สวัสดีครับสมาชิก iReview ทุกคน จำได้มั้ยครับเมื่อช่วงต้นปี 2012 hTC ได้ปล่อย Smartphone รุ่นท็อป ตระกูล One ออกมา ตามสเต็ป hTC แล้วหลังจากที่ปล่อยรุ่นท็อปอย่าง One X ได้นานพอสมควร มันก็ถึงเวลาสำหรับคนที่บอกว่า “เฮ้ย One X มันแรงนะแต่ยังไม่สุด” ก็เลยถึงเวลาที่จะปล่อยรุ่นไมเนอร์เชนจ์ออกมา เป็นสเปกใหม่ในร่างเก่าชื่อ One X+ นั้นเอง

ไมเนอร์เชนจ์คืออะไร?
พูดง่ายๆในภาษาบ้านๆเลยก็คือ การเพิ่มความสามารถหรือสเปกใหม่ในรูปร่างเดิมนั้นเอง


 

Specification

CPU : NVIDIA Tegra 3 AP37 Quad-core 1.7 GHz (One X เดิมอยู่ที่ 1.5 GHz)
GPU : ULP GeForce 2
Display : 4.7″ ความละเอียด 1280×720 (~312 ppi) Super LCD 2
RAM : 1GB
ROM : 32/64GB (One X เดิมเป็น GeForce)
กล้องหลังความละเอียด 8ล้านพิกเซล (3264 x 2448 pixels) Autofocus พร้อม LED Flash ,
บันทึกวีดีโอ FullHD 1080P
กล้องหน้าความละเอียด 1.6ล้านพิกเซล 720p@30fps
กระจก Corning Gorilla Glass 2 (One X เดิมเป็น Corning Gorilla Glass)
Wi-Fi รองรับ b/g/n และ DLNA
Wi-Fi Hotspot, NFC, Bluetooth 4.0
GPS : A-GPS; GLONASS
Android Version 4.0.4
Sound Enhancement : Beats audio
แบตเตอรี่ความจุ 2100 mAh (One X เดิม 1800mAh)
รองรับคลื่นความถี่ 3G ย่าน 850/900/2100 MHz และ LTE 4G~! (One X เดิมไม่รอบรับ LTE)


 

Design

การออกแบบ One X+ แทบไม่มีอะไรต่างจาก One X เดิมเลย แค่เปลี่ยนสีปุ่มมาตรฐาน Android เป็นสีแดงและขลิปสีแดงรอบๆกล้องหลัง ผสมกับ Unibody พลาสติกสีดำด้าน ให้ความรู้สึกปีศาจมากๆ (สำหรับสีขาวจะเป็นพลาสติกผิวมัน)

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

ด้านหน้ามีลำโพงสนทนาเสียงชัดเจนดี , กล้องหน้าความละเอียด 1.6ล้านพิกเซล , จอ  Super LCD2 ขนาด 4.7″ ความละเอียด1280×720 (~312 ppi) , ถัดจากจอลงมาเป็นปุ่มมาตรฐาน Android 3 ปุ่ม Back , Home , Recent apps

พูดถึงหน้าจอหน่อย
ถามว่า”หน้าจอของ One X+ สู้แสงได้ดีมั้ย” ขอตอบเลยว่าสู้ได้ แต่ไม่มากครับ ถ้าเปลี่ยนคำถามว่า “หน้าของ One X+ ดีมั้ย” ตอบได้เลยว่าโคตรดี แสงสีที่ให้ไม่จัดจ้านหรือสว่างแสบตาจนเกินไป นวลตากำลังดี ไม่เหมือนบางค่ายที่สว่างไป บางค่ายก็สีจัดเกินพอดี 

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

ด้านหลังมี กล้องหลังความละเอียด 8ล้านพิกเซลพร้อม LED Flash , ล่างสุดเป็นลำโพง รู้สึกว่าลำโพงตัวนี้เสียงดังกว่า One X ตัวเดิมมาก ส่วนจุดทองแดงข้างๆลำโพงนั่นเอาไว้ต่อ Dock ครับ

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

ด้านบนมี ปุ่ม Power , ช่องใส่ ซิมการ์ด (ต้องใช้เข็มจิ้มแล้วมันจะเด้งป๊อกออกมา) และช่องเสียบหูฟัง 3.5mm

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

ด้านข้างมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ขนาดยาวใช้ได้กดไม่ผิดแน่นอนครับ

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

อีกข้างมีแค่ช่องเสียบ micro USB ไว้ต่อ PC

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

ด้านล่างมีแค่รูไมโครโฟนสนทนาเล็กๆอย่างเดียว


 

User Interface & Experience

ขอบอกก่อนเลยว่า hTC ชอบยกเครื่อง Theme ของ Android ใหม่หมด แม้กระทั้งจุดเล็กๆที่หลายค่ายอาจมองข้าม ออกมาในชื่อของ Sense UI ซึ่งใน One X+ มาพร้อมกับ Sense UI 4+ แน่นอนว่าทำออกมาได้ดีมากๆในเรื่องของประสบการณ์การใช้งานหรือหน้าตาก็ตาม ทุกอย่างลื่นมากๆ

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

Home Screen ให้เริ่มต้น 5 หน้า พร้อม Widget จาก hTC ที่เยอะพอควรเลย

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

สิ่งที่ hTC ไม่เคยเอาออกเลยตั้งแต่ WP6.5 จนถึง Android รุ่นล่าสุดเลย คือนาฬิกาขนาดใหญ่และ Full Screen Weather Animation เป็นลูกเล่นเด่นๆของ Sense UI เลยก็ว่าได้

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

ตัว App Drawer ของ Sense 4+ เสียอย่างคือเรียงแอพเองไม่ได้ มีแค่ เรียงตามชื่อ A-Z , เรียงตามแอพที่ใช้บ่อยๆ และเรียงตามวันที่ อีกข้อคือสร้าง Folder ใน App Drawer ไม่ได้ แต่ข้อดีก็มีไม่น้อยนะ คือสามารถซ่อนแอพที่เราไม่อยากเห็นหรือไม่อยากให้คนอื่นเห็นได้ หึหึหึ (หัวเราะแบบตัวร้ายในละคร)

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

มี Skin ของหน้า Home และ Lockscreen ให้ด้วย

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

หน้า Setting ถึงจะยกเครื่องใหม่แต่ Sense UI ก็ยังคงตำแหน่งต่างๆให้คล้ายกับ Android เดิมๆ ตัวนี่มาพร้อม Android 4.1.1 นะครับ

 

Screenshot_2013-01-20-21-08-49

 

 

             สำหรับขาฟังเพลงคงจะชอบแน่ๆ เพราะ มี Beats Audio มาให้ด้วย เลือก เปิด/ปิด ได้ด้วยนะ

 

 

 

 

 


 

Camera

กล้องที่ให้มา 8MP เท่าตัวเดิมแต่คุณภาพของรูปที่ออกมานั้นต่างกันเล็กน้อย เท่าที่ผมสังเกตุคือภาพที่ได้จาก X+ จะเหมือนถูกเร่ง Saturation ขึ้นจากตัวเดิมขึ้นมาหน่อยนึงและจัดการ Noise ได้ดีกว่าแต่ผลที่ตามาเล็กๆคือภาพจะมืดลงแ่ต่ให้ลายละเอียดภาพดีกว่า มี zero shutter lag พร้อม continuos mode สามารถกดชัตเตอร์ค้างไว้แล้วเครื่องจะรัวภาพให้ได้สูงสุด 99 ภาพ และสามารถเลือกภาพที่ดีที่สุดเก็บไว้ 1 ภาพได้ด้วย 

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

อีกเรื่องที่อัพเดทจาก One X เดิมขึ้นมาคือ กล้องหน้าก็มีการอัพเดทให้เป็น 1.6 ล้านพิกเซล พร้อมค่า F ที่กว้างขึ้นทำให้ภาพที่ออกมาสว่างกว่าเดิม และมีโหมดเหมือนกล้อง Android ทั่วๆไปคือ HDR , Panorama เป็นต้น

 

Screenshot_2013-01-28-16-55-55

 

ลูกเล่นในกล้องของ One X+ ยังมีการใส่ filter ให้ภาพได้เลยแบบไม่ง้อ Instragram

 

IMAG0065

 

เออใช่… จำได้ว่าตอน One X ตัวเดิมจะไม่สามารถถ่ายมาโครได้ (วัตถุระยะใกล้มากๆ) ตอนนี้ One X+ ทำได้แล้วครับ และทำได้ดีด้วย

 

ตัวอย่างภาพจากล้อง

IMAG0066IMAG0057IMAG0058IMAG0073IMAG0063IMAG0059IMAG0053IMAG0052IMAG0046IMAG0038IMAG0033IMAG0025IMAG0019_BURST003IMAG0017IMAG0007

ตัวอย่างภาพพาโนรามา

IMAG0069IMAG0049IMAG0047

 


Benchmark

Screenshot_2013-01-28-16-28-03

 

 

 

AnTuTu Benchmark ได้ไป 14011 คะแนน

 

 

 

Screenshot_2013-01-28-16-53-52

 

Multitouch ได้สูงสุง 10 จุด   .

 

 

 

 

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

พูดถึงแบตเตอรรี่หน่อย
ใน One X+ เพิ่มแบตให้ถึง 2100 mAh แต่เนื่องด้วยความเร็วซีพียูที่แรงขึ้นจึงไม่ลืมให้ตัว Powersever มาให้ ช่วยประหยัดแบตได้เยอะอยู่ (One X ตัวเดิมก็มีไม่ต้องน้อยใจ) ระยะเวลาในการใช้งานทั่วๆไปก็วันนึงเต็มๆได้แน่นอน แต่ถ้าเล่นเกมส์ละก็ หึ…
เต็มที่ 4 ชั่วโมงจากแบตเต็ม ก็หมดได้ (Tegra3 กินไฟมาก)

 


 

สรุป

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

One X+ โดยรวมแล้วเป็นรุ่นอัพเดทจากตัวเดิมได้ดีมากๆ ถ้าใครกำลังคิดจะซื้อ One X ตอนนี้แนะนำให้เพิ่มอีก 2000 ได้ ตัวนี้เลยครับ ดีไซน์สวยสมกับเป็น hTC สีหน้าจอนวลตามาก มีข้อสังเกตุนิดหน่อยว่าแบตหมดเร็วเวลาเล่นเกมส์ เพราะ Tagra3 เป็นชิปที่กินไฟค่อนข้างมาก และร้อน ไม่ต้องกลัวตกรุ่นเพราะได้รับการอัพเดทของ hTC บ่อย และได้ก่อนค่ายอื่นๆรับรอง ถ้าใครกำลังหา Smart Phone รุ่นท็อปเท่ๆแรงๆซักตัวแนะนำ hTC One X+ ครับ