วีโว่เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นเล็กอย่างต่อเนื่องหลังจาก vivo Y22 ก็มาเป็น vivo Y16 ที่มีราคาถูกลงไปอีก มาพร้อมกับคุณสมบัติแบตเตอรี่ 5000mAh และ AI กล้องหลังอัจฉริยะ 13MP พร้อมกับสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง ภายใต้ราคาที่ไม่ถึงหกพันบาท เหมาะกับนักเรียนที่ยังไม่มีรายได้มากนัก รวมถึงคนที่ต้องการใช้เป็นเครื่องเริ่มต้นหรือเครื่องสำรอง กับเครื่องที่มีประสิทธิภาพใช้งานได้จริงและอยู่ได้ยาวนานตลอดทั้งวัน
vivo Y16
ราคาเปิดตัว vivo Y16 อยู่ที่ 5,499 บาท เป็นรุ่นเล็กในช่วงราคาที่ซื้อขายสะดวก แต่ก็ยังไม่ช้าเกินกว่าจะใช้งาน ให้แบตเตอรี่จัดเต็มอยู่ที่ 5000mAh มีกล้องที่หวังผลได้กับ AI และหน้าจอขอบโค้ง 2.5D ขนาด 6.51″ พร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้างจอ หน้าตาและสีสันโดยรวมถือว่าไม่ขี้เหร่ วางคู่เทียบเท่ากับเครื่องหลักหมื่นบาทได้สบาย
สเปกและคุณสมบัติ
- ระบบปฏิบัติการ Android 12 (ครอบทับด้วย Funtouch OS 12)
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.51″ ความละเอียด HD+ (1600 × 720)
- หน่วยประมวลผล Mediatek Helio P35
- แรม 4 GB
- รอม 64 GB (รองรับ microSD)
- กล้องหลังแบบ 2 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช LED
- กล้องหลัก 13 MP (F/2.2)
- กล้องมาโคร 2 MP (F/2.4)
- กล้องหน้า 5 MP (F/2.2)
- รองรับสองซิม 4G
- รองรับ Bluetooth 5.0, Wi-Fi 5 GHz, Type-C, 3.5 mm
- แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 10W
- ขนาด 163.95 × 75.55 × 8.19 มม.
- น้ำหนัก 183 กรัม
ตัวเครื่องมาพร้อมกับอุปกรณ์พื้นฐานอย่างอะแดปเตอร์ 10W สายชาร์จ USB-C พร้อมกับติดฟิล์มมาจากโรงงาน และเนื่องจากวีโว่ต้องการทำราคาให้เข้าถึงได้ง่ายจึง ไม่มีแถมหูฟังและเคส สำหรับคนใช้งานทั่วไปก็คงไม่มีอะไรต้องกังวลนัก เพราะตัวเครื่องเองก็ราคาไม่สูงอะไรมากนัก ใช้งานไปสักปีสองปีถึงรอบเปลี่ยนเครื่องก็ไม่เสียดาย
การออกแบบ
ตัวเครื่องมีให้เลือกเป็นสี Drizzling Gold (ตัวที่รีวิว) และสี Stellar Black ออกไปแนวเรียบหรูทั้งคู่ ด้านหลังมีโลโก้ vivo ซ่อนอยู่ที่ยากจะมองเห็น (เหมาะกับคนชอบแบบเรียบง่ายสบายตา) และเมื่อมีการสะท้อนกับแสงแดดจะมีประกาย ลักษณะคล้ายเส้นของสายฝน ส่วนด้านข้างเครื่องแทนที่จะเป็นสีเงินธรรมดา วีโว่ก็เก็บรายละเอียดให้มันเป็นสีทองล้อกับฝาหลังเครื่อง
แบตเตอรี่อึด
ปกติตัวเครื่องราคาถูกเรามักจะเห็นสมาร์ตโฟนหน้าตาโบราณหนาเทอะทะ แต่สำหรับ vivo Y16 ไม่เป็นเช่นนั้นเพราะบางเพียง 8.19 มม. แต่ก็ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 5000mAh มาตรฐานวีโว่ที่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน เมื่อแบตเตอรี่เต็ม 100% สามารถใช้ดูภาพยนตร์ได้ยาวนาน 18 ชั่วโมง หรือหากเป็นเล่นเกมที่ไม่หนักมากก็อยู่ที่ 7 ชั่วโมง ส่วนฟังเพลงก็ได้นานถึง 22 ชั่วโมง
หน้าจอ
ในเรื่องของหน้าจอ 2.5D ก็ได้ใหญ่ถึง 6.51″ ความละเอียด HD+ นับว่าค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น แม้ว่าอาจไม่สามารถสู้แสงได้แบบรุ่นใหญ่ก็ตาม แต่ในเรื่องของระบบสัมผัสยังคงตอบสนองดีเยี่ยม และเนื่องจากเป็นหน้าจอความละเอียดไม่มาก จึงทำให้ใช้ทรัพยากรต่ำไม่กินแบตเตอรี่ ในเรื่องดูหนัง เล่นเกม เปิดเว็บไซต์ สบายตามากกว่าหน้าจอขนาดเล็กอย่างแน่นอน
ระบบปัญญาประดิษฐ์
เห็นราคาประหยัดแบบนี้อย่าคิดว่าเป็นกล้องหลังธรรมดา vivo Y16 จัดเต็มมาแบบไม่งกด้วยกล้องหลัง AI ที่ใช้งานได้จริง มาพร้อมกับเทคโนโลยี HDR ที่ช่วยให้ภาพสว่างมากยิ่งขึ้น มีโหมดโบเก้แบบจำลองที่เนียนอยู่หากอยู่ในสภาพแสงเยอะ ผู้ใช้งานสามารถใช้งานถ่ายรูป
หน่วยประมวลผล
ช่วงราคาไม่ถึงหกพันบาท คงคาดหวังความเร็วแรงไม่ได้ โดยชิปที่ให้มาเป็น MediaTek Helio P35 เป็นชิประดับรุ่นเล็ก แต่ก็ยังคงสามารถใช้งานทั่วไปได้อย่างไหลลื่น แถมยังไม่กินแบตเตอรี่อย่างที่คิด สามารถใช้เล่นเกมพื้นฐานได้พอสมควร (ถ้ากราฟิกเกมไม่โหดมากนัก) ส่วนเรื่องดูหนังก็ไม่ต้องกังวลเพราะจอรองรับ HD+ แต่หากเอามาเล่น Full HD อันนี้ก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของชิปประมวลผล MediaTek Helio P35
สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
ด้วยราคาต่ำกว่าหมื่นคือเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะสแกนนิ้วบนหน้าจอ แต่สำหรับการวางสแกนนิ้วด้านข้างก็เป็นการวางที่สวยงาม มากกว่าปล่อยไว้ด้านหลังอย่างแน่นอน วีโว่เองได้ออกแบบปุ่ม Power ให้เป็นสแกนลายนิ้วมือโดยตรง พอจัดวางลงบนตัวเครื่องแล้วก็เป็นอะไรที่ลงตัวเลยทีเดียว
แรมและรอม
ตัวเครื่องมาพร้อมกับแรม (RAM) เยอะถึง 4 GB สามารถใช้งานแอปพลิเคชันได้แบบไม่หน่วง สลับไปมาได้อย่างรวดเร็วทันใจ (ยกเว้นแอปพลิเคชันบางตัวที่ใช้ทรัพยากรเครื่องมาก) แต่สำหรับการเล่นเกมที่มีแรมเท่าไหร่ก็ไม่พอ วีโว่ยังได้มอบคุณสมบัติ Extended RAM 2.0 สามารถเพิ่มแรมจำลองได้อีก 1 GB ส่วนหน่วยความจำ (ROM) ให้มาแบบไม่หวงที่ 64 GB เพียงพอสำหรับติดตั้งแอปพลิเคชันและถ่ายรูปอย่างเหลือเฟือ แต่หากไม่พอยังไงก็มีแผนสำรองเป็น microSD เพิ่มได้อีก
ระบบชาร์จเร็ว
น่าเสียดายที่ตัวเครื่องรองรับระบบชาร์จเร็วเพียงแค่ 10W ซึ่งก็สมกับราคาค่าตัวของมัน เพื่อไม่ให้ไปทับไลน์กับรุ่นพี่อย่าง vivo Y22 แต่ข่าวดีก็คือวีโว่เลิกใช้ Micro USB เพื่อเปลี่ยนมาเป็น USB-C ตามสมัยนิยมเรียบร้อยแล้ว คุณจึงจะได้ความสะดวกของการที่ไม่ต้องพกสายหลากหลาย และนอกจากนี้ยังรองรับหูฟัง 3.5 มม. ใครมีหูฟังรุ่นยอดนิยมสามารถเอามาใช้งานกับเครื่องนี้ได้เลย ไม่ต้องไปหาซื้อหูฟัง Bluetooth หรือ USB-C ให้เปลืองเงิน
กล้องหลัก
มาพร้อมกับความละเอียดกล้องหลัก 13 MP (F/2.2) และกล้องมาโคร 2 MP (F/2.4) สามารถใช้ถ่ายได้หลายคุณสมบัติไม่ว่าจะเป็น Portrait, Panorama, Macro ฯลฯ ส่วนการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD คุณภาพพอเหมาะพอควรกับตัวเครื่อง เพียงแต่ว่าไม่มี Night Mode เหมือนกับรุ่นพี่หลักหมื่น ดังนั้นข้อจำกัดการถ่ายตอนกลางคืนจะเยอะหน่อย
ส่วนตัวผู้รีวิวมองว่ากล้องหลัก (กล้องหลัง) คือไม่ได้แย่เลยเอามาใช้ถ่ายรูปได้แบบไม่อายใคร สามารถเอามาเก็บภาพทั่วไปในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวก แถมยังมีโหมด AI และ HDR ช่วยให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องง่าย ส่วนกล้องมาโครอันนี้ข้อจำกัดเยอะไปหน่อยทำให้ถ่ายได้ค่อนข้างยาก แต่เชื่อว่าคนใช้งานส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีใครได้ใช้กันอยู่แล้ว
กล้องหน้า
มาพร้อมกับความละเอียดกล้องหลัก 5 MP (F/2.2) เป็นตัวพื้นฐานการใช้งานทั่วไป แต่ก็ยังคงมีโหมด Beauty ที่เป็นเอกลักษณ์ของวีโว่มาให้ใช้งาน กดแล้วหน้าเนียนแบบไม่เวอร์จนเกินไป หรือหากไม่พอใจก็ไปแต่งต่อใน Gallery นอกจากนี้ยังสามารถจำลองโบเก้ขึ้นมาได้ด้วย เพิ่มความละมุนในการถ่ายรูปด้วยกล้องหน้า โดยรวมแล้วชอบเลยแหล่ะ
ข้อดี
- ตัวเครื่องดูดี วัสดุเกินราคา
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- AI กล้องหลังอัจฉริยะ
- สแกนนิ้วด้านข้าง
ข้อเสีย
- หน้าจอยังสู้แสงไม่ดีนัก
- ไม่แถมเคสและหูฟัง 3.5 มม.
สรุป
สำหรับรุ่น vivo Y16 คือช่องว่างระหว่าง vivo Y02 และ vivo Y22 คือเหมาะกับผู้เริ่มต้นใช้สมาร์ตโฟน แต่อยากได้คุณภาพดีเพิ่มขึ้นมาอีกนิด ซึ่งโดยรวมแล้วไม่ได้ทำให้ราคาสูงขึ้นเท่าไหร่นัก แต่ก็ได้การใช้งานพื้นฐานเต็มประสิทธิภาพ มีหน้าจอใหญ่และแบตเตอรี่เพียงพอทั้งวัน กล้องหลังและหน้าใช้ถ่ายไม่อายใคร สามารถเล่นเกมพื้นฐานได้นิดหน่อย โดยรวมแล้วยังให้ความคุ้มค่า
vivo Y26 เปิดตัวราคา 5,499 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Drizzling Gold และ Stellar Black สามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ vivo Brandshop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial