ช่วงนี้ผมมีปัญหาเกี่ยวกับการหาเคส iPad Air อยู่ตรงที่ว่ายังไม่เจออันที่ถูกใจเสียที เลยพยายามไปหันมองแบรนด์ระดับโลกอย่าง Moshi แทน (ส่วนตัวอยากรอซื้อ iPad รุ่นใหม่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ราคา iPad Air ก็เริ่มตกลงมาอยู่ที่ราคาสมเหตุสมผลบ้างแล้ว (ผมซื้อตัว 16GB Cellular มาแค่ 17,000 บาท) เอามาว่าเรามาดูรีวิวเคสกันเลยดีกว่า

Review_Moshi-Versacover-iPad-Air (1)

Moshi VersaCover for iPad Air ราคาอยู่ที่ 1,700 บาท หาซื้อได้ตาม iStudio และตัวแทนจำหน่ายทั่วไป

Review_Moshi-Versacover-iPad-Air (2)

โจทย์การเลือกเคสไอแพด

สิ่งที่ผมตัดสินใจในการเลือกเคสไอแพดจะเน้นไปตรงที่การปกป้องต้องคลุมได้ทั้งหน้าหลัง เป็นฝาปิดที่มีแม่เหล็กในตัว (Auto Walk/Sleep) รวมถึงตัวเคสบางเบาไม่เป็นภาระสร้างความหนาและน้ำหนักให้กับไอแพดจนเกินไป สามารถพับเพื่อตั้งได้อย่างน้อยหนึ่งระดับ และที่สำคัญตัวเคสต้องไม่ทำให้เครื่องเป็นรอย

สำหรับโมชิเท่าที่ดูเบื้องต้นแล้วตอบโจทย์ดีมาก แถมสวยอีกต่างหากด้านหลังเป็นแบบโปร่งแสง แต่ที่น่าเสียดายคือฝาเคส (Cover) สีมันดูแก่และทางการไปหน่อย น้ำเงิน, เขียว, น้ำตาลและชมพู

Review_Moshi-Versacover-iPad-Air (3)

สำคัญมากโปรดระวัง Moshi ปลอม !!!

สำหรับวิธีการดูของปลอมตามที่เคยกล่าวไว้ด้านบนนั้น หลักการดูง่าย ๆ เพียงแค่พลิกกล่องด้านหลัง ซึ่งจะมีสติกเกอร์โฮโลแกรม ที่จะมากับทุกกล่องของผลิตภัณฑ์ Moshi ส่วนวิธีทดสอบขั้นง่ายมากเพียงแค่ขูดเบา ๆ ก็จะได้รหัสชุดหนึ่งมา (Authentication Number) จากนั้นเอาไปตรวจสอบที่ http://www.moshi.com/register ได้เลย

Review_Moshi-Versacover-iPad-Air (4)

ตัวเคสสามารถตั้งได้หลายระดับตั้งแต่

  • Typing angle (40°)
  • Reading angle (50°)
  • Movie angle (60°)

และวิธีการพับนั้นก็เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของทาง Moshi เองครับ

Review_Moshi-Versacover-iPad-Air (5)

ตัวที่ผมได้ทดสอบนั้นเป็นสีน้ำเงินครับ แนวการพับสำหรับผมไม่ค่อยชอบซักเท่าไหร่ ชอบแบบเป็นลอน ๆ เหมือนกับ SmartCover ของ Apple มากกว่า เนื้อผ้าตัวนี้เป็นไมโครไฟเบอร์ที่ให้สัมผัสที่ดีและทนเป็นพิเศษ

Review_Moshi-Versacover-iPad-Air (6)

สำหรับด้านในจะเป็นพลาสติกใสซึ่งเชื่อมกับฝาปิด (Cover) เอาไว้เลย

Review_Moshi-Versacover-iPad-Air (7)

ทดสอบติดตั้งไปก็ใช้งานง่ายดีแต่สิ่งที่ผมกังวลคือมันไม่ค่อยยึดติดกับ iPad เท่าไหร่นัก คือเหมือนเกาะไว้เพียงแค่เบา ๆ เวลาจับตรงมุมก็แทบจะเผยอออกมาแล้ว มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ค่อยมั่นคงเลยจริง ๆ

Review_Moshi-Versacover-iPad-Air (8)

ด้านหลังทำออกมาได้สวยมากสามารถแสดงความเป็น Minimal ของ Apple ได้เป็นอย่างดี เนื้อพลาสติกเป็นแบบสากช่วยลดรอยขีดข่วนได้อย่างมาก ส่วนแถบเหล็กที่เป็นคำว่า “Moshi” สามารถใช้เกาะกับฝาหลัง (Cover) เวลาเราพับได้ด้วย (ไม่ห้อยโทงเทงลงมาเวลาถือด้วยมือซ้าย)

Review_Moshi-Versacover-iPad-Air (9)

ด้านล่างเจาะรูไว้เป็นอย่างดีสามารถให้เสียงออกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงมีกันลื่นบริเวณด้านหลังเคสช่วยให้มั่นใจในการใช้งานได้อีกระดับ

Review_Moshi-Versacover-iPad-Air (10)

แถบเหล็กที่กล่าวถึงในย่อหน้าด้านบน ทำออกมาได้สวยงามและลงตัวเป็นอย่างดีครับ

Review_Moshi-Versacover-iPad-Air (11)

สิ่งที่ทำให้เห็นว่าโมชิเก็บรายละเอียดได้ดี ดูได้จากการเว้นรูสำหรับไมค์ในด้านหลังและด้านบนพิถีพิถันเป็นอย่างดี (บางแบรนด์ปิดทับไปเลย) ส่วนช่องเสียบหูฟังก็มีขนาดใหญ่พอที่จะให้เสียบ Headphone อันใหญ่ ๆ ลงไปได้

Review_Moshi-Versacover-iPad-Air (12)

ทดสอบตั้งแบบโหมดรับชมภาพยนตร์ Movie angle (60°)

Review_Moshi-Versacover-iPad-Air (13)

ทดสอบตั้งแบบโหมดพิมพ์เอกสาร Typing angle (40°)

Review_Moshi-Versacover-iPad-Air (14)

ทดสอบตั้งแบบโหมดอ่านหนังสือ Reading angle (50°)

Review_Moshi-Versacover-iPad-Air (15)

เวลาถือแล้วก็ทำให้กระชับมากขึ้นไม่รู้สึกว่ามันโคลงเคลงแต่อย่างใด (ถ้าไม่นับเรื่องเคสหลังที่มันเหมือนไม่ค่อยสนิท) โดยรวมแล้วทำออกมาได้ดีมากครับ สามารถกันกระแทกได้แทบจะทุกมุมโดยไม่มีจุดบอด ส่วนเวลาจะใช้กล้องก็เพียงแค่พับฝาลงเท่านั้นเอง

ข้อดี

  1. ปกป้องสมบูรณ์แบบ
  2. บางเบา ไม่ทำให้เครื่องหนา
  3. สามารถพับได้หลายแบบ
  4. รองรับ Auto Walk/Sleep

ข้อเสีย

  1. ฝาหนังไม่ค่อยแน่น
  2. ราคาค่อนข้างสูง

สรุป

โดยรวมแล้วค่อนข้างสมบูรณ์แบบมากเลย ส่วนข้อเสียก็ตามที่กล่าวมาถามว่ามันหลุดมั้ย? มันก็ไม่หลุดหรอกนะแต่แค่เวลามือดันไปแล้วแล้วมันเผยอ ทำให้รู้สึกไม่ค่อยดีเท่านั้นเอง นอกนั้นโดยรวมค่อนข้างประทับใจดีครับ บางสวยไม่หนาและไม่หนัก