เครื่องล้างจาน ในประเทศไทยอาจไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก แต่นวัตกรรมมิสเตอร์โรบอทได้ทำการเปิดตัว Mister Robot Home Dish Washer ซึ่งเหมาะกับสภาวะบ้านเรามากกว่า ไม่จำเป็นต้องเจาะเคาน์เตอร์ครัว หรือเฟอร์นิเจอร์ใด ๆ เพื่อติดตั้งให้วุ่นวาย เพียงแค่ซื้อไปแล้วเสียบปลั๊กก็ใช้งานได้เลย เหมาะทั้งกับคอนโดและใช้งานตามบ้านทั่วไป เพิ่มความสะดวกสบายแถมยังทำให้บ้านดูหรูหราขึ้นอีกด้วย

Mister Robot Home Dish Washer
Mister Robot Home Dish Washer

Mister Robot Home Dish Washer

Mister Robot ชื่อนี้เราคุ้นเคยกันดีในฐานะแบรนด์หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอันดับหนึ่งในบ้านเรา ซึ่งนอกจากนี้ยังมีสินค้าอื่นอย่าง หุ่นยนต์เช็ดกระจก และสินค้าใหม่ล่าสุดนี้ก็คือเครื่องล้างจานนั่นเอง จึงวางใจได้ในเรื่องของบริการหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็นการส่งซ่อมหรือซื้ออะไหล่ก็มีให้บริการ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าพวกนี้ต้องอยู่กับเราไปอีกหลายปี

ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดอยู่ที่ประมาณด้านละ 435 มม. (ใหญ่กว่าไมโครเวฟนิดหน่อย) ซึ่งก็ทำให้เราสามารถวางไว้ในครัวได้แบบเหลือๆ ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์รูปตัว I, U, L สำหรับการติดตั้งก็เพียงแค่วางลงไปแล้วเสียบปลั๊ก ไม่ต้องเจาะ, ไม่ต้องฝัง, ไม่ต้องติดตั้งอะไรให้วุ่นวาย ใช้งานง่ายแม้เป็นคอนโดขนาดเล็กก็สามารถมีไว้ได้ครับ

หรูหราด้วยระบบควบคุมเป็นแบบสัมผัส รองรับการใช้งานที่หลากหลายไม่เพียงแค่ล้างจานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการล้างผลไม้, อบไอน้ำขวดนม, ล้างแก้ว, ฯลฯ สามารถเลือกโปรแกรมทำความสะอาดได้หลายรูปแบบ

ส่วนประกอบในเครื่อง

ด้านบนมีหลอดไฟ LED เพิ่มความสว่างภายในเครื่อง ถัดมาจะเป็นก้านฉีดน้ำแบบ 360 องศา สามารถกระจายน้ำที่ดูดมาได้อย่างรอบทิศทาง หากใครนึกภาพไม่ออกลองนึกถึงสปริงเกอร์ดับไฟอารมณ์ประมาณนั้นครับ

เท่านั้นยังไม่พอด้านล่างก็มีก้านฉีดน้ำขนาดใหญ่เช่นกัน ตรงนี้น้ำจะออกทางรูอย่างรุนแรง เพื่อให้การทำความสะอาดเศษอาหารง่ายขึ้น ส่วนด้านล่างจะเป็นตะแกรงกรองเศษอาหารอีกทีหนึ่ง ส่วนช่องด้านข้างจะเป็นรูสำหรับสตรีมไอน้ำ

ช่องนี้เอาไว้สำหรับเติม เกลือสำหรับเครื่องล้างจาน เพื่อใช้สำหรับปรับสภาพน้ำ โดยจะเป็นของที่ใช้คู่กันกับ ผงล้างจาน แต่หากคุณเลือกก้อนล้างจานที่เป็นแบบรวมในหนึ่งเดียว (ชนิดรวมเกลือลงไปด้วย) ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเติมเกลือครับ

ตะแกรงสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย โดยเทคนิคแล้ววิธีการใช้เครื่องล้างจาน เบื้องต้นเราจะกวาดเศษอาหารออกจากจานก่อน (ในต่างประเทศจะใช้แปรงล้างจานกวาด) นอกจากนี้การกรองเศษอาหารยังช่วยลดการอุดตันของท่ออีกด้วย

วิธีเติมน้ำ

วิธีเติมน้ำสามารถทำได้สองวิธีทั้งแบบต่อท่อน้ำเข้าเหมือนกับเครื่องซักผ้า (วิธีนี้ใช้งานจริงสะดวกสุด แต่อาจต้องมีขั้นตอนเพิ่มเล็กน้อย) แต่หากใครไม่สะดวกต่อท่อก็สามารถใช้วิธีเติมน้ำลงไปในเครื่องด้วยตัวเองได้ โดยตัวเครื่องมีความจุ 5 ลิตร ซึ่งปริมาณน้ำที่ใช้นี้น้อยกว่าการที่เราใช้ล้างมือเสียอีก เนื่องจากเป็นระบบน้ำหมุนเวียนภายในเครื่องนั่นเอง

หากคุณใช้ก๊อกแบบฝังเคาน์เตอร์อันนี้จะง่ายหน่อย คุณสามารถไปซื้อก๊อกสองหัวตามแบบตัวอย่างด้านบนได้ที่ HomePro หรือร้านขายอุปกรณ์ใกล้บ้านมาเปลี่ยนได้เลย (เปลี่ยนเหมือนกับต่อน้ำเข้าเครื่องซักผ้า) เพียงเท่านี้ก็จะสะดวกกว่าการเติมน้ำด้วยตัวเอง แถมไม่ต้องมาคอยเปิดก๊อกน้ำทุกครั้ง เพราะเมื่อเครื่องทำงานก็จะดูดน้ำเข้าเองโดยอัตโนมัติ

ลักษณะก็คือจะหมุนหัวก๊อกออกอันนึงแบบนี้ แล้วเสียบท่อน้ำของเครื่องล้างจานเข้าไปครับ อันนี้สามารถทำด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน แต่หากใครไม่มั่นใจจะให้ช่างแถวบ้านมาถอดให้ก็ได้ ซึ่งขั้นตอนก็ไม่ได้ยากอะไรสักเท่าไหร่ เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้ก๊อกล้างจาน พร้อมกับต่อน้ำโดยตรงเข้ากับเครื่องล้างจานได้โดยไม่ต้องเดินท่อให้วุ่นวาย

อันนี้เป็นตัวอย่างวิดีโอใช้งานจริงครับ ไม่ต้องเสียก๊อกล้างจานไป ไม่ต้องเจาะท่อเพื่อต่อก๊อกเพิ่ม ก็ยังสามารถใช้งานล้างจานล้างมือได้ตามปกติ (แนะนำวิธีนี้เพราะสะดวกมาก ๆ ๆ) ส่วนตัวก๊อกคู่แบบนี้ก็สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ เวลาใช้งานก็เปิดวาล์วน้ำทิ้งเอาไว้ได้เลย ไม่ต้องมาคอยเปิดปิดบ่อย ๆ เพราะตัวเครื่องจะทำงานตัดน้ำเอง

คำแนะนำ

หลังจากใส่จานและผงล้างจานเรียบร้อยแล้ว หากใช้วิธีเติมน้ำด้วยตัวเอง ขั้นตอนการใช้งานจะต้องทำตามนี้ครับ

  1. เสียบปลั๊ก
  2. เปิดเครื่อง
  3. เลือกโปรแกรมล้าง
  4. เติมน้ำให้เต็ม (ต้องเติมน้ำให้เต็มก่อนใช้งานทุกครั้ง เมื่อน้ำเต็มเครื่องจะร้องเตือนติ๊ด ๆ ๆ ๆ)
  5. กดปุ่มเริ่มทำงาน

แต่ถ้าหากใช้วิธีต่อก๊อกน้ำ ขั้นตอนก็จะง่าย ๆ ตามนี้เลย

  1. เสียบปลั๊ก
  2. เปิดเครื่อง
  3. เลือกโปรแกรมล้าง
  4. กดปุ่มเริ่มทำงานได้เลย (เครื่องจะทำการดึงน้ำอัตโนมัติ)

ผงล้างจาน

อันนี้เป็นตัวอย่างผงเกลือบริสุทธิ์ (เกลือล้างจานต้องบริสุทธิ์ไม่สามารถใช้เกลือที่เราบริโภคได้) และอีกสิ่งที่จำเป็นก็คือผงล้างจาน โดยสามารถหาซื้อได้ทั่วไปหรือจะสั่งออนไลน์ Lazada, Shopee, JD, ShopAt24 ยี่ห้ออะไรก็ได้ทั้งนั้น สำหรับราคาก็ไม่แพงมากราคาไม่กี่ร้อยบาท แต่ใช้งานกันยาวจนลืมไปเลย แลกกับการไม่ต้องใช้น้ำยาล้างจาน

วิธีเติมเกลือก็ง่ายเพียงกรอกใส่กรวยดังภาพด้วยปริมาณ 130 กรัม และหากใช้งานครั้งแรกก็เติมน้ำลงไปก่อน 1 ลิตร (หลังจากนั้นไม่จำเป็นแล้ว) ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่จะต้องเติมเกลือเครื่องจะขึ้นสถานะบอกเองอีกครั้ง ซึ่งข้อดีของการเติมเกลือก็คือ “ลดรอยหยดน้ำ” ที่เราจะพบบ่อยเวลาล้างแก้วน้ำ ต่อให้ล้างสะอาดแล้วก็ยังมีคราบรอยน้ำอยู่ (แต่ไม่ได้เป็นข้อบังคับว่าต้องเติมเกลือเท่านั้นจึงจะใช้งานได้)

ส่วนผงล้างจานสามารถเติมใส่รูที่อยู่บริเวณฝาเครื่องได้เลย และเมื่อเราปิดฝาผงก็จะหกลงไปในตัวเครื่อง ซึ่งก็ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด เพราะสุดท้ายระบบน้ำหมุนเวียนภายในเครื่องก็จะชะล้างมันเข้าด้วยกันอยู่ดี ซึ่งผงล้างจานแต่ละยี่ห้อก็จะมีคุณสมบัติเรื่องกลิ่นหรือปริมาณฟองแตกต่างกันไป

ตรงนี้เราสามารถเลือกซื้อได้ตามที่ชอบครับ แบบเจล แบบผง หรือแบบก้อนก็มีขาย อันนี้ แนะนำให้ใช้ทุกครั้งที่ล้างจานชาม หรือแก้วน้ำเลยนะครับ เพื่อขจัดกลิ่น ขจัดคราบ ภาชนะจะสะอาดหมดจด (แต่ใช้ได้เฉพาะที่ระบุว่าเป็นผลิตภัณฑ์ล้างจาน สำหรับเครื่องล้างจานเท่านั้นนะครับ ไม่สามารถใช้น้ำยาล้างจานแบบทั่ว ๆ ไปได้)

อุปกรณ์ที่แถมมา

  • กรวยเติมเกลือล้างจาน
  • ตะแกรงวางผลไม้
  • ตะแกรงวางช้อน
  • ตะแกรงวางแก้วน้ำและขวดนม
  • เหยือกเติมน้ำ

ไม่เพียงแค่ใช้ล้างจาน แต่ยังสามารถใช้ล้างผักหรือผลไม้ได้ด้วย (ไม่ต้องใส่ผงล้างจาน) โดยโหมดการล้างก็มีทั้งผลไม้ที่บอบบาง (เช่น องุ่น, สตอเบอรี่, บลูเบอรี่) หรือผลไม้ทั่วไปที่ทานได้ทั้งเปลือก นอกจากนี้หากคุณต้องการคั้นน้ำส้มก็ควรล้างเปลือกด้วยเช่นกัน และจากที่เราเคยได้เรียนกันมาก็คือการล้างยาฆ่าแมลงที่ดีที่สุด คือการล้างผ่านน้ำไหลผ่านนั่นเอง

ทดสอบใช้งานจริง

ในการรีวิวเบื้องต้นจะใช้กับอาหารที่ใช้รับประทานจริง โดยจะใช้ล้างพร้อมกันตั้งแต่จาน, ถ้วยน้ำจิ้ม, ช้อนส้อม, และแก้วน้ำ (รวมแล้วประมาณ 10 ชิ้น) และหากว่ากันตามสเปกคือสามารถใช้ล้างได้พร้อมกันสูงสุด 26 ชิ้น เพียงพอสำหรับครอบครัวขนาดเล็กจนถึงขนาดกลางทั่วไป อันนี้คือสะดวกมากใครกินเสร็จแล้วก็เอามาใส่เครื่องได้เลย

อันนี้เป็นตัวอย่างการวางจานแบบหลวม ๆ นะครับ ซึ่งถ้าหากมีมากกว่านี้ก็สามารถยัดรวมกันเข้าไปได้ และด้วยแรงดันน้ำจะฉีดทำความสะอาดทุกซอกมุมได้อย่างง่ายดาย แต่ที่ห้ามลืมก็คือพวกถ้วยหรือแก้วให้คว่ำลงเสมอ จะได้ประสิทธิภาพการล้างที่ดีที่สุด ส่วนพวกหม้อหรืออุปกรณ์ทำขนมขนาดเล็ก ก็สามารถใส่ลงไปได้เช่นกันครับ

ขั้นตอนการล้างจาน

  1. ชะล้างคราบสกปรก
  2. กำจัดคราบมัน
  3. ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
  4. อบแห้ง

เนื่องจากข้างในมีปั้มขนาดเล็กอยู่ การล้างจึงเป็นลักษณการฉีดน้ำแรงดันสูงจากทุกทิศทาง พวกคราบสกปรกจึงหลุดออกไปได้อย่างง่ายดาย แถมน้ำที่ล้างยังผ่านการต้มเป็นน้ำร้อนสูงถึง 72 องศา (ร้อนขนาดนี้มือพองแน่นอน) เลยเป็นคำตอบที่ว่าทำไมล้างด้วยเครื่องล้างจาน ถึงสะอาดกว่าล้างด้วยมือเพราะพวกคราบมันบนพลาสติกจะหลุดออกเมื่อเจอกับน้ำร้อน

ล้างสะอาดยิ่งกว่าล้างด้วยมือ

นอกจากเคล็ดลับของน้ำร้อนที่ใช้ในการล้าง ยังอยู่ที่ระยะเวลาการล้างซึ่งโปรแกรมปกติจะใช้เวลาล้างถึง 1 ชั่วโมง (โปรแกรมล้างด่วน 30 นาที) ในกรณีนี้คือต้องถามว่าปกติมีใครล้างจานเป็นชั่วโมงบ้าง เพราะถ้าล้างทั่วไปเฉลี่ยใบนึงก็ไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ การล้างแบบซ้ำ ๆ ด้วยเครื่องล้างจาน จึงเหมือนเป็นการย้ำจุดเพื่อทำความสะอาดซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ นั่นเองครับ

พอล้างไปสักพักก็จะเสร็จสิ้นกระบวนการ มีการอบและฆ่าเชื้อให้เสร็จ ไม่ต้องมานั่งลำบากเช็ดจานอีกครั้งเพื่อจัดเก็บลงตู้ให้เสียเวลา ส่วนเสียงระหว่างล้างจานก็ไม่ได้ดังอะไรมากมาย (เบากว่าเครื่องซักผ้าเยอะ) สามารถใช้งานในคอนโดขนาดเล็กได้อย่างไม่รบกวน ซึ่งตัวผู้เขียนรีวิวเองก็ทดสอบในคอนโดห้องเดียวขนาด 40 ตรม. ก็ยังไม่ดังจนเกินไป

และเมื่อล้างเสร็จแล้วจะมีสัญญาณเสียงแจ้งเตือน จากนั้นคุณก็สามารถนำจานออกมาใช้งานได้เลย (ระวังร้อนมือ) ไม่ว่าจะเป็นแก้วหรือพลาสติกก็ไม่มีกลิ่นคาว จานก็สะอาดไม่น้อยไปกว่าการล้างด้วยมือ (แถมยังดูสะอาดกว่าด้วย) ซึ่งการล้างด้วยฟองน้ำทั่วไปอาจทำให้เกิดกลิ่นหมักหมม ไม่น่าเชื่อเลยว่าทั้งหมดนี้ล้างด้วยน้ำเพียงแค่ 5 ลิตร

