หลังจากที่ได้รีวิวตัวเครื่องและสเปคของ Samsung Galaxy Tab 3 จอ 10.1 นิ้ว ไปแล้วในตอนที่ 1 วันนี้สำหรับตอนที่ 2 จะกล่าวถึงการเทสตัว System และการ Benchmark (เบนซ์มาร์ค) รวมไปถึงความสามารถของแอปอื่นๆ อีกเล็กน้อย ซึ่งเราก็มาดูกันเลยว่าผลเบนซ์มาร์คที่ผู้เขียนจับเทสออกมานั้นได้คะแนนเท่าไหร่กันบ้าง
สิ่งที่ได้จากการทดสอบนี้ทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่าเจ้าตัว Intel Atom Z2560 เนี่ยมันก็พอทำจะไหวในการเล่นเกมระดับล่างถึงกลางสำหรับกลุ่ม Tablet PC ในราคาหมื่นต้นๆ แต่สำหรับบางคนอาจจะบอกว่ามันแพงและก็ใหญ่ แต่บางคนก็ว่ามันก็เหมาะสมเหมาะราคาค่าตัวกับความสามารถที่จะนำมาใช้งาน หรือประดับบารมีของตัวเองในแบรนด์ของซัมซุง ซึ่งก็แล้วแต่มุมมองความรู้สึกครับ มาดูภาพประกอบขณะเทสดีกว่า
บรรยากาศขณะกดเทสแอปเบนซ์มาร์ค
รายชื่อแอปส์และคะแนนรวมที่ได้จากการทดสอบเบนซ์มาร์ค
รายชื่อแอปที่ใช้ทดสอบ | คะแนนที่ได้ |
AnTuTu Benchmark | 5931 |
AnTuTu Benchmark 3D Rating | 1731 |
Bullet Benchmark | |
Level 1 | SCORE 124,239 / FPS Average 20.4 fps |
Level 2 | SCORE 86,171 / FPS Average 12.2 fps |
Level 3 | SCORE 67,251 / FPS Average 9.1 fps |
3DMark – The Gamer’s Benchmark | 5741 |
Multi-touch Benchmark Test | รองการ Multi Touch ได้ถึง 10 นิ้วมือพร้อมกัน |
AnTuTu Benchmark
ถ้าดูจากผลเทสโปรแกรม AnTuTu Benchmark จะเห็นได้ว่าในภาพรวมในระดับการจัดอันดับของกลุ่ม Smart Phone และ Tablet PC เจ้าตัว Samsung Galaxy Tab 3 จอ 10.1 นิ้ว เหมือนจะไม่ได้ไปสุดหรือเหนือกว่า Smart Phone แรงๆ อาจจะด้วยเพราะหน่วยประมวลผล Processor ที่เป็น Intel Atom Z2560 กับกราฟิกการ์ด PowerVR SGX 544 MP2 นั้นไม่ได้แรงสุดๆ อย่างที่บางคนคิดว่า Intel ต้องสุดยอดเสมอแต่ผู้เขียนอยากให้ท่านผู้อ่านลองนึกถึงการใช้งานขั้นพื้นฐานในลักษณะการได้ตัวเครื่องที่ตอบสนองการทำงานต่างๆ ได้ไวและไม่สะดุดโดยไม่นับการเล่นเกม 3D นะครับ
ซึ่งเจ้าตัว Samsung Galaxy Tab 3 จอ 10.1 นิ้ว เนี่ยมันก็ตอบโจทย์ได้ดีในกลุ่ม Tablet PC ที่โทรออกได้ทำงานได้โดยที่มีจอขนาดใหญ่ๆ ที่เรามองไปแว่บนึงแล้วเห็นอะไรชัดเจนเต็มตาสบายตากว่าพวกจอ 7 นิ้วถึงแม้นน้ำหนักจะหนักไปหน่อย 512 กรัม ก็ราวๆ ครึ่งกิโลกรัมเกินมานิดๆ เวลาถือนานๆ ก็จะเมื่อยเอาได้แต่ถ้ายอมรับข้อเสียนี้ได้ก็จบ
Bullet Benchmark
เจ้าตัวแอปทดสอบตัวนี้จะเน้นงานด้านแสดงผลกราฟิกโดยจะจับผลเทสแบบภาพรวมอัดกราฟิกประเภทคำสั่ง OpenGL ให้ทำงานทั้งตัว CPU และ GPU เลย
โดยในการกดทดสอบจะมีให้เลือกด้วยกัน 3 Level ครับเรียกว่ามันคือแอปที่โหดร้ายที่จะทรมานการทำงานของ CPU และ GPU อย่างสุดๆดูผลเทสแต่ล่ะ Level ดีกว่า
Level 1. ยังสบายๆ แค่ 500 Object ยังไปได้สบายๆ พอจะลื่นบ้าง
ผลคะแนนออกมาให้ดูเฟรมเรทที่ได้ 20.4fps โดยปกติการแสดงผลถ้าได้เฟรมเรทสัก 20-30 ขึ้นไปหรือเฟรมเรทสูงๆ ภาพจะนุ่มนวลลื่นไหลดี
Level 2.
เริ่มความโหดขึ้นมาหน่อย 1,000 Object
ใน Level 2 เล่นเอาเฟรมเรทร่วงรูดลงมาเหลือ 12.2 fps เลย คราวนี้ตอนเทสจริงเนี่ยภาพที่ผู้เขียนเห็นชัดๆ เลยคืออาการกระตุกของภาพเริ่มมากขึ้น
Level 3.
พอมา Level 3 เรียกว่าขืนใจการทำงานเลยหนักหน่วงมาก 4,000 Object นี่ถ้าเอาไปเทสกับเครื่อง Android ที่ Spec ไม่สูงมีวูบแน่แท้หรือไม่ตัวเครื่องเกิดอาการ Restart ตัวเองไปเลย แต่เจ้าตัว Samsung Galaxy Tab 3 จอ 10.1 นิ้ว ก็ยังทำงานได้ดีอาจจะเพราะหน่วยประมวลผล Intel Atom Z2560 กับกราฟิกการ์ด PowerVR SGX 544 MP2 นั้นสามารถรองรับการทำงานได้ดีในระดับนึงสำหรับการ Render ภาพที่มี Object เยอะๆ แต่ก็ไม่ได้ดีสุดๆ ถ้าจะให้ดีสุดๆ คงต้องรอ Intel ออก Processor สำหรับ Mobile Platform ตัวใหม่สำหรับ Mobile Device ออกมาคาดว่าปีหน้า Intel จะออกใน Platform Bay Trial ใหม่แบบ 64bit (ตอนที่เขียนบทความตอน 2 นี้ก็มีข่าวออกมาแล้วครับ อ่านข่าวจากต่างประเทศ)
และผลทดสอบภาพรวมใน Level 3 พอเห็นเฟรมเรทแล้วเพลียใจกันเลยหล่นฮวบไปถึงตาตุ่ม เหลือเพียง 9.1 fps
AuTuTu 3D Rating
ลองทดสอบกับการแสดงผล 3D อาจจะเป็นผลด้านเกม 3D ที่สามารถเล่นกับ Tablet PC ใน Android OS ได้
พอจบผลทดสอบก็ได้คะแนนออกมา 1,731 คะแนนว่าแต่ผู้เขียนเองจะเทียบกับตัวไหนดีเพราะเพิ่งได้รับ Tablet PC แบบนี้มาทดสอบและใช้งานเอาเก็บไว้เป็นผลครั้งหน้าหากทางผู้ใหญ่ใจดีส่งมาให้ทีมงานทดสอบจะนำมาเสนอเทียบคะแนนในครั้งถัดๆ ไปครับ
3DMark for Andorid
เป็นแอปที่ก่อนหน้านี้ใช้ทดสอบเครื่อง PC เอาวัดคะแนนความแรงของระบบทั้งระบบแต่ก็เพิ่งมีมารองรับกับฝั่ง Android Platform เพราะตลาดที่เปลี่ยนไปในโลกของอุปกรณ์ Mobile Device มันโตแซงหน้า Desktop PC นั้นเอง
ตอนทดสอบก็มีแบบทดสอบมาให้เรากด Render ดูจากการเล่นแสดงผลความลื่นไหลเรียกได้ว่าพอจะเล่นเกม 3D ได้ดีในระดับนึงอารม์เหมือนเล่นเกมที่กราฟิกบนเครื่อง PC Desktop แต่เราต้องปรับค่าคอนฟิกให้ต่ำๆ บวกกลางๆ เฟรมเรทที่ได้ออกมาอยู่ประมาณ 18-30 fps ขึ้นมานิดๆ แต่ถ้าเป็นช่วยที่มี Object 3D เยอะๆ ทำให้ตัว Processor และ GPU ทำงานหนักขึ้นเฟรทเรทก็ร่วงรูดกราวลงไปได้เช่นกันเรียกได้ว่าถ้าเทียบกับฝั่ง PC Desktop รุ่นเก่าอย่างพวก Intel Pentium Dual Core ตระกูล E แล้วใช้การ์ดจออย่าง Radeon HD4670 รุ่นเก่ามันก็คล้ายๆ กันเลยคือกระตุกแบบเฟรมเรทตกร่วงลงไปนั่นเอง
สรุปผลเมื่อ Render ผลเบนซ์มาร์คเสร็จมีการจับเทียบให้เราดูว่าเครื่องเรานั้นอยู่ที่ระดับไหนในตารางของกลุ่ม Smart Phone กับ Tablet PC เรียกได้ว่าเห็นผลแล้วอืม.. มันแรงกว่า iPhone 5C อยู่ 1 ช่วงตัว (iPhone 5C หยุดสายพานการผลิตไปแล้ว ณ ตอนที่เขียนบทรีวิวตอนที่ 2 นี้)
แถมด้วยการทดลองเล่นเกม Plant vs Zombies 2 (ดาวน์โหลดเล่นฟรี) ต้องบอกว่า เล่นได้ลื่นไหลดีมากครับยิ่งช่วงไอตัว Zombies แห่มาเยอะๆ ช่วงท้ายๆ เกมนี่เรียกได้ว่าตัว Intel Atom Z2560 กับกราฟิกการ์ด PowerVR SGX 544 MP2 ประมวลผลทันแต่ที่จะไม่ทันคือมือเรานี่แหละแห่กันมาเยอะ – -”
ผู้เขียนเองก็ชอบเกม Plant vs Zombie 2 นี้แต่อาจจะเล่นไม่เก่งนักแต่มันก็สนุกแก้เบื่อช่วยฆ่าเวลาได้ไม่น้อยเอาไว้ฝึกสมองว่าจะวางพวกต้นไม้ไว้ป้องกันบ้านเราตรงไหนได้บ้าง
ข้อดีของ Samsung Galaxy Tab 3 จอ 10.1 นิ้ว สำหรับด้านการเล่นเกมในกลุ่ม Tablet PC ขนาดจอ 10 นิ้วนั้นคือเจ้าตัว Samsung Galaxy Tab 3 จอ 10.1 นิ้ว นี้รองรับ Multi Touch ได้ถึง 10 นี้นี่แหละและการตอบสนองเมื่อจิ้มนิ้วลงบนจอแล้วเลื่อนลากนิ้วไปมาบนจอสามารถตอบสนองได้รวดเร็วดี กรณีถ้าเราเจอเกมที่เล่นแล้วต้องใช้นิ้ว 10 นิ้ว
หรือมากสุดถ้าเราสามารถจับตัว Tablet ได้ถนัดๆ สองมือแล้วจิ้มไปบนหน้าจอส่วนใหญ่จะ 4 นิ้ว สองนิ้ซ้าย/ขวา อย่างพวกเกม MMORPG ก็จะสามารถตอบสนองและเล่นได้ดีนี่ถ้าเจ้าตัว Samsung Galaxy Tab 3 จอ 10.1 นิ้ว มีอุปกรณ์เสริมแปลงร่างให้เป็นเครื่องเล่นเกมได้นี่คงเจ๋งแจ่มไม่น้อยเลย
สรุปตอนที่ 2
จากผลเทสเบนซ์มาร์คที่เห็นน่าจะเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกซื้อเจ้าตัว Samsung Galaxy Tab 3 จอ 10.1 นิ้ว นี้ให้กับคุณผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อยซึ่งผู้เขียนก็ได้ลองเล่นระยะนึงก็ชอบตอนที่ออกนำไปข้างนอกแล้วเดินทางถ่ายภาพหรือดูแผนที่กับแก้เบื่อด้วยการเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ แต่ที่ข้อดีของมันมีอยู่ตรงที่ขนาดจอใหญ่นี่ทำให้ดูภาพได้เต็มตาแต่ส่วนที่ด้อยเรียกว่าอาจจะไม่คุ้นมือหรือชินก็ได้ก็ตรงเรื่องใช้เป็นโทรศัพท์โทรเข้า/ออก รับสายนี่แหละเพราะขนาดมันใหญ่และให้ดีต้องใช้ตัวช่วยคือชุด Small Talk หรือ Head Set นี่แหละครับ แต่โดยรวมการใช้งานที่ตอบโจทย์หลักๆ แล้วผมให้ 80% ในการใช้งานอีก 20% คือความใหญ่เทอะทะของมันนี่แหละแต่ก็ทดแทนด้วยความสะดวกในการใช้งานระดับนึงรวมไปถึงการตอบสนองจากตัว Samsung Galaxy Tab 3 จอ 10.1 นิ้ว นี้ทำได้ดีในการเล่นเกม 3D ได้ระดับนึงอาจจะไม่ดีที่สุดอารมณ์เหมือนเอาเกมกราฟิกใหญ่ๆ มารันบนเครื่อง PC Windows ที่สเป๊คระดับ CPU Intel Pentium ตระกูล E รุ่นเก่ากับการ์ดจอ Radeon HD4670 ประมาณนั้นแหละครับ เอาล่ะขอจบบทรีวิว Samsung Galaxy Tab 3 จอ 10.1 นิ้ว ตอนที่ 2 นี้เพียงเท่านี้ ผู้เขียนหวังว่ารีวิวบทนี้จะช่วยในการตัดสินใจซื้อสำหรับคุณผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อยล่ะครับสำหรับโอกาสนี้จบเท่านี้พบกันใหม่ตอนที่ 3 สวัสดีครับ
ขอขอบคุณ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฝื้ออุปกรณ์ให้ iReview.in.th ได้มาทดสอบในครั้งนี้ครับ