เมื่อสองปีก่อน vivo Y30 เป็นหนึ่งในรุ่นขายดีด้านความคุ้มค่า และล่าสุดในปี 2022 ได้มีการปรับสเปก vivo Y30 5G เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่อย่าง 5G พร้อมทั้งปรับสเปกให้รองรับตามยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของชิป, กล้อง, ระบบปฎิบัติการ, ฯลฯ และในจุดนี้เองก็กลายเป็นมาตรฐานไปเสียแล้ว คือในปีนี้ไม่ว่าคุณจะซื้อสมาร์ตโฟนราคากี่บาท ก็ควรที่จะต้องรองรับ 5G เป็นพื้นฐาน

vivo Y30 5G

ราคาเปิดตัว vivo Y30 5G อยู่ที่ 8,699 บาท มาพร้อมกับจุดเด่นหลักเลยก็คือกล้องหลัก 50 MP และหน่วยความจำ (RAM) ขนาด 6 GB + 2 GB Extended และแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่คุ้มค่าเกินค่าตัว มาพร้อมกับดีไซน์ที่เพรียวบางอันเป็นเอกลักษณ์ให้ความเรียบง่ายและดูสบายตา

สเปกและคุณสมบัติ

  • ระบบปฏิบัติการ Android 12 (ครอบทับด้วย Funtouch OS 12)
  • หน้าจอ LCD ขนาด 6.51″ ความละเอียด HD+ (1600 × 720)
  • หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 700
  • แรม 6 GB
  • รอม 128 GB (รองรับ microSD)
  • กล้องหลังแบบ 2 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช LED
    • กล้องหลัก 50 MP (F/1.8)
    • กล้องโบเก้ 2 MP (F/2.4)
  • กล้องหน้า 8 MP (F/2.0)
  • รองรับสองซิม 5G
  • รองรับ Bluetooth 5.1, Wi-Fi 5 GHz
  • แบตเตอรี่ 5,000 mAh
  • ขนาด 164 × 75.84 × 8.25 มม.
  • น้ำหนัก 193 กรัม

ชิปประมวลผลสุดคุ้ม

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาเครื่องไม่สูงจนเกินไปก็คือ MediaTek Dimensity 700 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตร ประหยัดพลังงานมากกว่าชิป 8 นาโนเมตร สูงถึง 28% รองรับระบบ AI จากตัวกล้อง สามารถจับภาพได้อย่างล้ำเลิศในสภาพแสงน้อย สามารถใช้งานรวมถึงเล่นเกมทั่วไปได้อย่างสบาย

ไม่ใช่แค่ 5G แต่เป็น 5G ที่ล้ำกว่า

ไม่ใช่ 5G ทุกรูปแบบที่จะทำงานเหมือนกันชิป MediaTek Dimensity 700 ที่มี โมเด็ม 5G ในตัว รองรับการใช้งานทั้งแบบ 2CC 5G-CA, รองรับการใช้งาน dual SIM dual Standby และ Voice over New Radio (VoNR) และให้รองรับความเร็วสูงสุดในการดาวน์โหลดสูงสุด 2.77 Gbps มีเทคโนโลยี MediaTek 5G UltraSave ที่ช่วยประหยัดพลังงาน

  • การรวมคลื่นแบบ Carrier Aggregation ครอบคลุมสเปกตรัมความถี่ได้สูงถึง 120MHz
  • การรวมคลื่นแบบ Carrier Aggregation แบบ Mixed Duplex มอบความเร็ว การครอบคลุมการเชื่อมต่อ และความเสถียรที่ดียิ่งขึ้น
  • ด้วยเทคโนโลยีการเพิ่มศักยภาพประหยัดพลังงานของ MediaTek 5G UltraSave คุณจึงมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ 5G จะทำงานได้ตลอดทั้งวันในทุกเครือข่าย
  • ซิมคู่ 5G เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ใช้ อีกทั้งศักยภาพที่เพิ่มขึ้นและการเข้าถึงบริการ VoNR รุ่นล่าสุด

โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นสมาร์ตโฟน 5G ที่ครบเครื่องและตอบโจทย์ในราคาที่ไม่ถึงหมื่น โดยถึงแม้ว่าตัวชิปประมวลผลจะไม่ได้เป็นตัวระดับเรือธง แต่คุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมดก็ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน ลืมความเชื่อเดิม ๆ ไปได้เลยว่าการเปิด 5G จะทำให้เครื่องร้อนและแบตเตอรี่หมดเร็ว

แรมไม่พอก็เพิ่มได้

ตัวเครื่อง vivo Y30 5G มาพร้อมกับ RAM 6 GB ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการเล่นเกม แต่คำว่าเกมเมอร์มี RAM เท่าไหร่ก็ไม่พอ เราสามารถใช้ฟีเจอร์ 2 GB Extended RAM โดยเอาหน่วยความจำ ROM มาจำลองเพื่อเพิ่มความลื่นได้อีก พอได้ใช้ร่วมกับ Ultra Game Mode 2.0 บอกได้เลยคราวนี้ว่าลื่นหัวแตก

ดีไซน์บางเบา 8.25 มม.

ตัวเครื่องไม่หนาเพราะมาพร้อมกับ ความบาง 8.25 มม. (ความหนาเท่ากันตลอดทั้งเครื่อง ยกเว้นเลนส์กล้อง) พกพาได้ง่ายดายทั้งกระเป๋าถือหรือกระเป๋ากางเกง ส่วนน้ำหนักเพียงแค่ 193 กรัม ถือใช้งานมือเดียวไม่หนักมือ มาพร้อมกับสี Rainbow Fantasy และ Starlight Black (ตัวที่รีวิว)

แบตเตอรี่อึดใช้งานได้ยาวนาน

หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 700 ที่ว่าประหยัดพลังงานและยิ่งได้เจอกับ แบตเตอรี่ 5000mAh ทำให้สามารถเชื่อมต่อได้ตลอดวัน ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องแบตเตอรี่ที่เหลือน้อย โดยการเทียบเป็นเล่นเพลงก็ประมาณ 140 ชั่วโมง, ดูหนัง 15.9 ชั่วโมง, หรือถ้าเป็นสแตนด์บายเพียงอย่างเดียวก็ได้สูงสุด 27.2 วัน และการชาร์จก็เป็นพอร์ต USB-C ตามสมัยนิยม

หน้าจอใหญ่พร้อมโหมดถนอมสายตา

ตัวเครื่องมาพร้อมกับ หน้าจอ HD+ Incell ขนาด 6.51 นิ้ว ที่มีความอิ่มตัวของสีสูง และโหมดป้องกันดวงตาพิเศษ ที่มอบประสบการณ์การรับชมที่ดื่มด่ำแต่สบายตา ให้อัตราส่วนของภาพอยู่ที่ 20:9 และมีอัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 88.99% ขอบเขตสี 72% NTSC ถามว่าสุดมั้ยก็จริง ๆ ไม่เท่ากับรุ่นพี่ แต่ใช้งานจริงแย่มั้ยส่วนตัวว่าไม่แย่เลย

สแกนลายนิ้วมือสุดฉับไว

หากเป็นสมาร์ตโฟนปีเก่า ๆ จะเป็นสแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง และตอนนี้รุ่นใหม่ ๆ ของวีโว่เปลี่ยนเป็น สแกนนิ้วด้านข้างเครื่อง กันหมดแล้ว เป็นปุ่มเดียวกับปุ่มที่ใช้เปิดปิดตัวเครื่อง ส่วนถ้าใครไม่ชอบก็สามารถเลือกใช้ Face Wake หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ “สแกนใบหน้า” อันนี้ก็สามารถทำได้เหมือนกัน

กล้องหลังคู่คมชัด

สำหรับกล้องหลังของ vivo Y30 5G แม้ว่าจะเป็น Series Y แต่ก็สามารถทำความละเอียดได้ถึง กล้องหลัก 50 MP (F/1.8) มาพร้อมระบบโฟกัสดวงตาอัตโนมัติ นอกจากนี้มีระบบ AI ช่วยให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องง่าย กล้องโบเก้ 2 MP (F/2.4) ช่วยละลายฉากหลังให้มีความเบลอได้เนียนสมจริงมากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าตัวนี้รองรับ Super Night Mode ด้วยเช่นกัน

เรื่องการถ่ายภาพบุคคลยังทำได้ดีตามสไตล์วีโว่ Face Beauty สามารถปรับสีผิวได้ค่อนข้างเนียนแบบไม่เวอร์ แต่สำหรับการเบลอฉากหลังอาจไม่ฉลาดเท่ารุ่นพี่ เวลาถ่ายอาจมีข้อจำกัดบ้างเล็กน้อยแต่ภาพรวมก็ทำออกมาได้น่าดู Multi-Style Portrait มีให้ปรับทั้งหมด 4 โทนสีด้วยกัน ให้ภาพโดดเด่นกล้องสวยงามสมกับเป็นรุ่นปี 2022

