รีวิว – DEESS HOMEUSE IPL รุ่น 3in1 จากร้าน IPL EXPERT

DEESS IPL รุ่น 3in1 เครื่องเดียวครบ โดยในกล่องให้หัวมาทั้ง 3 แบบ ใช้ได้กำจัดขนส่วนเกิน, ลดการอักเสบของสิว, หรือแม้กระทั่งการฟื้นฟูผิวหน้า สามารถยิงได้ 95,000 ครั้ง รวมแล้ว 3 หัว ก็ยิงได้ถึง 285,000 ครั้ง ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้นมีทางโรงงานผู้ผลิต เขาก็ได้การรับรองมาตรฐาน ISO 13485 ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับการผลิตเครื่องมือแพทย์โดยเฉพาะ และ มาตรฐาน CE ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของยุโรป เพราะฉะนั้นหายห่วงแน่นอนครับ

ต้องขอเกริ่นก่อนนะครับ ปัญหานี้เดิมทีไม่ใช่ปัญหาของผู้เขียน แต่เป็นเรื่องของ “แฟน” ที่กำลังมองหานวัตกรรมที่ดีกว่าการถอนขนซึ่งใช้มาแต่โบราณ (ฮา) และไม่ว่าด้วยความบังเอิญหรือโชคชะตาก็ตาม ทางร้าน IPL EXPERT ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่าย DEESS อย่างถูกต้องรายเดียวในไทย ก็ได้ส่งเครื่อง DEESS 3-in-1 มาให้ลอง

IPL คืออะไร

ถ้าพูดถึง IPL สาว ๆ หลายคนก็คงรู้จักเป็นอย่างดี แต่สำหรับหนุ่ม ๆ อย่างผมก็ได้ไปทำการบ้านมาเช่นกัน IPL ย่อมาจาก Intense Pulsed Light ซึ่งเป็นแสงที่มีความเข้มข้นสูง และมีความยาวอยู่ในช่วง 515-1200 นาโนเมตร ซึ่งเป็นที่นิยมในวงการแพทย์ที่นำมาใช้รักษาปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น กำจัดขนส่วนเกิน, ลดรอยดำ, ลดรอยที่เกิดจากสิว

ที่มา : http://www.laserhairremovalbysia.com.au/compare/ipl-hair-removal

ปลอดภัยไหม ? อันตรายรึเปล่า ?

IPL เป็นพลังงานแสงที่อ่อนกว่าเลเซอร์ และสามารถทำเองที่บ้านได้โดยไม่อันตราย (ถ้าไปคลีนิคคนที่ทำให้ก็คือพนักงานอยู่ดี) เท่าที่ผมศึกษามาในต่างประเทศมีการใช้เครื่อง HOMEUSE IPL เนี้ยอย่างกว้างขวาง ส่วนสาเหตุที่อาจดูใหม่สำหรับคนไทย อาจเป็นเพราะตัวเครื่องที่มันราคาค่อนข้างสูง เลยไม่ค่อยมีคนสั่งมาใช้กันเป็นเรื่องเป็นราวเสียมากกว่า

ซึ่งเครื่อง DEESS เนี้ยเค้ามีการวางจำหน่ายไปแล้วทั่วโลก มีมาตรฐานสากลรองรับ เช่น ISO 13485 สำหรับเครื่องมือแพทย์, CE มาตรฐานยุโรป, นอกจากนี้ยังมีมาตรฐานความปลอดภัยด้านแสง (EN 62471) รวมถึงมาตรฐานคุณภาพของญี่ปุ่น (PSE) และก็ได้รับรองจาก อย.ด้วยนะครับ วางใจได้ถึงความปลอดภัย เอามาลองรีวิวกับคุณแฟนได้ไม่ต้องกังวล

ภายในกล่องก็มีอุปกรณ์พื้นฐานไม่ว่าจะเป็นคู่มือการใช้งาน, แว่นตาสำหรับกันแสง, ซองเก็บอุปกรณ์และหัวฟิลเตอร์

ส่วนอันนี้เป็นตัวเครื่องพร้อมหัวฟิลเตอร์อีกตัว (ทั้งหมดมีอะไรบ้างเดี๋ยวกล่าวทีหลัง)

ด้านล่างโคงเข้ารับสรีระกับมือ รวมถึงมีช่องระบายอากาศให้มอเตอร์

ข้อดีของ DEESS ก็คือการใช้งานได้ 3 ใน 1 (ตามชื่อ) โดยในเครื่องเดียว สามารถเปลี่ยนหัวฟิลเตอร์ได้ตามลักษณะการใช้งาน และเมื่อใช้งานจนครบจำนวน 95,000 ช็อต/หัว ก็สามารถซื้อเฉพาะหัวตามแต่ที่ต้องการมาเปลี่ยนได้

การประกอบเป็นลักษณะดังภาพ สามารถถอดแกะได้โดยง่าย พอต้องการเปลี่ยนคุณสมบัติก็เพียงแค่ถอดเปลี่ยน

กำจัดขน แก้รอยสิว กระชับรูขุมขน

สำหรับหัวฟิลเตอร์ทั้ง 3 ประกอบไปด้วย

1. Hair Removal (HR) สำหรับกำจัดขนส่วนเกิน
2. Acne Clearance (AC) สำหรับลดการอักเสบของสิว
3. Skin Rejuvenation (SR) สำหรับฟื้นฟูผิว

แต่ละหัวที่ต่างกันจะเป็นเรื่องของ “ความยาวคลื่น” ตั้งแต่ 400 – 1,200 นาโนเมตร

ข้อควรระวังในการใช้

สำหรับข้อควรระวังในการใช้ก็ไม่มีอะไรมาก

• คุณสาว ๆ อาจจะลองใช้ที่ท้องแขน แล้วดูปฎิกิริยาก่อน
• ถ้าผิวที่โดนแดดมา ควรงดการใช้ไปสักพักหนึ่งเนื่องจากช่วงนั้นผิวอาจบอบบาง
• ไม่ควรยิงจุดซ้ำ ในการใช้งานครั้งเดียวกัน
• เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดควรงดออกกลางแจ้งสักระยะหลังใช้
• นอกจากนี้เนื่องจากเป็นแสงที่ค่อนข้างจะแรงเหมือนแฟลชกล้อง เวลาใช้งานก็ไม่ควรจ้องไปที่ดวงไฟโดยตรง และสวมใส่แว่นตากันแสงสะท้อนระหว่างการใช้งาน, ผู้ที่มีภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร, ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังหรืออาการบาดเจ็บควรหลีกเลี่ยงการใช้งานไปก่อน นอกนั้นก็แทบไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วครับ

แต่ละหัวจะมีตัวอักษรย่อเขียนไว้ HR, AC, SR ซึ่งดูได้จากด้านใน และอย่างที่บอกไปข้างต้นคือแต่ละหัวจะต่างกันในย่านของความยาวคลื่น เพื่อการหวังผลที่แตกต่างกันไป อันนี้ดีและคุณแฟนชอบครับอเนกประสงค์ดี

วิธีใช้งาน

ตอนแรกเข้าใจผิดว่าเป็นแบบชาร์ตแบตเตอรี่แล้วใช้งานไร้สาย (ฮา) อันนี้เนื่องจากใช้พลังงานสูงจึงต้องเสียบปลั๊กไว้ตลอดเวลา ในการเปิดครั้งแรกเครื่องจะวอร์มประมาณ 30 วินาที วิธีใช้งานก็เพียงแค่หลังทำความสะอาดผิวให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว หากเป็นคนขนสั้นหรือบริเวณผิวหน้าสามารถใช้งานได้เลย แต่สำหรับบริเวณขนยาวอย่างรักแร้หรือขนหน้าแข้งให้โกนให้สั้นลงก่อน เพื่อความสะดวกในการทำสวย

เมื่อใช้งานสามารถปรับความแรงได้หลายระดับ โดยหากคนที่ไม่เคยทำ IPL หรือกำลังกล้า ๆ กลัว ๆ ในตอนแรกแนะนำให้เริ่มที่ความแรงระดับ 1-3 ไปก่อน หากต้องการให้เห็นผลมากยิ่งขึ้น หรือใช้บริเวณผิวที่หนาค่อยปรับความแรงเพิ่มขึ้น (รายละเอียดการใช้งานมีบอกในคู่มือ)

วิธีการใช้งานให้แตะลงไปที่ผิวเลย (ไม่ต้องทิ้งระยะห่าง) และเนื่องจากตัวเครื่องมีเซ็นเซอร์ในตัว เมื่อเราได้ระยะใกล้พอไฟจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ทำให้มั่นใจได้ว่าแสงจะไม่ทำอันตรายในส่วนอื่น จากนั้นก็กดปุ่มยิง IPL หนึ่งทีเป็นอันจบ แสงจะถูกยิงออกมาในช่วงเวลาเสี้ยววินาที (คล้ายแฟลชกล้อง) ซึ่งหากรู้สึกว่าร้อนไปก็อาจปรับความแรงลงได้

จากนั้นตัวเครื่องจะใช้เวลาชาร์จสักประมาณ 3 วินาที เพื่อพร้อมสำหรับการยิงครั้งต่อไป โดยผู้ใช้สามารถยิงไปได้เรื่อย ๆ จนครบทั่วทั้งบริเวณไม่ว่าจะเป็นคอ, รักแร้, แขน, ขา (อันหลังอาจต้องใช้ไฟแรงหน่อย) หรือส่วนที่ต้องการทำซ้ำประมาณ 3-5 รอบ ส่วนความถี่ก็อาจทำสัปดาห์ละครั้ง

รีวิวผลลัพธ์

เปรียบเทียบระหว่างแขนซ้าย (ไม่ได้ทำอะไร) กับแขนขวาที่ทำไปได้ประมาณ 1-2 ครั้ง (ครั้งละ 3 รอบ) รู้สึกได้ว่าขนขึ้นช้าลง และครั้งที่สองตอนทำสัมผัสได้ว่าเส้นขนอ่อนแอลงมาก สามารถดึงออกได้ง่าย ๆ ด้วยนิ้วมือโดยไม่เจ็บ อารมณ์คล้ายตอนผมร่วงแต่เปลี่ยนเป็นเส้นผมแทน และหากต้องการเห็นผลถาวรจำเป็นต้องทำหลายสัปดาห์หน่อย จากนั้นขนจะไม่งอกขึ้นมาอีกเลย

ความแตกต่าง

การกำจัดขนด้วย เครื่องกำจัดขน IPL เมื่อเทียบกับการถอน, โดน, แว๊กซ์ ข้อดีก็คือไม่เจ็บและไม่มีรอยแผล (แต่อาจรู้สึกร้อนระหว่างทำนิดหน่อย) ขนไม่กลับมางอกอีก เซลล์ของขนอ่อนแอลงแล้วก็มีผลพลอยได้เป็นเรื่องการผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้แลดูขาวขึ้น (แต่ไม่เกินสีผิวเดิม) ซึ่งหากอยากรู้ว่าสีผิวเดิมขาวได้แค่ไหนสังเกตได้จากท้องแขน นอกจากนี้ก็ช่วยกระชับรูขุมขนด้วย

และเนื่องจากผมเป็น Tech Blogger ดังนั้นจึงต้องมีข้อมูลรองรับเยอะหน่อย (ฮา) ส่วนใครที่ยังไม่เข้าใจกระบวนการว่า IPL กำจัดขนได้อย่างไร สามารถดูคลิปวิธีการทำงานของมันได้จากวิดีโอด้านบนครับ

ข้อดี

1. เปลี่ยนหัวได้ (กำจัดขน, ลดรอยแดงจากสิว, กระชับรูขุมขน)
2. ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปคลีนิค
3. ราคาเฉลี่ยระยะยาวถูกกว่าการซื้อคอร์สต่อเนื่อง
4. ปลอดภัยด้วยมาตรฐานระดับโลก
5. รับประกัน 1 ปี ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

ข้อเสีย

1. ราคาเครื่องค่อนข้างสูงในครั้งแรก
2. ต้องให้คนช่วยยิง ในส่วนที่เรามองไม่เห็น เช่น หลัง

สรุป

จากเท่าที่ลองศึกษาข้อมูล (และทดสอบรีวิวด้วยตัวเอง) ดูเหมือนว่าการใช้ IPL เป็นช่องทางที่ราคาถูกและเห็นผลมากที่สุด ในการกำจัดขนและมีผลพลอยได้เป็นเรื่องการรักษารอยแดงจากสิว รวมถึงการกระชับรูขุมขน การลงทุนค่าเครื่องครั้งแรกอาจดูแพง แต่ใช้ไปแค่สองสามเดือนก็ถูกกว่าการซื้อคอร์สที่คลีนิคเสริมความงามเสียอีก แถมยังเก็บ IPL เอาไว้ใช้กับส่วนอื่นของร่างกายได้ด้วย

ติดตามข่าวสารได้ที่ Website และ Fanpage

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial