เข้าช่วงเทศกาลปีใหม่ สถานที่หลายแห่งเริ่มมีการประดับไฟ New Year & Christmas กันเรียบร้อยแล้ว ในครั้งนี้เราจึงถือโอกาสทำมินิรีวิว Vivo V20 SE ด้วยการเดินเล่นถ่ายไฟคริสต์มาสกลางกรุงเทพฯ เนื่องจากรุ่นนี้เป็นสมาร์ตโฟนราคาไม่เกินหมื่น ที่มีความสามารถการถ่ายกลางคืนได้ยอดเยี่ยมมาก และเช่นเดียวกันขอโฆษณาหน่อยว่าวีโว่เองก็มีโปรโมชั่น Happy Time Lucky You กับเครื่องราคาพิเศษพร้อมของแถมมากมาย กับสมาร์ตโฟนเครื่องใหม่ให้คนที่คุณรักส่งท้ายปีนี้เช่นเดียวกัน

ถ่ายเครื่องเดียวจบ

เป็นเรื่องปกติกันไปแล้วสำหรับการถ่ายวิว ถ่ายไฟคริสต์มาส ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้กล้องใหญ่อย่าง DSLR หรือ Mirrorless ก็สามารถเก็บภาพได้คุณภาพสูง บวกกับการใช้งานส่วนมากจะเพียงแค่ลง Social จึงไม่จำเป็นต้องเป็นไฟล์คุณภาพสูงอะไรขนาดนั้น นอกจากนี้ Vivo V20 SE ยังมีความคล่องตัวมากกว่าในเรื่องการพกพา และยังมีเรื่องของความเร็วในการแชร์ ที่สามารถลงรูปได้เลยไม่ต้องรอโอนถ่ายข้อมูล ซึ่งวันนี้จะเป็น 1 Day Trip ที่เราได้เลือกถ่ายรูปสนุก ๆ พร้อมแนะนำคุณสมบัติกัน

กล้องสวยแบบจัดเต็ม

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักสเปกกล้องจาก รีวิวเก่า กันก่อน Vivo V20 SE มาพร้อมกับกล้องหลังแบบ 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช LED แบบ Dual Tone โดยประกอบไปด้วยกล้องหลัก 48 MP (F/1.8), กล้องมุมกว้างและมาโคร 8 MP (F/2.2) และกล้องโบเก้ 2 MP (F/2.4) เพียงพอสำหรับการถ่ายรูปเกือบทุกรูปแบบ สามารถเก็บภาพวิวมุมกว้างและละลายหลังได้เนียน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับกล้องหน้า 32 MP (F/2.0) สามารถถ่ายเซลฟี่ได้สวยเป๊ะเวอร์เพราะมี Beauty Mode มาให้เลย

พกพาง่ายไม่เทอะทะ

อย่างที่บอกคือการถ่ายด้วยสมาร์ตโฟนจุดเด่นคือความสะดวก Vivo V20 SE ยังออกแบบมาเพื่อสาว ๆ ที่ไม่อยากพวกกระเป๋าพะรุงพะรัง สามารถเก็บลงกระเป๋าใบเล็ก ๆ ได้อย่างสะดวก เพราะตัวเครื่องมีความบางเพียงแค่ 7.83 มม. บางเรียบไปกับกระเป๋าหรือแม้แต่ตอนใส่กับกางเกง นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 171 กรัม สามารถถือใช้งานเป็นเวลานานโดยไม่หนัก ส่วนสีก็มาพร้อมกับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์อย่าง Gravity Black จากห้วงอวกาศและ Oxygen Blue จากออกซิเจนบนท้องฟ้า

หน้าจอคมชัดสู้แสงได้ดี

การถ่ายรูปตอนกลางคืนไม่ใช่ปัญหา แต่หากเป็นการถ่ายรูปตอนกลางวันหน้าจอเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากหน้าจอไม่สู้แสงหรือแสดงสีสันไม่ชัดเจน จะส่งผลเป็นอย่างมากต่อการถ่ายรูปหรือแต่งภาพ Vivo V20 SE มาพร้อมกับหน้าจออันสุดแสนวิเศษอย่าง AMOLED ขนาดใหญ่สะใจ 6.44″ โดยทางวีโว่เรียกมันว่า Halo FullView Display โดยมีพื้นที่หน้าจอสูงถึง 90.12% และความอิ่มตัวของสี 103% NTSC ค่าคอนทราสต์ 2000000 : 1 แสดงสีที่เป็นจริงและเป็นธรรมชาติ

แบตเตอรี่อึดใช้งานได้ยาวนาน (และชาร์จเร็ว)

ให้คุณเพลิดเพลินกับการใช้งานได้อย่างยาวนาน เพราะการถ่ายรูปนอกบ้านไหนจะต้องเช็คอิน, อัปโหลดรูป, โทรหาเพื่อน, เปิดแผนที่, ฯลฯ เป็นพฤติกรรมที่ค่อนข้างเปลืองแบตเตอรี่ ดังนั้นสมาร์ตโฟนที่ดีควรใช้งานได้ยาวนาน และสำหรับ Vivo V20 SE ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็กและบางเบา แต่ก็ยังคงมีแบตเตอรี่ความจุ 4100mAh สามารถใช้งานได้ทั้งวัน และยังชาร์จแบตเตอรี่เร็วด้วย 33W FlashCharge สามารถชาร์จได้ถึง 63% ด้วยระยะเวลาเพียง 30 นาที (อะแดปเตอร์มีแถมมาให้)

กล้องหน้าเซลฟี่แสงน้อยก็รอด

หมดปัญหาเรื่องเซลฟี่แล้วแสงไม่พอ ต่อไปนี้จะไปถ่ายไฟคริสต์มาสหรือถ่ายไฟปีใหม่ที่ไหนก็ไม่ต้องกลัว เพราะตัวเครื่อง Vivo V20 SE สามารถถ่ายได้แม้กระทั่งที่มืด บวกกับชื่อเสียงของวีโว่ที่ดังเรื่องเซลฟี่ และยิ่งมีความสามารถของ Night Mode ทำให้ตัวเครื่องเซลฟี่ในที่มืดได้ดียิ่งขึ้น เมื่อเปิดแล้วไม่เพียงทำให้ใบหน้าเราสว่างขึ้น แต่ยังเก็บรายละเอียดพื้นหลัง ไม่ให้มีความขาวมากเกินไปจนดูไม่เห็นรายละเอียด ความหน้าเนียนของกล้องวีโว่อยู่ในระดับที่สมจริง อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งได้เยอะ

กล้องมุมกว้างเก็บฉากหลังให้เกลี้ยง

สมัยนี้ต้องมีเป็นพื้นฐานและขาดไม่ได้เลยจริง ๆ ก็คือกล้องมุมกว้างหรือ Super-Wide Angle และเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายรูปสถานที่ ให้เข้ากับเทศกาลคริสต์มาสซึ่งมีต้นสนขนาดใหญ่ ส่วนสเปกของรุ่น Vivo V20 SE ก็ใส่มาให้จัดเต็มกับกล้องความละเอียด 8 MP รีวิวตามตรงว่ามันน้อยกว่ากล้องหลักเยอะ แต่หากดูในเรื่องของคุณภาพไฟล์ด้านบนจะพบว่ามันก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรเลย เทียบกับสมาร์ตโฟนในช่วงราคาไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ต้องบอกว่ากล้องตัวนี้คุณภาพเกินราคาจริง ๆ

กล้องหลักถ่ายสวยสมบูรณ์แบบ

พูดถึงกล้องหน้ารองอย่างกล้องมุมกว้าง (Super-Wide Angle) ที่เป็นกล้องมาโคร (Macro) ในตัวด้วยแล้ว แต่ถ้าจะไม่พูดเรื่องกล้องหลักก็คงจะดูแปลกไปสักหน่อย โดยสำหรับกล้องหลักเป็นเหมือนจุดขายของ Vivo V20 SE ไม่แพ้กันหน้าเลยเช่นกัน ด้วยความละเอียดที่สูงเกินตัวขนาด 48 MP ภาพสวยคมชัด ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ธรรมชาติหรือสถาปัตยกรรมในเมือง ทั้งในยามกลางวันและกลางคืน สามารถบันทึกภาพเก็บรายละเอียดได้อย่างชัดเจน ส่วนการบันทึกวิดีโอจะได้ความละเอียดสูงสุด 4K

ละลายหลังสร้างจุดเด่นของภาพ

การถ่ายรูปต้นคริสมาสในช่วงปีใหม่ ถึงแม้ว่าสถานที่จะถูกตกแต่งมาอย่างสวยงาม แต่ก็ต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่า “คนเยอะ” จนบางครั้งถ่ายรูปติดคนจำนวนมากทำให้ลดความน่าสนใจของภาพไป อีกเทคนิคหนึ่งหากหลบมุมยังไงก็หลบไม่ได้ Vivo V20 SE มีสิ่งที่เรียกว่า “เลนส์โบเก้ (Bokeh)” ซึ่งจะทำงานโดยอัตโนมัติ การมีเลนส์พิเศษเสริมตรงนี้จะช่วยให้ระบบสามารถแยกพื้นหลังออกได้เนียนมากยิ่งขึ้น ส่วนละลายแค่นี้ผู้ใช้งานก็เลือกเอาได้เลย (เพื่อความสมจริงอาจไม่ต้องปรับเยอะมาก)

ติดคนก็ตัดออกได้ง่าย ๆ

แต่ถ้าไม่อยากที่จะต้องละลายหลัง หรือบางช็อตที่เราถ่ายรูปแล้วมันได้จริง ๆ แต่ว่าบังเอิ๊ญบังเอิญมีคนติดมาในภาพ จะย้อนเวลากลับไปถ่ายภาพใหม่ก็ไม่ได้ วีโว่มีทางออกให้ตั้งแต่ในเครื่องเลย คือแอปพลิเคชันอัลบั้มภาพนั้นสามารถแก้ไขได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติมแต่อย่างใด การแก้ไขตรงนี้เราเรียกมันว่า AI การตัดรูปภาพ ที่สามารถลบผู้สัญจรออกง่าย ๆ เพียงแค่ “แตะ” อารมณ์เหมือนเปิด Photoshop ลบภาพเลยแต่ว่าง่ายและเร็วกว่ามากกกก

ท้องฟ้าไม่สวยไม่ใช่ปัญหา

ในคุณสมบัติเดียวกันนี้ไม่เพียงแค่ตัดคนออกจากภาพเราได้ ยังสามารถตัดตัวแบบไปไว้ในรูปอื่นได้ (ตัดต่อ) และความฉลาดของ AI วีโว่ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะสามารถเปลี่ยนได้ยัน “ท้องฟ้า” สมมุติว่าวันที่เราไปถ่ายรูปต้นคริสมาสแล้วฟ้าไม่เป็นใจ ไม่ว่าจะไปแล้วดึกเกินไปหรือเมฆครึ้มเหมือนฝนตกก็ตาม เราสามารถเปลี่ยนท้องฟ้าได้ง่าย ๆ เพียงแค่การแตะไม่กี่ครั้ง และที่สำคัญคือท้องฟ้ามีให้เลือกเป็นสิบแบบ ทั้งในแบบกลางวันและกลางคืน เอาแบบสมจริงหรือเหมือนฝันก็ทำได้หมด

โพสต์ท่าไม่เก่งก็ไม่เป็นไร

การถ่ายรูปบางครั้งแค่กล้องดีอย่างเดียวไม่พอ แต่แบบก็ต้องโพสต์ท่าเก่งด้วย หากคุณเบื่อแล้วกับการถ่ายรูปแบบชูสองนิ้ว ไม่รู้ว่าจะเอามือไปไว้ที่ไหน วีโว่ก็มีทางออกให้ในแอปพลิเคชันกล้องถ่ายรูป ทั้งในส่วนของกล้องหน้าและกล้องหลัง และไม่ว่าจะเป็นการถ่ายเดี่ยวหรือถ่ายรวมเองก็ตาม สามารถเลือกท่าถ่ายรูปเป็นไกด์ไลน์ให้ได้ ทีนี้ก็หมดปัญหาแล้วกับการ “ไม่รู้ว่าจะโพสต์ท่าอะไรดี” รับรองว่าทุกช็อตที่ถ่ายด้วยวีโว่ จะมีท่าทางประกอบแบบไม่ซ้ำ สวยแป๊ะราวกับนางแบบมืออาชีพมาช่วยโพสต์ท่าให้

ให้การตัดต่อนั้นเป็นเรื่องง่าย

ก่อนหน้านี้เราเคยบอกว่า AI การตัดรูปภาพ นั้นใช้งานได้ง่ายมาก ๆ และเพื่อให้เห็นภาพจากด้านบน เราจะพบว่านอกจากลบคนออก (ลบผู้สัญจร) เราสามารถเปลี่ยนพื้นหลังให้กับนางแบบเราได้ด้วย โดยการตัดต่อ AI จะทำการวิเคราะห์องค์ประกอบในภาพ ว่าสิ่งนั้นเป็นอะไรตั้งแต่ตัวบุคคลจนถึงพื้นหลัง จากนั้นเราก็สามารถแตะที่วัตถุที่ต้องการ (ในกรณีนี้คือตัวคน) แล้วก็เปลี่ยนรูปพื้นหลังได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้จะปรับย่อหรือขยาย หรือจะทำสำเนาออกมาหลายคน ก็เล่นได้ตามจินตนาการเลย

สุดท้ายนี้สำหรับเทศกาลแห่งความสุข หากใครยังหาของขวัญถูกใจหรือกำลังหามือถือใหม่ Vivo V20 SE เป็นหนึ่งในรุ่นน้องคนเล็กที่น่าสนใจ เพราะเป็นสมาร์ตโฟนในตระกูล V Series ที่มีราคาถูกที่สุด เพียงแค่ 8,699 บาท แต่ได้ในเรื่องดีไซน์ที่สวยไม่แพ้เครื่องหลักหมื่น มีความบางเบาพกพาได้ง่าย จัดเต็มไปด้วยสเปกที่อัดแน่นอย่างการชาร์จเร็ว และสุดท้ายคือกล้องคุณภาพสูงทั้งหน้าและหลัง ตอนนี้ก็มีโปรโมชั่น Happy Time Lucky You ใครสนใจก็ดูได้ที่ตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านได้เลย