การถ่ายกลางคืนที่ตอนแรกคิดว่าจะไม่รอด แต่ถ่ายจริงก็ไม่แย่อย่างที่คิด ไฟล์จริงยังสามารถเอาไปแต่งต่อได้ (ภาพด้านบนเป็นตัวอย่างไฟล์ที่ยังไม่แต่ง) การใช้งาน Super Night Mode ไม่ได้จำกัดที่กล้องหลัง แต่สามารถใช้งานร่วมกับกล้องหน้าได้ด้วย ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพใดภาพจะยังคงความสว่างและชัดเจนอยู่เสมอ ต่อให้แสงน้อยก็ยังเอาอยู่

ถ้าไม่นับเรื่องรูปถ่ายบุคคล กล้องทั่วไปก็สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี (โดยเฉพาะสภาวะแสงเยอะ) ความฉลาดของ AI ค่อนข้างทำออกมาได้ดีมาก มีการแยกสัตว์เลี้ยง, วิว, อาหาร, ฯลฯ ออกจากกันทำให้การถ่ายรูปง่ายกว่าที่คิด ไม่จำเป็นต้องเป็นต้องมืออาชีพก็สามารถถ่ายสวยได้อย่างง่ายดาย เหมาะกับผู้ใช้งานถ่ายภาพทั่วไป

กล้องหน้าเซลฟี่ตามแบบฉบับวีโว่

เรื่องกล้องหน้าวีโว่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง กล้องหน้า 8 MP (F/2.0) มาในลักษณะหยดน้ำกลางหน้าจอ และซ่อนเอาลำโพงสนทนาได้อย่างแนบเนียน สามารถถ่ายได้อย่างเป็นธรรมชาติไม่ได้ปรับเวอร์จนเกินไป Face Beauty สามารถปรับสีผิวได้ค่อนข้างเนียนแบบไม่เวอร์ และยังมี Multi-Style Portrait มีให้ปรับทั้งหมด 3 โทนสีด้วยกัน หากเท่านั้นยังสวยไม่พอก็สามารถปรับเบลอพื้นหลังเพิ่มเติมได้อีกด้วย

ถึงแม้ว่ากล้องหน้าจะมีความละเอียด 8 MP แต่ก็มาพร้อมกับการเซลฟี่อันเป็นเอกลักษณ์ มั่นใจได้ถึงความสดใสตลอดวัน ด้วยอัลกอริธึมภาพบุคคลเฉพาะของวีโว่ สามารถถ่ายภาพบุคคล (Multi-Style Portrait) โหมดถ่ายภาพบุคคลที่มีให้เลือกหลากหลายสไตล์เพื่อให้เหมาะสมกับสไตล์ของคุณ เพิ่มโหมด Face Beauty และ Bokeh เพื่อความงดงามและดูเป็นธรรมชาติ

เรื่องวิดีโอตัวนี้ไม่ได้เน้นอะไรมาก แต่ก็สามารถถ่ายได้สูงสุด Full HD (1080P) 60FPS มีลูกเล่นลบไฝออกได้ด้วย (เฉพาะกล้องหน้า) นอกนั้นก็สามารถปรับ Beauty Mode แต่ความละเอียดจะลดลงเหลือ HD (720) สามารถปรับใส่ฟิลเตอร์ได้ สุดท้ายคือรองรับ Dual-View Video ที่ถ่ายกล้องหน้าและหลังพร้อมกันในครั้งเดียว

ข้อดี

  1. กล้องหลัก 50 MP
  2. แรมขนาด 6 GB + 2 GB ขยายเพิ่มได้
  3. แบตเตอรี่อึดขนาด 5000mAh

ข้อเสีย

  1. ไม่มีเลนส์มุมกว้าง
  2. ไม่รองรับชาร์จเร็ว

สรุป

ราคาเพียงแค่ 8,699 บาท ถือว่าน่าสนใจอยู่เหมือนกันกับ vivo Y30 5G ออกแบบมาเพื่อใช้งานทั่วไป โดยยังไม่มีจุดไหนเด่นเป็นพิเศษ นอกจากกล้องหลัง 50 MP และขนาดของ RAM ที่ให้มาเหลือเฟือเมื่อเทียบกับค่าตัว ส่วนแบตเตอรี่ก็อึดพอสมควร ยิ่งได้กับชิปประมวลผลตัวนี้ที่มีโมเด็ม 5G ในตัวแถมประหยัดพลังงานด้วย ก็เท่ากับว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวลในเรื่องของการใช้งานจริง

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial