Asus VivoWatch เป็นอีกหนึ่ง Wearable จากเอซุสหลังจากที่ได้เปิดตัว ZenWatch ไปไม่นาน แต่เนื่องด้วยขีดจำกัดด้านราคา และสมาร์ทวอทช์ที่มี OS ค่อนข้างที่จะกินแบตเตอรี่ รุ่นนี้จึงถือได้ว่าเป็นสมาร์ทวอทช์จากเอซุสโดยแท้จริง และเนื่องด้วยการเลือกใช้ Microcontroller แทนการติดตั้ง CPU และ OS จึงไม่ต้องแปลกใจที่มันลงแอปพลิเคชันไม่ได้

Asus - VivoWatch (1)

Asus VivoWatch

จับทุกชีพจรของชีวิต กับนาฬิกาที่จะดูแลคุณ และครอบครัวของคุณ เรื่องราคาไม่แน่ใจแต่คิดว่าน่าจะอยู่ประมาณ 5,000 บาท

  • ตรวจสอบการเต้นของหัวใจ
  • แสดงผลผ่าน LED เมื่อคุณเผาผลาญแคลอรี่
  • ดูแลครอบครัวของคุณ ด้วยการอัปเดตข้อมูลสุขภาพ
  • แบตเตอรี่นาน 10 วัน
  • กันน้ำมาตรฐาน IP67

ดูทรงแล้วเหมือนเป็นนาฬิกาสำหรับออกกำลังกายมากกว่า (มันควรอยู่ในหมวด Wearable มากกว่า Smartwatch) เนื่องจากหน้าจอของมันมีความละเอียดเพียง 128 x 128 พิกเซล

Asus - VivoWatch (2)

อุปกรณ์ที่แถมมาก็มีสาย Micro USB พร้อมกับแท่นชาร์จรวมถึงคู่มือขนาดเล็ก ส่วนแอปพลิเคชันนั้นมีชื่อว่า HiVivo รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ Android 4.3 และ iOS 8.1 ขึ้นไป

Asus - VivoWatch (3)

ความเจ๋งของ VivoWatch ที่ดูภายนอกแม้จะเหมือนนาฬิกาทั่วไป แต่วัสดุก็ไม่ไก่กาเพราะเป็นอลูมิเนียมขอบข้าง ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนสายเป็นนาฬิกาทั่วไปได้เลย (22 มม.) ส่วนด้านล่างจะมีแถบ LED แบบยาวเพื่อแสดงสถานะการเต้นของหัวใจ (แดง, เขียว) ดูมีลูกเล่นขึ้นมานิดนึง

Asus - VivoWatch (4)

ด้านหลังมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งตรงนี้หากใครซื้อมาเพื่อออกกำลังกายถือว่ามาถูกทางแล้วครับ

Asus - VivoWatch (5)

UV Index

จุดขายที่แบรนด์อื่นไม่มีก็คือการ “วัดรังสียูวี” ด้วนเซ็นเซอร์สองจุดที่อยู่ข้าง LED บริเวณด้านล่าง ดูเผิน ๆ แล้วเหมือนกับเหมาะกับประเทศไทยอย่างยิ่ง แต่อันที่จริงมันก็ไม่ได้วัดอะไรละเอียดมากมาย (ต่ำ, ปานกลาง, สูง) ดูเป็นจุดขายที่ใช้งานจริงแล้วไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ เพราะแดดร้อนมากหรือร้อนน้อย (ส่วนใหญ่จะสัมพันธ์กับค่ายูวี) เราก็พอจะรู้ตัวกันอยู่แล้ว

Asus - VivoWatch (6)

สำหรับฟีเจอร์พื้นฐานอย่างการวัดก้าวเดิน VivoWatch ก็สามารถนับได้ทั้งเป็นก้าว พร้อมแปลงหน่วยเป็นแคลลอรี่และระยะทางรวมถึงเวลาที่เดินไป (ไม่ต้องกดอะไรอันนี้จับโดยอัตโนมัติ)

Asus - VivoWatch (7)

Pulse

วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ฟีเจอร์นี้คิดว่าไม่ต้องอธิบายกันสักเท่าไหร่ ส่วนการใช้งานก็เพียงแค่เปิดใช้แล้ววัดธรรมดาครับไม่ได้มีอะไรพิเศษ เว้นเสียแต่ว่าคุณต้องการออกกำลังกาย ก็เพียงแค่กดปุ่มด้านข้างค้างเพื่อเข้าโหมด Exercise ซึ่งจะวัดข้อมูลได้ละเอียดมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น

  • แคลลอรี่ที่เบิร์นได้ย้อนหลังถึง 24 ชั่วโมง
  • จำนวนก้าวที่เดินหรือวิ่ง
  • ระยะเวลาที่ออกกำลังกาย
  • อัตราการเต้นของหัวใจ (bpm) ย้อนหลัง 60 วินาที
  • ระยะทางที่เดินหรือวิ่ง
  • ความเร็วเฉลี่ยต่อชั่วโมง

ดูเหมือนแล้วน่าจะเหมาะกับการ “วิ่ง” โดยเฉพาะมากกว่ากีฬาอื่น

Asus - VivoWatch (8)

ทดสอบสวมใส่ดูแล้วค่อนข้างใหญ่เล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับว่าสวมใส่แล้วอึดอัด ใหญ่พอดีเหมาะกับแขนผู้ชาย

Asus - VivoWatch (9)

ด้านหลังเป็นรูสำหรับล็อคนาฬิกาในแบบที่เราคุ้นเคย โดยสามารถเปลี่ยนเป็นสายหนังหรือสายโลหะก็ได้เช่นกันครับ (แต่จะเข้าหรือไม่เข้าอันนี้อีกเรื่อง)

Asus - VivoWatch (10)

พวกการแจ้งเตือนสารพัดสามารถตั้งให้มาแสดงที่นาฬิกาได้ (แต่ตอบกลับไม่ได้) ตรงนี้น่าเสียดายเล็กน้อยตรงที่มีปัญหากับภาษาไทยดังภาพ ทำให้อ่านข้อความแทบไม่รู้เรื่อง ส่วนถ้าใครเน้นภาษาอังกฤษก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ครับ

HiVivo

HiVivo

สามารถตั้งค่าได้ทั้งแทนนาฬิกาปลุก, แจ้งเตือนการเคลื่อนไหว, ข้อความและคนโทรเข้า, การสั่นเพื่อแจ้งเตือน, ฯลฯ และนอกจากนี้ยังมีการวัดดัชนีความสุข (Hi) ในแต่ละวัน เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจของคุณภาพชีวิตโดยรวม ซึ่งจะขึ้นอยู่กับจำนวนของการออกกำลังกายและการนอนหลับในแต่ละวัน ส่วนข้อเสียก็จะเป็นเรื่องการ Sync ข้อมูลในแต่ละครั้งที่กินเวลาค่อนข้างนานครับ (ไม่แน่ใจเพราะทาง Asus เอาไปอัพโหลดขึ้น Server ของทางต่างประเทศด้วยหรือเปล่า)

Asus - VivoWatch (11)

สำหรับการใช้งานจริงสามารถกันน้ำและใส่อาบน้ำได้ปกติ หากสวมใส่เฉย ๆ แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนาน 10 วัน แต่ถ้าเปิดโหมดออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง จะสามารถใช้งานได้ยาวนาน 1 วัน การใช้งานสามารถใช้ได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนตลอดเวลา แต่สิ่งที่อึดอัดดูเหมือนว่าตัวนาฬิกาเองจะแทบปรับแต่งหรือควบคุมอะไรไม่ได้เลยนั่นเองครับ

ข้อดี

  1. แบตเตอรี่ยาวนาน
  2. เปลี่ยนสายนาฬิกามาตรฐานได้
  3. ดึงข้อมูลไป Apple HealthKit และ Google Fit ได้อัตโนมัติ
  4. เข้าใจเรื่องสุขภาพได้ง่ายด้วยดัชนีความสุข (Hi)

ข้อเสีย

  1. ลงแอปพลิเคชันหรือปรับแต่งไม่ได้
  2. ไม่รองรับการตอบกลับของข้อมูล
  3. ไม่มีไมค์และลำโพง
  4. ราคาค่อนข้างสูง

สรุป

เป็นนาฬิกาอัจฉริยะอีกรุ่นหนึ่งจาก Asus (อันที่จริงควรเรียกอุปกรณ์สวมใส่มากกว่า) ดีไซน์อาจดูธรรมดาไปนิดเมื่อเทียบกับราคา แต่เรื่องแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ 10 วัน ถือว่าเป็นจุดขายอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ เพราะไม่จำเป็นต้องชาร์จทุกวันเหมือนนาฬิกาอัจฉริยะทั่วไป ชาร์จเพียงแค่อาทิตย์ละครั้งค่อยสมกับเป็นนาฬิกาที่ใช้จริงจังขึ้นมาหน่อย