Microsoft Surface Pro 4 นับเป็นรุ่นที่ 4 แล้วสำหรับ Tablet ที่ Microsoft ทำขึ้นมาในนามของ Microsoft เอง ด้วยการลองผิดลองถูกมาตั้งแต่ปี 2012 และได้รับการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ผ่านการทำรุ่นที่ใหม่กว่า จนบัดนี้ คิดว่ามันจะเป็นรุ่นที่สมบรูณ์ที่สุดแล้วสำหรับ Tablet ที่ Microsoft ทำขึ้นมาเองกับรุ่นนี้ Microsoft Surface Pro 4
จริง ๆ แล้วในปีที่ผ่านมา Microsoft เปิดตัว Surface Pro 4 หลาย Spec ด้วยกัน สรุปได้ตามตารางนี้
Surface Pro 4 Configuration Options | ||||
---|---|---|---|---|
Price (USD) | CPU | Integrated GPU | RAM | Internal Storage |
899 | Intel Core m3-6Y30 (0.9 to 2.2 GHz) | HD 515 | 4 GB | 128 GB |
999 | Intel Core i5-6300U
(2.4 to 3.0 GHz) |
HD 520 | ||
1299 | 8 GB | 256 GB | ||
1499 | 16 GB | |||
1699 | 8 GB | 512 GB | ||
1899 | 16 GB | |||
1599 | Intel Core i7-6650U
(2.2 to 3.4 GHz) |
Iris 540 | 8 GB | 256 GB |
1799 | 16 GB | |||
2199 | 512 GB | |||
2699 | 1024 GB |
และยังไม่นับ Surface Book ที่เป็น 2-in-1 PC ระดับพรีเมี่ยม(ด้วยราคา) ที่ไม่รู้จะมีโอกาสเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยมั้ย ส่วนตัวคิดว่า Surface Book นี้ Microsoft ตั้งใจออกมาชนกับ MacBook Pro 15 และ Surface Pro 4 มาชนกับ MacBook และ MacBook Air นั่นเอง (อาจจะชนกับ MacBook Pro 13 ด้วย)
…แต่ในบทความนี้จะเป็น Surface Pro 4 รุ่น i5 RAM 8GB และความจุ 512GB ครับ
ในส่วนของการออกแบบ Surface Pro 4 ไม่ต่างจากรุ่นที่แล้วเท่าไหร่นัก แต่จะตัดปุ่ม Windows ตรงขอบจอออกไป (น่าจะตัดออกไปได้ตั้งนานแล้ว รุ่นเก่าใช้แล้วมือไปโดนง่ายมาก ๆ ) และปรับจอเป็น 3:2 ขนาด 12.3 นิ้ว ความละเอียด 2736 x 1824 (267 ppi) คมกริ๊บ โดน UI ของ Windows จะปรับสเกลขึ้นมาเป็น 200% ทำให้ไม่ลำบากเวลาจ้องมองใดๆ (ยกเว้นบางแอพที่ยังไม่รองรับก็จะแตกเป็นเม็ด ๆ )
ด้านบนก็จะมีกล้อง WebCam กับ Intel RealSense camera กล้องที่สามารถจับความตื้นลึกได้แบบ Kinect เพื่อใช้กับฟังค์ชั่น Windows Hello …it’s me นั่นเอง Windows Hello จะแยกแยะหน้าตาได้ว่าใครที่มาใช้งานเครื่องนี้แค่เพียงเห็นหน้าก็จะปลดล็อคหน้าจอได้อย่างอัตโนมัติ (คล้าย ๆ Face Unlock ของ Android แต่ดีกว่าตรงที่ใช้รูปภาพไม่ได้แล้ว และยังแยกได้ระดับฝาแฝดกันก็ยังรู้)
ด้านหลังมีกล้อง 8 ล้านพิกเซล Auto Focus คุณภาพไม่ได้ดีเด่อะไรมาก แต่ก็ไม่ได้แย่ พอไปวัดไปวาได้ ถ่ายพริตตี้สวย แต่เวลาถ่ายคนข้างหลังเค้าก็จะเห็นหมดว่าถ่ายอะไรอยู่ อันนี้ล่ะมั้งที่เป็นข้อเสียจริง ๆ ส่วนกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ใช้แทนกระจกได้ ไว้ส่องแคะขี้ฟันได้ชัดเจนดี
จุดขายของ Surface ตั้งแต่รุ่นแรกก็คงหนีไม่พ้นนี่ Kickstand นั่นเอง ที่ออกแบบมาให้ดูเหมือนประตูรถสปอร์ทเวลาปิดจะได้ยินเสียง คลิ๊ก..เบา ๆ (ซึ่งผมชอบมาก) สำหรับตัว Surface Pro 4 นี้ Kickstand ถูกออกแบบมาใหม่ เอาใจคนชอบท่ายาก หรือชอบหลายท่า
โดยการทำให้มันปรับองศาได้อย่างอิสระ จะกี่องศาก็ได้ตั้งแต่ 22 – 150 องศา สำหรับใครที่อยากได้เกิน 150 ก็สามารถฝืนได้เหมือนกันแต่ว่ามันจะ…หัก (ป๊อก!)
ด้านข้างจะมีช่องเสียบ USB 3.0 , Mini DisplayPort และช่องเสียบสายชาร์จ เป็นแม่เหล็ก (แบบ MacSafe อะ) กันการกระชากสายแล้วพาตัวเครื่องลากติดมาด้วย
อีกด้านมีช่องเสียบหูฟังเฉย ๆ ด้านนี้เอาไว้เหน็บปากกาโดยเฉพาะ เป็นแม่เหล็ก แค่เอาด้านเรียบๆของปากกาไปจ่อ มันก็จะดูดติดขอบเครื่องดัง แต๊บ! ง่ายต่อการพกพา แต่คือเหน็บด้านซ้ายหรือขวาก็ได้ แต่อีกด้าน Port มันเยอะ ทำให้ปากกาหลุดง่าย
Accessory ตัวชูโรงอย่าง Type Cover ก็ได้รับการอัพเกรดเหมือนกัน
นั่นก็คือ มี Backlit แล้ว ! รอมานาน โดยที่ความบางยังเท่า ๆ กับอันที่ไม่มี
ส่วนคนที่ใช้ Surface 3 ก็ไม่ต้องเสียใจนะ มันใช้ด้วยกันได้
Accessory อีกอันที่ได้รับการอัพเดทนั่นก็คือ ปากกา
เป็นปากกาที่ใช้งานได้ลื่นไหล และไวมาก ๆ อ่อ มันรองรับแรงกดได้ถึง 1024 ระดับ
ตูดปากกากดทีนึงจะเรียก OneNote ขึ้นมาอัตโนมัติ กดสองทีแคปหน้าจอ
ใช้ลบได้ด้วย โดยไม่ต้องกดเปลี่ยนเครื่องมือ ลบได้ทุกอย่างที่เขียนไป แต่ลบเธออกจากใจทำไงดี
การขีด ๆ เขียน ๆ นี่แหละ มันเป็นอะไรที่สะดวกมาก ๆ ในเรื่องของการจดบันทึก แท็บเล็ตกับปากกาด้ามเดียวก็พอแล้ว
สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่ต้องจดเลคเชอร์บ่อย ๆ จะต้องถูกใจมาก
การใช้งานจริง ถือว่าตอบโจทย์มากในหลาย ๆ เรื่อง แต่บางทีด้วยราคาอาจจะสูงไปนิดนึงยังทำให้การตัดสินใจซื้อเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก แต่มันคุ้มค่านะกับเม็ดเงินที่เสียไป น้ำหนักเบา ๆ ไม่ถึง 2 โล พกไปไหนก็สะดวก อาจจะไม่เท่กว่าบางเครื่องที่เวลาเอาไปกางในร้านกาแฟแล้วดูฮิปสเตอร์ แต่ในบางทีเครื่องก็เอ๋อ ๆ ไปบ้าง อันนี้อาจจะต้องรอทาง Microsoft ปล่อยอัพเดทมาให้
ข้อดี
- พกพาง่าย
- จอสวยมาก
- ปากกาใช้งานได้จริงและแม่นยำมาก
- แบตใช้งานได้ยาวนาน
ข้อเสีย
- ซอฟต์แวร์ยังไม่เสถียรในบางครั้ง
- Sleep แล้วปลุกเครื่องไม่ค่อยตื่น
สรุป
Surface Pro 4 นับเป็นแท็บเล็ตที่ครบครันที่สุดในทุก ๆ ด้าน แต่มันไม่สามารถทำอะไรได้แบบสุดๆเท่าไหร่ เอาน่า นี่มันแท็บเล็ตพกพา ใช้ Photoshop ได้ ตัดต่อวิดีโอได้บ้าง ส่วนถ้าใครจะเล่นเกมที่ใช้กราฟฟิคหนัก ๆ ก็เสียใจด้วย มันไม่สามารถเล่นได้ลื่นขนาดนั้น (แต่ตีดอทลื่นนะ) ส่วนปากกาเป็นตัวชูโรงสุด ๆ เพราะไม่มีแท็บเล็ตตัวอื่นที่จะใช้งานปากกาได้สะดวกเท่าตัวนี้มาก่อน นักเรียนนักศึกษา หรือ คนที่ทำงานแนวๆที่ต้องใช้การวาด ๆ เยอะ ๆ เนี่ย น่าจะตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี ถึงราคาจะสูงไปนิดก็ตาม เอาเป็นว่ามันคุ้มค่าแล้วกัน