เก้าอี้นวดไฟฟ้าในปัจจุบันมีให้เลือกซื้อมากมาย แต่สำหรับรุ่น Rester VP EC-623 ต้องขอบอกว่ามีความแตกต่าง และเป็นหนึ่งในเก้าอี้นวดไฟฟ้าที่ดีที่สุด ครบเครื่องการนวดตั้งแต่หัว หลัง มือ ไล่ไปจรดเท้า ตัวเดียวจบสบายได้ทั้งร่างกาย ในราคาที่แพงกว่า Rester Titan EC-362 แต่ได้สเปกที่ครบเครื่องขึ้นมาอีกระดับ
เก้าอี้นวดไฟฟ้า Rester VP EC-623
สำหรับสินค้าที่เราจะมารีวิวกันในวันนี้มาจาก บริษัท เรสเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านเก้าอี้นวดไฟฟ้า เบาะนวดไฟฟ้า อันดับ 1 ในประเทศไทย หรือที่เราคุ้นเคยกันดีกับพรีเซนเตอร์อย่างคุณ “ก้อง สหรัถ” นั่นเองครับ และนับตั้งแต่ก่อตั้งมาในปี 1999 ตอนนี้ก็ร่วมยี่สิบปีได้แล้ว มั่นใจได้ในเรื่องของบริการ
ในเบื้องต้นสำหรับส่วนของวัสดุและงานประกอบดูดีขึ้นมาก นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นเพิ่มเข้ามาในด้านความบันเทิง อย่างการที่สามารถเปิดลำโพงฟังเพลงผ่านทางบลูทูธ (ฝังในเก้าอี้นวดเลย) ผู้ใช้งานก็เพียงแค่ทำการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนของตัวเองเข้ากับเก้าอี้นวด แล้วก็เลือกเพลงโปรดที่ต้องการ และก็ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่จะหมดไว เพราะมีช่องชาร์จไฟ USB ฝังมาให้ตรงที่วางรีโมทด้วยเลย
ขนาดของเก้าอี้เมื่อเทียบกับนางแบบที่สูงประมาณ 160 ซม. จะเห็นได้ว่าตัวเก้าอี้และพนักพิงมีขนาดใหญ่พอสมควร ดังนั้นคุณจึงควรมีพื้นที่ประมาณหนึ่งในการติดตั้ง เพราะระหว่างนวดเก้าอี้จะหันนอนเป็นแนวราบด้วย และเนื่องจากเป็นเก้าอี้นวดไฟฟ้า ตำแหน่งวางก็ควรจะมีปลั๊กไฟที่อยู่ไม่ห่างด้วยนั่นเอง
เนื่องจากราคาที่ย่อมเยาเน้นสเปกที่ครบเครื่อง วัสดุที่ใช้น่าเสียดายที่ไม่ใช้หนังแท้ (ตามราคา) แต่ก็เป็นหนัง PU ที่คุณภาพสูงกว่าหนังเทียม PVC ทั่วไป สัมผัสการใช้งานให้อารมณ์ที่ใกล้เคียงกับหนังแท้ นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอยู่ที่การทำความสะอาดง่าย ไม่ต้องดูแลอะไรมาก และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ด้านข้างที่ใช้สำหรับการบีบและนวดแขนรวมถึงข้อมือ จะมีลักษณะเป็นเม็ดเล็ก ๆ ซึ่งตรงนี้จะใช้เป็น “ถุงลม” ในการนวดอีกที ความรู้สึกจะเหมือนกับการโดนกดเส้นเบา ๆ เพื่อคลายความเมื่อยล้าของมือ ต่างจากการนวดแผ่นหลังที่จะเน้น “ลูกกลิ้ง” ในการไล่เส้นกล้ามเนื้อเสียมากกว่า ส่วนเอวจะเพิ่ม “ระบบสั่น” มาด้วย
ที่รองคอหรือหมอนหนุน ตรงนี้จะเป็นแผ่นสองชั้น ผู้ใช้งานสามารถพับออกได้ทีละชั้น หากรู้สึกว่าการสั่นยังเบาเกินไป แต่ส่วนตัวมองว่ารองทั้งหมดสองชั้น จะให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายมากกว่า หากใครเน้นนวดคอหนัก ๆ อาจไม่ตอบโจทย์ แต่ถ้าหากเน้นนวดหลัง นวดขา นวดมือ อันนี้ปรับความแรง-เบาได้สะใจแน่นอน
ระบบไฮดรอลิก
ฟิวส์และสวิตซ์
ล้อลาก
ด้านหลังเครื่องกล่าวโดยรวมคือจะมีระบบ “ไฮดรอลิก” มีปุ่มสวิตซ์เปิด-ปิดเครื่องพร้อมกับ “ฟิวส์” ส่วนสายไฟสามารถถอดออกได้พร้อมสายดิน และด้วยตัวเก้าอี้นวดที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากถึง 127 กิโลกรัม การเคลื่อนย้ายบ่อย ๆ อาจเป็นเรื่องยาก แต่หากต้องการทำความสะอาด หรือปัดฝุ่นก็สามารถลากได้ด้วยล้อ
การเชื่อมต่อผ่านบลูทูธทำเองได้ไม่ยาก ตัวลำโพงค่อนข้างดังมากถึงมากที่สุด บวกกับอยู่ใกล้บริเวณหูดังนั้นจึงควรค่อยเร่งเสียงจะดีกว่า ข้อดีคือคุณสามารถดูหนังฟังเพลงได้โดยที่ไม่ต้องใช้เสียงจากลำโพงมือถือ ส่วนเรื่องเสียงอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่ได้โดดเด่นมากเท่าไหร่ แต่ก็พอที่จะใช้งานแก้ขัดเล็กน้อยได้เช่นกัน
ปรับท่านอนแบบไร้แรงโน้มถ่วง (Zero Gravity)
หนึ่งในจุดขายของรุ่นนี้ก็คือท่านอนไร้แรงโน้มถ่วง “Zero Gravity” ที่เป็นการปรับเอนนอนแบบแนวราบ แต่ก็ไม่เชิงแนวราบเสียทีเดียว เพราะเป็นการกระจายน้ำหนักอย่างสมส่วน ไม่กดทับไปที่จุดใดทุกหนึ่งเหมือนเวลาเรานอนธรรมดา และหากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าท่านี้เข่าจะอยู่เหนือหัวขึ้นมาหน่อย เป็นท่าที่สบายที่สุด
ตรงที่พักขาสามารถยืดหดได้ด้วยระบบไฮดรอลิก จึงไม่มีปัญหาเรื่องส่วนสูงของแต่ละคน และการทำงานจะปรับเฉพาะตอนที่ปรับเอนนอนเท่านั้น ก็ไม่ต้องห่วงว่าพื้นสวย ๆ จะเป็นรอย อีกทั้งยังมีล้อเลื่อนให้เรียบร้อย โครงสร้างทำจากโลหะจึงให้ความแข็งแรงทนทาน ถึงแม้ผู้ใช้งานจะมีน้ำหนักตัวมากก็ไม่ใช่ปัญหา
ตรวจสอบตำแหน่งการนวด (Body Roller)
ตรวจสอบตำแหน่งการนวด (Body Roller) อีกหนึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้คือเซ็นเซอร์บริเวณฝามือทั้งสองข้าง (ให้ลองนึกถึงเครื่องเล่นในฟิตเนส) เพียงแค่ผู้ใช้งานแตะมือลงไปเท่านั้น ตัวเครื่องจะทำหน้าที่ตรวจสอบความเมื่อยล้าของร่างกาย เพื่อหาตำแหน่งปวดเมื่อยที่แตกต่างกันออกไป ตามแต่ละคนและแต่ละช่วงเวลา
บริเวณด้านขวาจะเป็นรีโมทควบคุมแบบมีการ การเก็บจำเป็นทิ่มหัวลงไปแบบในภาพ ถัดมาก็จะเป็นช่องสำหรับเสียบ USB ที่ถูกปิดด้วยจุกยางอีกทีหนึ่ง ความน่าเสียดายคือไม่มีช่องสำหรับให้เก็บโทรศัพท์ ส่วนกระแสการจ่ายไฟอยู่ที่ 5V, 1A ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับการเอาไปชาร์จแท็บเล็ตเท่าไหร่นัก