พวกเศษข้าวเศษอาหารหลุดหายไปจากจาน ลองถูจานดูไม่มีความมันหลงเหลืออยู่ แถมยังสมบูรณ์แบบตรงที่ไม่มีคราบหรือรอยหยดน้ำหลงเหลือ อารมณ์ความสะอาดแบบเดียวกับที่เรากินตามร้านอาหารหรือโรงแรม สิ่งที่ได้ก็จะเป็นเรื่องความสะดวกสบายมากกว่า กินเสร็จก็เอาจานใส่ตู้กดปุ่มเดียว ระหว่างนั้นก็เอาเวลาไปพักผ่อน ไม่ต้องเกี่ยงว่าหน้าที่ใครล้างจาน

การทำงานช่วงแรกจะช้านิดนึง เพราะตัวเครื่องต้องปั้มน้ำและต้มน้ำให้ร้อนด้วย (ประมาณ 1-2 นาที) หลังจากนั้นเครื่องก็จะทำงานอัตโนมัติวนไปเรื่อย ๆ ตามโปรแกรมที่เราตั้งเอาไว้ และเมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงจะปล่อยน้ำออก พร้อมทั้งมีสัญญาณเสียงแจ้งเตือน ส่วนตัวมองว่าใช้งานง่ายเพราะกดเพียงไม่กี่ปุ่มเท่านั้น หลังจากนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรอีก

ข้อดี

  1. ล้างสะอาด ใช้งานง่าย
  2. สามารถขจัดกลิ่นคาวและคราบมัน อีกทั้งยังช่วยให้แก้วน้ำและจานชามใสแวววาวเหมือนใหม่อยู่ตลอด (เมื่อใช้ร่วมกับเกลือและผงล้างจาน)
  3. ฆ่าเชื้อโรคได้ด้วยความร้อน พร้อมอบแห้งในตัว
  4. เพียงแค่เสียบปลั๊ก เติมน้ำ ก็ใช้งานได้เลย ไม่ต้องติดตั้งอะไรให้ยุ่งยาก
  5. สามารถใช้ล้างผัก ผลไม้ ขวดนม รวมถึงของเล่นเด็ก
  6. ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับคอนโด หรือไว้ที่บ้านก็ดูมีระดับ

ข้อเสีย

  1. ยังไม่มีขนาดความจุอื่นให้เลือกซื้อ

สรุป

ล้างได้สะอาดอย่างแท้จริง เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย (ซึ่งคนไทยอาจยังไม่ค่อยชินกับเครื่องล้างจานนัก) หากคุณปล่อยคอนโดเช่าการมีสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าห้องได้อีก เรื่องการใช้งานครั้งแรกอาจงงเล็กน้อย แต่พอใช้ไปเรื่อย ๆ ก็จะชินและสะดวกไปเอง อย่างผู้รีวิวเองก็ใช้ล้างทั้งผักและผลไม้ เวลากินอะไรเสร็จก็หย่อนจานใส่เครื่องล้างได้เลย

Mister Robot Home Dish Washer ราคา 12,900 บาท

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 083-898-1212 (LINE : dish.misterrobot)
ติดตามข่าวสารได้ที่ Website และ Fanpage

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial

REVIEW OVERVIEW
การออกแบบ
ใช้งานจริง
ความคุ้มค่า
คุณภาพวัสดุ
บริการหลังการขาย
Previous article[PR] Transcend คว้ารางวัล Good Design Award 2018 จากประเทศญี่ปุ่น
Next articleรีวิว OPPLE โคมไฟตั้งโต๊ะ IF Table Lamp พร้อมหลอด LED แบบรังผึ้ง
review-mister-robot-home-dish-washerเปลี่ยนบ้านของคุณให้ทันสมัย และดูหรูหราขึ้นด้วย "เครื่องล้างจาน" ที่ใช้งานสะดวกสบาย ไม่ต้องเจาะผนัง เดินท่อน้ำให้วุ่นวาย สามารถใช้ร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ครัวเดิมได้อย่างลงตัว หากคุณชอบจานที่สะอาด ถูแล้วไม่ลื่นมือ แก้วน้ำและช้อนส้อมไม่มีรอยคราบหยดน้ำ เราขอแนะนำ Mister Robot Home Dish Washer เครื่องล้างจานอัตโนมัติที่คุ้มค่าที่สุดในท้องตลาด แถมยังสามารถใช้ล้างผัก ขวดนม รวมถึงของเล่นเด็กได้ในเครื่องเดียว