. รับสาย เร็วกว่า 1.2 วินาที
    2. โทรออก เร็วกว่า 1.1 วินาที
    3. เปิดบราวเซอร์ เร็วกว่า 0.5 วินาที
    4. กลับหน้าหลัก เร็วกว่า 0.5 วินาที
    5. บูทเครื่องเร็วกว่า เร็วกว่า 5.3 วินาที

ส่วนเรื่องความแตกต่างระหว่าง Moto G GPE มีข่าวลืออยู่บ้างว่าอาจจะไม่มีการปรับแต่ง Software จากทาง Motorola ในเรื่องเสียงสนทนา, แบตเตอรี่, ฯลฯ (เป็นแค่ข้อสันนิฐานต้องพิสูจน์กันอีกที) ส่วนตัวผมไม่มีเครื่อง GPE เลยไม่สามารถตอบได้ครับว่าแตกต่างกันจริงหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ คือ App กล้องและอัลบั้มภาพไม่เหมือนกัน ที่สำคัญรุ่น GPE ไม่สามารถฟังวิทยุ FM ได้

Review-Motorola-G (11)

อันนี้เทียบดูจะเห็นได้ว่าเครื่องด้านบนรุ่นปกติซิมเดียวเหมือนงานประกอบฝาหลังหรืออะไรซักสิ่งมันจะไม่ค่อยสนิท ต่างจากเครื่องสองซิมที่อยู่ด้านล่าง อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าเกิดเพราะอะไรแล้วมันเกิดเฉพาะเครื่องผมคนเดียวหรือไม่ (พึ่งสังเกตเห็นเหมือนกัน)

Review-Motorola-G (12)

ฝาหลังสีเหลืองจะเป็นของเครื่องสองซิมที่ผมซื้อมาจากมาเลเซียแถมมา (แต่ร้านที่ขายในเน็ตส่วนใหญ่จะอุบอิ๊บไว้เอง) ส่วนด้านขวาจะเป็นแบบขายแยกที่ซื้อมาจาก US งานประกอบต่างกันครับแบบที่ซื้อแยกรู้สึกว่ามันสากน้อยกว่าเนียนกว่า หรืออาจจะเป็นเพราะมันแค่คนละสีก็เป็นได้ หรืออย่างแย่ที่สุดก็คือผมคิดไปเอง

Review-Motorola-G (13)

สำหรับสีที่แนะนำก็จะเป็นฟ้าเขียวอย่างขวาที่ผมซื้อมา แต่จะว่าไปสีแดงก็สวยดีเหมือนกันนะ

Review-Motorola-G (14)

เหมือนมีรอยดินสอเบา ๆ เช่นเดียวกัน (ระวังไว้) สำหรับผมแล้ว Moto G ที่ใช้ฝาหลังที่ดำมันช่างดูเฉย ๆ เสียเหลือเกิน แต่พอได้เปลี่ยนฝาหลังเป็นแบบสี ๆ แล้วความรู้สึกมันต่างกันลิบลับ และผมก็แนะนำให้ทุกคนซื้อมาเปลี่ยนครับ เพราะว่ามันแจ่มมากหากใครไม่ซื้อถือว่าพลาดมาก

Review-Motorola-G (15)

เครื่องเปิดตอน Boot ระหว่างรุ่น GPE กับรุ่นอื่นก็จะมีความแตกต่างกันเช่นเดียวกัน ซึ่งก็ไม่มีผลกับการใช้งานหรอกนะ

Review-Motorola-G (16)

หน้าจอของ Moto G ความละเอียด HD (720P) ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับจอขนาด 4.5″ มองไม่เห็นพิกเซลเลยแม้แต่น้อย หากเทียบ PPI แล้วอยู่เท่ากับ iPhone 5s เพียงแต่ Moto G มีหน้าจอขนาดใหญ่กว่า จึงมี Resolution ที่สูงกว่านั่นเอง (หน้าจอความชัดเท่ากันแต่ Moto G มีขนาดจอที่ใหญ่กว่าและมีพื้นที่ให้วางพิกเซลได้มากกว่า)

Review-Motorola-G (17)

งานประกอบของ Moto G อยู่ในขั้นที่ละเอียดและแน่นมาก ๆ ยิ่งกว่าเครื่องของ Samsung ในราคาสองหมื่นกว่าบาทเสียอีก ขอติตรงที่ฝาหลังเป็นแบบดำด้านทำให้มีความสกปรกของคราบลายนิ้วมือเป็นอย่างมาก ซึ่งผมใช้เองยังหงุดหงิดเลยและคำแนะนำเหมือนเดิมคือ “หาฝาหลังสีอื่นมาเปลี่ยนซะ”

Review-Motorola-G (18)

ท้ายเครื่องเป็นช่องเสียบ Micro USB และไมค์ (แกะฝาหลังก็แกะจากตรงนี้)

Review-Motorola-G (19)

ปุ่มปรับเสียงอยู่ด้านข้างเครื่อง ส่วนเรื่องการรับเสียงเท่าที่ลองสนทนาดูขอบอกว่า “ชัดมาก” อาจเป็นเพราะเทคโนโลยีเก่า ๆ ของ Motorola อย่าง Crystaltalk ที่มีสมัยชาติปางก่อน (ไม่รู้ตอนนี้พัฒนาไปถึงไหนแล้ว) อาจถูกฝังมาใน Hardware หรือ Software ของ Moto G ทำให้สามารถสนทนาได้ชัดเจน สำหรับผมลองเปิดลำโพงแล้วสนทนาปรากฎว่าทำได้ดีกว่าหลายรุ่นที่ผมถืออยู่

Review-Motorola-G (20)

ด้านบนจะเป็นพอร์ทสำหรับเสียบหูฟัง

Review-Motorola-G (21)

ชอบหน้าจอของ Moto G สามารถสู้แสงได้เป็นอย่างที่ ส่วนแบตเตอรี่สามารถใช้ได้นานจนลืม Power Bank ส่วนข้อติก็พอมีอยู่บ้างตรงที่ขอบจอลึกไปนิดจนทำให้ฝุ่นสามารถเข้าไปกระจุกตัวอยู่ได้ง่าย และต้องเอามุมกระดาษไปแคะออกอยู่บ่อย ๆ

Review-Motorola-G (22)

ลองทดสอบติดตั้งกับฝาหลังสีเหลืองก็สวยดีครับ (สวยกว่าสีดำแน่นอน)

Review-Motorola-G (23)

มุมสีตัดกันเป็นอย่างดี อีกทั้งตัวเครื่องโค้งมนเข้ารับกับอุ้งมือเป็นอย่างดี

Review-Motorola-G (24)

ส่วนสีฟ้าเขียวที่สั่งมาใส่แล้วก็ดูสวยกว่าครับ (ชอบมาก)

Review-Motorola-G (25)

มองดูขอบข้างก็สวยเป็นอย่างดี ผมไม่จำเป็นต้องใส่เคสเลย (ก็มีฝาหลังแล้วจะซื้อเคสอีกทำไม – -*) ถ้าหากฝาหลังเยินมาก ๆ ก็แค่ซื้อฝาหลังใหม่แค่นั้นก็จบ

Review-Motorola-G (26)

งานประกอบดูดีมีระดับสวยงามกว่ารุ่นสองหมื่นกว่าบาทหลาย ๆ รุ่นเสียอีก

Review-Motorola-G (27)

ส่วนอันนี้เป็นฝาหลังธรรมดา ๆ ที่ผมสั่งมาจาก eBay ในราคาสองหลัก (เอามาให้ดูเฉย ๆ ครับ)

Review-Motorola-G (28)

ส่วนตัวแล้วไม่ชอบใส่เพราะมันทำให้เครื่องดูหนาขึ้นและไม่เป็นหนึ่งเดียวกับ Moto G ส่วนมือถือราคาหกพันกว่าบาทผมก็ไม่คิดจะใช้มันเป็นสิบปีอยู่แล้วล่ะ ถ้าจะให้ซื้อเคสซื้อฟิล์มและซื้อฝาหลังรวมกันเป็นพัน ๆ บาทก็ดูไม่ค่อยจะคุ้มค่า (ใช้ให้พังแล้วขายมือสองซื้อใหม่ยังดูคุ้มกว่า) แต่หากใครมองเป็นความสุขทางใจชอบถนอมของอันนี้ก็ไม่ว่ากัน เพราะส่วนตัวผมมองแค่ว่าคุ้มกับไม่คุ้มเท่านั้น

Review-Motorola-G (29)

สำหรับกล้องนั้นอยู่ในคุณภาพที่พอจะหวังผลได้ถึงแม้จะไม่ได้ดีนัก แต่ก็ดีกว่าทุกรุ่นในตลาดที่ราคาเดียวกันแน่นอน ชัตเตอร์ถ่ายได้ไวดีมากครับ

Review-Motorola-G (30)

เรื่องน้ำหนักของเครื่อง 143 กรัมดูเหมือนจะมากไปหน่อยเมื่อเทียบกับขนาดเครื่อง แต่พอถือไปซักพักก็ชินและหากคุณเป็นผู้ดีเก่ามาก่อนถือ iPhone 5s หนัก 112 กรัมมาเจอ Moto G รับรองว่ามีร้องแน่ ๆ

Review-Motorola-G (31)

ฝาหลังเป็นรอยเหงื่อและไขมันค่อนข้างง่ายสำหรับสีดำ (ง่ายเวอร์จนดูน่าเกลียด) แต่ถ้าคุณจะซื้อสีขาวมาก็อาจจะเจอปัญหา “คราบดำ” แทนต้องใช้ยางลบ ๆ บ่อย ๆ และถ้าหากต้องการเดินสายกลางก็แนะนำสีฟ้ากับแดงครับ

Software และ Interface

Screenshot-Motorola-G (1)

มาแบบเดิม ๆ ตามสไตล์ของ Google แทบไม่ได้มีการปรับแต่ง (ยิ่งรุ่น GPE ไม่ได้ปรับแต่งอะไรเลย) จะมีพิเศษมาก็คือ FM Radio, Camera, Gallery และ Software อีก 2-3 ตัวชอง Motorola (จะเป็นจำพวกกันโปรแกรมโอนถ่ายข้อมูลจากเครื่องเก่า, การติดตามเครื่องหาย, คู่มือการใช้งาน)

Screenshot-Motorola-G (2)

คะแนนเมื่อทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนนไปถึง 17240 ความแรงอยู่ระดับรอง Galaxy S3 แถมยังเหนือกว่า Nexus 4 (เป็นไปได้ไงหว่า?) แสดงให้เห็นว่า Moto G ถึงแม้จะมีสเปคธรรมดา ๆ แต่ก็ถูกปรับแต่งให้มันลื่นได้ ตรงข้ามกับมือถือหลายรุ่นที่แรงแต่สเปคกระดาษแต่หาความสเถียรไม่ได้เลย

Screenshot-Motorola-G (3)

ลองมาดูสเปคจาก CPU-Z กันบ้าง เหลือเนื้อที่ความจุถึง 10.77 GB แสดงว่า OS ใช้พื้นที่ไปแค่ 2 GB กว่า ๆ เท่านั้นเอง (ผมลง App ไปจิ๊ดเดียว)

Screenshot-Motorola-G (4)

กล้องของ Moto G หากไม่ใช่รุ่น GPE อาจจะใช้งานยากซักหน่อย (แต่ผมชอบนะ) คือจะสไลด์ด้านข้างเมื่อเปิดการตั้งค่า และการแตะหนึ่งครั้งบนหน้าจอคือการถ่ายเลย หากต้องการโฟกัสไปที่จุดอื่นต้องลากไปซึ่งมันจะโฟกัสและวัดแสงไปในตัว การถ่ายแบบนี้ช่วยให้ถ่ายได้เร็วขึ้นมาก

ภาพจากกล้องหลัง Moto G

ถ่ายออกมาได้ค่อนข้างดีและสมราคาครับ สามารถเอาไปใช้งานได้จริงและไฟล์ไม่ใหญ่มาก แต่ถ่ายในที่มืดไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

ภาพจากกล้องหน้า Moto G

ตัวนี้กล้องหน้าไม่มีโฟกัสนะครับ และความละเอียดก็ไม่ได้สูงมากนัก คุณภาพน่าจะดีกว่า Nexus 4 หรืออาจจะ (ห่วย) พอ ๆ กัน

ข้อดี

  1. ราคาโคตรถูกแถมได้ Android 4.2.2 (และดูเหมือนจะได้อัพอีก)
  2. หากวัดกันที่สองซิมรุ่นนี้คุ้มและดีที่สุดแล้ว
  3. งานประกับเนี๊ยบตามแบบฉบับ Motorola
  4. Snapdragon 400 ลื่นหัวแตกถึงแม้จะ RAM 1 GB แต่ก็ไม่รู้สึกหน่วงเลย
  5. หน้าจอคมกริบและชัดระดับ iPhone 5s
  6. แบตเตอรี่อึดมากถึงมากที่สุด

ข้อเสีย

  1. ของแถมในกล่องน้อยมาก (และขายแยกก็แพงมาก)
  2. ฝาหลังเป็นรอยคราบไขมันได้ง่าย
  3. น้ำหนักเครื่อง
  4. ไม่รองรับ Micro SD
  5. ไม่มีวางจำหน่ายในไทย

สรุป

Moto G ไม่ใช่มือถือที่ดีที่สุด แต่ก็ไม่มีข้อติที่เข้าข่ายไม่น่าซื้อมาใช้งานเลย หน้าจอชัด กล้องคุณภาพกลาง แบตเตอรี่อึด แถมเสียงสนทนาชัดแจ๋ว รุ่นนี้ได้รางวัลจากต่างประเทศมากมายแถมยังเป็น Android 4.4 ที่ราคาถูกที่สุดในขณะนี้ หากคุณเล่นเกมแค่ที่ชาวบ้านเขาเล่นกัน ไม่ใช้งานหนักโอเวอร์ (คนที่ซื้อมาถือราคาสองหมื่นกว่าบาทแล้วบอกว่าตัวเองใช้งานหนัก แต่เท่าที่ดูหลายคนก็ไม่ได้เห็นจะใช้งานหนักซักเท่าไหร่) หากคุณใช้งานเท่าที่ชาวบ้านเขาใช้กัน Moto G จะเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์มากถึงมากที่สุด แถมคุ้มเงินอีกด้วย