จุดนี้ไม่เป็นเพียงแค่ที่วางเท้าเฉย ๆ แต่ยังประกอบไปด้วยถุงลมนวดเท้า ลูกกลิ้งนวดเท้า ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยสำหรับคนเดินเยอะ ออกกำลังกายเยอะ ระดับความแรงในการนวดอยู่ในระดับปานกลาง หากคนชอบนวดเท้าแบบรุนแรงอาจไม่ถูกใจเท่าไหร่ และไม่ควรยืนบนอุปกรณ์โดยตรง เพื่อป้องกันความเสียหาย
ตรงที่นวดคออย่างที่ได้กล่าวในขั้นต้น คือจะมีลักษณะเป็นชั้นรองจำนวนสองชั้นด้วยการ สามารถทำการพับขึ้นเก็บเพื่อเพิ่มความแรงได้ จะได้สัมผัสกับบริเวณจุดนวดโดยตรง แต่ส่วนตัวมองว่าพับเหมือนเดิมก็ให้ความสบายได้เป็นอย่างดี เรื่องของความหนักเบาขึ้นอยู่กับความต้องการพิเศษ ของแต่ละบุคคลมากกว่า
เพราะแต่ละคนมีสรีระที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะขนาดช่วยไหล่และลำตัว ทำให้ยากที่จะปรับขนาดให้เหมาะสมแต่ละคน สำหรับรุ่น Rester VP EC-623 สามารถปรับระดับบริเวณช่วงไหล่ เพื่อสรีระที่แตกต่างของเเต่ละบุคคล เพื่อที่จะให้คนที่ตัวเล็กสามารถสัมผัสการนวดด้วยถุงลมได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
6 โปรแกรมนวดแบบอัตโนมัติ
- Shiatsu นวดแบบกดจุด แบบที่คนไทยคุ้นเคยกันดี
- Stretch นวดแบบไล่เส้น เหมาะกับคนเส้นแข็ง
- General นวดทั่วไปทั้งร่างกาย
- Relax นวดเพื่อผ่อนคลาย
- Full Air นวดโดยเน้นถุงลม
- Body Roller โปรแกรมนวดจากการวัดชีพจร
โปรแกรมนวดแบบกำหนดเอง
หากคุณไม่ชอบโปรแกรมอัตโนมัติที่ออกแบบมาให้ ซึ่งปกติจะเร่มต้นจากเบาไปหนักไล่ไปทั้งตัว หรือคุณมีอาการบาดเจ็บเฉพาะตรงที่ใดที่หนึ่ง สามารถเลือกใช้งานโปรแกรมนวดแบบกำหนดเอง ในการนวดเฉพาะจุดใดจุดหนึ่งของร่างกายได้ ไม่ว่าจะเป็นการคลึง, ทุบ, เคาะ, ไล่เส้น, หรือแม้ผสมผสานกัน
ความสบายของท่านอนแบบไร้แรงโน้มถ่วง (Zero Gravity) แตกต่างจากการนอนบนที่นอนทั่วไป คือถ้าเป็นการนอนปกติตัวของเราจะราบเสมอกัน แต่การนอนแบบไร้แรงโน้มถ่วง จะมีส่วนหัวเข่าและขาที่สูงกว่าศรีษะเล็กน้อย ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีมากยิ่งขึ้น นอนแล้วจะรู้สึกตัวเบา ๆ กว่าการนอนปกติ
ถึงแม้ว่าจะมีปุ่มเยอะจนทำให้สับสน แต่พอใช้ไปเรื่อย ๆ ก็จะเข้าใจได้ไม่ยาก ในส่วนสีดำจะเป็นแบบโปรแกรมอัตโนมัติ และส่วนสีขาวจะเป็นโปรแกรมนวดแบบกำหนดเอง หากกดผิดก็ไม่เป็นไรอีกทั้งยังมีหน้าจอ LCD ขนาดเล็กบอกว่าตอนนี้กำลังนวดส่วนไหนอยู่ ช่วยลดความสับสนในการใช้งานว่าปุ่มไหนทำอะไรกันแน่
ระบบลูกกลิ้ง L-Track
การนวดด้วยลูกกลิ้งแบบ L-Track ไล่ไปตามขนาดรางของเก้าอี้เป็นรูปตัว “L” ไล่ลูกกลิ้งตั้งแต่คอไปจนถึงก้นเลยทีเดียว ทำให้สามารถนวดได้อย่างเต็มแผ่นหลังอย่างต่อเนื่องจนถึงสะโพก ไม่ใช่เพียงแค่การนวดหลังเพียงอย่างด้วย เพราะอาการเมื่อยเกิดขึ้นได้ทั้งร่างกาย โดยเฉพาะสะโพกจากการนั่งเป็นระยะเวลานาน
ทดสอบใช้งานจริง
เข้าใจแล้วว่าการนั่งเก้าอี้นวดต้องลองด้วยตัวเองจริง ๆ เพราะเป็นอะไรที่ดูจากภายนอกไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าจะเป็นอุปกรณ์ชนิดเดียวกัน แต่ว่าต่างรุ่นต่างแบรนด์ก็มีเทคนิคการใช้งานที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของลูกกลิ้งหรือจะถุงลมเองก็ดี ซึ่งมีเรื่องของจำนวนและความแรงอยู่ด้วยเป็นตัวแปรในการใช้งาน
การใช้ระบบลูกกลิ้ง L-Track ช่วยผ่อนคลายได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไล่ความปวดเมื่อยตั้งแต่ต้นคอไปจนถึงบริเวณก้นกบ มีจุดที่สั่นและคลึงจนแทบจะไม่มีส่วนไหนที่ไม่สัมผัสเก้าอี้นวด และจุดที่บริเวณข้อเท้าจะมาถุงลมคอยบีบและปล่อยอีกที ทำให้สบายและเป็นการล็อคขาให้อยู่นิ่ง ๆ และนวดด้วยลูกกลิ้งได้ดีขึ้น
หากให้คะแนนตัวนี้จะเด่นไปที่การนวดหลังและช่วงเอวเป็นอย่างมาก จะมีตินิดหน่อยตรงที่ส่วนนวดมือบีบรุนแรงไปนิด หากใครไม่เคยนวดอาจรู้สึกตกใจและไม่ชินในตอนแรก ซึ่งถุงลมจะทำการบีบแน่นมากพอสมควร นอกเหนือจากนั้นท่านอน และการนวดไหล่อยู่ในระดับพอดีขนาดเก้าอี้ทำให้นั่งได้อย่างสบาย
ข้อดี
- นวดได้ครบทุกส่วนของร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า
- ระบบลูกกลิ้ง L-Track ช่วยนวดอย่างไร้รอยต่อ
- รีโมทพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ LCD ใช้งานง่าย
- ตั้งโปรแกรมการนวดได้หลากหลายรูปแบบ
- การปรับท่านอนแบบไร้แรงโน้มถ่วง (Zero Gravity)
ข้อเสีย
- ไม่มีที่วางแก้วน้ำหรือสิ่งของ
- ช่องชาร์จ USB จ่ายไฟแค่ 5A, 1A
- อย่าคาดหวังกับคุณภาพเสียงของลำโพง
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายลำบาก
สรุป
เก้าอี้นวดไฟฟ้า Rester VP EC-623 ราคา 159,990 บาท ดูเหมือนราคาจะสูงกว่ารุ่นทั่วไป แต่สเปกก็จัดเต็มไปด้วย 6 ลูกกลิ้ง และ 44 ถุงลม ในเครื่องมีชิ้นส่วนกลไกมากมาย ระบบไฮดรอลิกที่แข็งแรง แม้จะมีน้ำหนักตัวมากก็ไม่ใช่ปัญหา สามารถนวดหลังและมือปรับความแรงได้หนักหน่วงถึงใจ คนที่ติดนวดไทยเป็นประจำหากได้ตัวนี้ไป จะช่วยประหยัดเงินค่านวดไปหลายหมื่นเลยทีเดียว
ติดต่อสอบถามข้อมูลหรือซื้อสินค้าที่
📞 Tel : 02-255-3000
📧 Line@ : @resterchair หรือ https://line.me/R/ti/p/%40resterchair
💻 Website : https://www.restergroup.com
🛒 Shopee Mall : https://bit.ly/2QjVJcO
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial