OPPLE โคมไฟตั้งโต๊ะ IF Table Lamp ตอบโจทย์คนที่ต้องการเปลี่ยนหลอดตะเกียบ หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์มาเป็น LED ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ซึ่งมีข้อดีกว่าทุกด้านตั้งแต่การทำขนาดให้เล็กลง ประหยัดพลังงานมากกว่า แถมยังถนอมสายตาได้มากกว่า และจากการทดสอบปัจุบันเทคโนโลยีก็ไปไกลมาก มีอายุการใช้งานยาวนานพอกัน
OPPLE IF Table Lamp
แบรนด์นี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ Oppo และ Apple แต่หากพูดถึงแสงสว่างหลายคนอาจนึกออกแต่ชื่อ Philips หรือ Lamtan, EVE (ซึ่งสองอันหลังเป็นแบรนด์ไทย) และเป็นที่รู้กันว่าหลอดไฟเกือบทุกยี่ห้อ 99% ในท้องตลาดก็ผลิตในประเทศจีนนั่นแหล่ะ กล่าวตามตรงก็คือ OPPLE เป็นบริษัทจีนทั้งตัวและหัวใจอย่างไม่ต้องสงสัย
ก่อตั้งในปี 1996 มีร้าน 40,000 แห่งทั่วโลก
แต่ถึงแม้จะเป็นบริษัทจีน แต่ก็ไม่ใช่บริษัทไก่กาอะไรเพราะเป็นบริษัทที่ผลิตเฉพาะอุปกรณ์แสงสว่างโดยเฉพาะ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เซี่ยงไฮ้และโรงงานอีกสองมณฑล แถมยังมีห้องปฏิบัติการเป็นของตัวเองเองรวมถึงทีม R&D จดสิทธิบัตรกว่า 800 รายการ โดยปัจจุบันก็ทำตลาดไปแล้วกว่า 70 ประเทศทั่วโลก (รวมถึงไทย)
สำหรับโคมไฟตั้งโต๊ะรุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ตรงที่ดีไซน์อันทันสมัย จากเดิมที่เราเคยเห็นโคมไฟต้องตัวใหญ่ คอโค้งและใส่หลอดเกลียว E14 อะไรก็ว่ากันไป แต่ตัวนี้มีขนาดเล็กและบางมาก ปรับระดับก้มได้จนสุดรวมถึงยังหมุนได้ 135 องศา เปรียบดั่งสินค้าตกแต่งบ้าน
ปุ่มควบคุมเป็นระบบสัมผัสทั้งหมด ตั้งแต่ปุ่มเปิดปิด, ปุ่มปรับความสว่าง, ปุ่มโหมดการใช้งานอัตโนมัติ (อันนี้สะดวกมาก) ซึ่งหากคุณคิดว่ามันมีแต่ปรับระดับความสว่างบอกเลยว่าคิดผิด! เพราะมันสามารถปรับอุณหภูมิของแสงได้ด้วย ในช่วงระหว่าง 3000K/4000K/5000K ตั้งแต่ขาว (Cool White) ไปจนถึงอมเหลืองแบบแสงแดด
หลอดไฟเทียบเท่าขนาด 17W และการกินไฟแบบ LED ทำให้ใช้จริงอาจกินไฟน้อยมาก
การออกแบบหลอดมาในรูปแบบรังผึ้ง (จดสิทธิบัตรเรียบร้อย) ช่วยในกระจายแสงให้สม่ำเสมอ นุ่มนวล สบายตา เหมือนแสงธรรมชาติ ซึ่งปัญหาจากหลอดแบบเดิมก็คือการฉายแสงแบบทางตรง ทำให้เกิดเงาและแยงลูกตา
มีหลอดแบบแนวตั้ง (Sidelight) มาให้ด้วย ช่วยในการกระจายแสงหลายทิศทางให้เป็นธรรมชาติ
บานพับข้อต่อแข็งแรงส่วนวัสดุผลิตจาก ABS คุณภาพสูง ใช้งานได้ยาวนานไม่มีเหลือง
ปลั๊กไฟเป็นแบบสองขาพร้อมเสียบเข้ากับโคมไฟได้โดยตรง (ถอดแยกได้) การจ่ายไฟเป็น 12V/1.25A
การใช้งานก็ไม่ยุ่งยากมากเพียงแค่เลือกโหมดที่ต้องการใช้งาน
- โหมดการอ่าน 4000K (ความสว่าง 100%)
- โหมดการเขียน 5000K (ความสว่าง 70%)
- โหมดคอมพิวเตอร์ เปิดแต่ไฟ Sidelight
- โหมดสันทนาการ 3000K (ความสว่าง 30%)
แต่หากใครอยากปรับสว่างเพิ่มหรือลดลงก็ได้อย่างอิสระเช่นกัน
จากการทดลองใช้โคมไฟแบบรังผึ้งก็มีข้อดีหลายอย่าง คือมันลดการหักเหของแสง ลดการสะท้อน ให้แสงนุ่มนวล สบายตา เหมือนแสงธรรมชาติ ไม่มีแสงแฟลช ไม่ก่อให้เกิดเงาในด้านใดด้านหนึ่ง (เหมาะกับการเขียนหนังสือ) นอกจากนี้ยังผ่านการรับรองจาก IEEE STD 1879 และ CCC/CQC วางใจได้เลยว่าปลอดภัยต่อดวงตา
เท่าที่ลองดูก็ใช้งานจริงได้ทุกโหมด โดยที่เด่นชัดก็จะเป็นโหมดสันทนาการที่ให้ค่าแสง 3000K ให้อารมณ์ส้ม ๆ เหมาะกับการใช้งานพักผ่อนทั่วไป หรือใช้งานเวลากินข้าวก็ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นไปอีกแบบ (ไม่เหมาะกับดูทำงานเพราะสีมันจะเพี๊ยน) ส่วมโหมดคอมพิวเตอร์ก็เจ๋งดีใช้ยิงสะท้อนกำแพงไม่แยงตาก็ได้อีกแบบ
ข้อดี
- แสงกระจาย ไม่สะท้อน ไม่มีเงา ไม่แยงตา
- ปรับระดับความสว่างและสีได้เล็กน้อย
- ขนาดเล็ก ดีไซน์ทันสมัย
- การควบคุมระบบสัมผัส
ข้อเสีย
- ตัวโคมไฟมีขายแค่สีขาว
- ราคาค่อนข้างสูง
สรุป
แนะนำสำหรับคนที่ต้องการตกแต่งบ้านไปด้วยในตัว ของจริงงานประกอบสวยหรูดูแพง แถมยังใช้งานผ่านระบบสัมผัส การใช้งานโดยรวมถือว่าประทับใจเป็นอย่างดี ให้ความสว่างสูงในแบบที่ไม่แยงตา (แถมประหยัดไฟ) หากใครกำลังมองหาโคมไฟตั้งโต๊ะสวย ๆ ที่ใช้งานจริงได้อยู่แนะนำเลยครับ ได้ไปสักตัวลองใช้งานดูแล้วจะไม่ผิดหวัง
OPPLE IF Table Lamp ราคา 1,599 บาท สั่งซื้อได้ผ่าน Lazada
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial
