ปัญหาของการติดกระจกนิรภัยสำหรับสมาร์ทโฟนจอโค้งอย่าง Galaxy Note 8 และ iPhone X จะหมดไป สำหรับ UNIQ ฟิล์มและกระจกกันรอย ออกแบบพิเศษ เพื่อให้ได้ขนาดโค้งเต็มจออย่างแท้จริง หมดปัญหาเรื่องรูดแล้วสะดุด รวมถึงยังรองรับแรงกด 3D Touch และ S-Pen เพื่อการใช้งานที่เต็มประสิทธิภาพ

UNIQ ฟิล์มและกระจกกันรอย
UNIQ ฟิล์มและกระจกกันรอย

UNIQ ฟิล์มและกระจกกันรอย

หากคุณใช้สมาร์ทโฟนทั่วไป หรือต้องการแค่ติดฟิล์มกันรอย คงไม่เจอปัญหาเรื่องจอโค้งสักเท่าไหร่ แต่กับรุ่นที่มีหน้าจอโค้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Galaxy Note 8 หรือ iPhone X หากต้องการปกป้องหน้าจอจากการแตก จำเป็นที่จะต้องใช้ กระจกนิรภัย ที่มีความแข็งระดับ 9H และหลายแบรนด์ในตลาดเลี่ยงทำแบบไม่เต็มจอ ด้วยข้อจำกัดทางเทคนิค

กระจกนิรภัยเต็มจอ

แต่ว่าในตอนนี้ UNIQ ได้ออกแบบกระจกกันรอยชนิดพิเศษ และมาพร้อมกับกาวเต็มแผ่น ไม่มีช่องว่างให้อากาศอยู่ด้านใน และที่สำคัญยังไม่กินฟิล์มไม่ดันกระจก ทำให้สามารถใช้ร่วมกับเคสส่วนใหญ่ได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ราคาอาจค่อนข้างสูงสักนิด หากคิดหารตามจำนวนวันก็ไม่แพงสักเท่าไหร่ เพราะติดครั้งเดียวจบ

  • 3D Hardy สำหรับ iPhone X ราคา 1,090 บาท
  • 3D Easy Touch สำหรับ Galaxy Note 8 ราคา 1,290 บาท
  • 3D Case Fully สำหรับ Galaxy S9 และ S9+ ราคา 1,090 บาท

นอกจากนี้ยังมีฟิล์มและกระจกที่ราคาถูกกว่า ซึ่งจะเป็นสเปคซอยย่อยออกไปอีก สำหรับคนที่ต้องการราคาถูก (แต่ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ ซื้อทั้งทีต้องเล่นตัว TOP) โดยหากใครสนใจสามารถไปสอบถามกันได้ที่เพจผู้จัดจำหน่าย UNIQ ฟิล์มและกระจกกันรอย หรือ iStudio by Uficon และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ

Galaxy Note 8
Galaxy Note 8

Galaxy Note 8

สมาร์ทโฟนที่เราหยิบมารีวิววันนี้ เป็นโจทย์ที่หินที่สุดสำหรับกระจกกันรอย Galaxy Note 8 เพราะไม่เพียงแค่จอโค้งเหมือนกับ Galaxy S8 และ S9 เท่านั้น แต่ยังมีจุดเด่นอยู่ตรงที่ S-Pen ที่จำเป็นต้องรองรับแรงกดถึง 4,096 ระดับ หากเป็นกระจกกันรอยทั่วไป คงไม่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน และที่ขายในท้องตลาดส่วนใหญ่จะเป็นแบบไม่เต็มจอ ทำให้ใช้งานและสะดุดพาลหัวเสียเอาได้ง่าย ๆ

อุปกรณ์ที่แถมมาก็จะมีกระจกนิรภัยกันรอย พร้อมกับฟิล์มหลังเครื่อง และนอกจากนั้นก็จะเป็นชุดอุปกรณ์ติดตั้ง โดยการติดตั้งจะค่อนข้างยากเป็นพิเศษ มากกว่าฟิล์มหรือกระจกนิรภัยทั่วไป ซึ่งจำเป็นต้องวางสมาร์ทโฟนลงบนกรอบ (ดังภาพ) เพื่อให้ตัวเครื่องนิ่งและแนบสนิทที่สุด

วิธีติดตั้งจะว่ายากก็ไม่ยาก จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จำเป็นต้องอาศัยความนิ่งของมือประมาณหนึ่ง (หากใครไม่มีประสบการณ์ลองไปตาม Shop ตัวแทนจำหน่ายที่อยู่ตามห้างก็ได้ครับ) ขั้นตอนแรกโดยเริ่มต้นจากการทำความสะอาด ด้วยผ้าที่แถมมาให้เช็ดถูให้เรียบร้อย

จากนั้นก็ดึงฝุ่นที่อยู่ตามหน้าจอออก โดยขั้นตอนนี้จำเป็นต้องอยู่ในห้องที่ไม่ค่อยมีลม และมีฝุ่นละอองปลิวน้อย จากนั้นจึงค่อยวางกรอบของเครื่อง เพื่อเป็นการติดตั้งกระจกอย่างบรรจง ซึ่งก่อนติดตั้งต้องตรวจสอบให้ดีว่าไม่มีฝุ่นหลงเหลืออยู่ เพราะการแก้ไขภายหลังค่อนข้างลำบากกว่าฟิล์มปกติทั่วไป

หลังจากเริ่มแน่ใจแล้วก็ค่อยรีดเอาฟองอากาศออก ตัวกาวก็จะแนบสนิทกับหน้าจอของเรา ทีนี้โดยปกติหลายแบรนด์จะติดตั้งง่ายกว่า ไม่ต้องรีดฟองอากาศ เนื่องจากเป็นกาวเฉพาะขอบ และตรงส่วนหน้าจอจะเป็นกระจกนิรภัยธรรมดา ข้อดีก็คือติดตั้งง่ายแต่ข้อเสียก็คือกระจกทั้งสองไม่แนบสนิทกัน ทำให้เวลาใช้งานลากเส้นแล้วสะดุด การวาดเส้นไม่ต่อเนื่อง

ตัวอย่างฟิล์มเก่า
ตัวอย่างฟิล์มเก่า

จากการเปรียบเทียบกับ ตัวอย่างฟิล์มเก่า (ขอไม่ระบุยี่ห้อ) เป็นกระจกเต็มขอบจอก็จริง แต่กาวมีเฉพาะบริเวณขอบด้านนอกไม่รวมถึงบริเวณหน้าจอ ทำให้การใช้งานลากเส้น S-Pen มีโอกาสเส้นขาดช่วง ซึ่งก็เป็นปัญหาที่คนใช้งาน Galaxy Note 8 มักพบเจอกันเป็นประจำ จากการใช้กระจกนิรภัยที่มีกาวเฉพาะขอบ

นอกจากนี้ยังมีปัญหา Iris Scanner เวลาสแกนม่านตาแล้วไม่ค่อนติด รวมถึงกล้องหน้าที่ประสิทธิภาพด้อยลง จากการที่กระจกกันรอยไปครอบทับ (ถึงแม้ว่าบริเวณนั้นจะเป็นแบบใสก็ตาม) การออกแบบของรุ่นนี้ จะเว้นช่องตรงกล้องและเซ็นเซอร์ต่าง ๆ เอาไว้เลย เพื่อให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ 100%

หลังจากติดตั้งเสร็จเรียบร้อย ให้ความรู้สึกเหมือนไม่ติดอะไรเลยถ้าไม่สังเกต ตัวกระจกนิรภัยชิดเกือบเต็มขอบ แต่จะมีเหลือไว้เพียงมิลลิเมตรกว่าเท่านั้น เพื่อให้สามารถใช้งานเมื่อติดตั้งกับเคสแล้วไม่เกิดอาการ “ดันฟิล์ม” หรือ “ดันกระจก” และก็ไม่ทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดแต่อย่างใด เนื่องจากบริเวณนั้นเลยส่วนของหน้าจอไปแล้วนั่นเอง

ตรงส่วนของกล้องและเซ็นเซอร์จะถูกเว้นเอาไว้ทั้งหมด เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 100% หมดปัญหาเรื่องการสแกนม่านตาแล้วไม่ผ่าน หรือคุณภาพของกล้องที่ดรอปลงมา สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนความหนาของกระจกอยู่ประมาณ 0.33 มม. กันกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มาดูกันอีกมุมหนึ่งจะเห็นว่าตัวกระจกนิรภัย ได้ครอบเลยบริเวณหน้าจอออกมาแล้ว

และเมื่อใช้งานกับเคสจะพอดีไม่เกิดการดัดกระจกแต่อย่างใด

ทดสอบการใช้งานสามารถลากลายเส้นปากกา S-Pen ได้อย่างไม่มีสะดุด พวกข้อมูลแรงกดยังสามารถรับได้เหมือนเดิม ความลื่นไหลแทบไม่ต่างอะไรกับการเขียนบนเครื่องตรง ๆ เนื่องจากวัสดุเป็นกระจกที่ให้อารมณ์ต่างจากฟิล์ม ส่วนความทนทานอยู่ที่ระดับ 9H สามารถป้องกันรอยและกันกระแทกได้ดีเยี่ยม และเมื่อใช้มือจะยังคงมีความลื่นไม่ฝืดนิ้ว เพราะมีการเคลือบผิวกระจกเอาไว้ด้วย

สรุปแล้วการใช้ค่อนข้างน่าพึงพอใจ อารมณ์แทบไม่ต่างอะไรกับการไม่ติดอะไรเลย Galaxy Note 8 ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ทำให้มีโอกาสแตกค่อนข้างเยอะ และเมื่อใช้งานร่วมกับกระจกนิรภัยและเคสกันกระแทก ทำให้มั่นใจได้ทุกครั้งเมื่อหยิบมาใช้งาน เพราะสมาร์ทโฟนรุ่น TOP เดี๋ยวนี้ก็มีราคาทะลุ 30,000 บาทขึ้นไปแล้ว ถ้าตกแตกไปคงน่าเสียดายแย่

Galaxy S9 | S9+
Galaxy S9 | S9+

Galaxy S9 | S9+

อัปเดตล่าสุด! ตอนนี้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Samsung ที่ขายประเทศไทยเป็นกลุ่มแรก ก็มีสินค้าใหม่เป็นฟิล์มกระจกนิรภัยรุ่น 3D Case Fully S9/S9+ จำหน่ายแล้วเช่นกัน กระจกนิรภัยกันรอย ระดับซุปเปอร์พรีเมียม ทัชง่าย ไม่ดันเคส และยังมาพร้อมกับคุณภาพเหมือนเดิมครับ

iPhone X
iPhone X

iPhone X

อีกหนึ่งรุ่นยอดฮิต iPhone X ที่ถึงแม้หน้าจอจะไม่โค้งเท่า Galaxy Note 8 แต่คงไม่มีใครกล้าถือสมาร์ทโฟนราคาร่วม 40,000 บาท ในรูปแบบเครื่องเปลือยอย่างแน่นอน และสำหรับ UNIQ เองก็ได้ผลิตรุ่น 3D Hardy ออกมารองรับเช่นเดียวกัน ส่วนวิธีการติดตั้งจะไม่ยุ่งยากและลำบากเท่ากับ Galaxy Note 8

สำหรับรุ่น iPhone X หากเป็นกระจกนิรภัยราคาไม่สูงมากนัก มักจะเป็นแบบไม่เต็มจอ ทำให้การใช้งานเวลารูดจากขอบจอล่าง (จำเป็นต้องลากขึ้นมาเนื่องจากไม่มีปุ่ม Home) เกิดอาการสะดุดของนิ้ว แต่หากจะหนีไปติดเป็นฟิล์มธรรมดาก็ดูจะไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่นักกับสมาร์ทโฟนราคาแพง เนื่องจากกันได้แค่รอยขีดข่วนเล็กน้อยทั่วไป

และเช่นกันคือตัวกระจกนิรภัยจะมีการเว้นช่องไว้เล็กน้อยสำหรับใส่เคส แต่ทั้งนี้ก็คือครอบเลยหน้าจอมาแล้ว ทำให้การใช้งานไม่รู้สึกสะดุดเวลาปัดนิ้วที่มุมหน้าจอ นอกจากนี้ยังให้ความคมชัดสูง ไม่ลดความสว่างของหน้าจอ และไม่ทำให้จอเหลืองหรืออมฟ้า

ในกรณีของ iPhone X กรอบจอด้านหน้าจะมีสีเดียวคือสีดำ แต่สำหรับคนที่ใช้ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus จะมีกรอบจอทั้งสีดำและสีขาว ทางผู้ผลิตก็เข้าใจในจุดนี้เลยมีให้เลือกทั้งกรอบจอสีขาวและสีดำ ให้สอดคล้องกับสีของเครื่องเรา

และเมื่อติดตั้งกับเคสส่วนใหญ่ก็จะพอดีกันอย่างสวยงามครับ

ซูมอีกมุมให้เห็นกันไปชัด ๆ แบบนี้ไม่ดันกระจกอย่างแน่นอน สามารถรูดไปถึงขอบจอได้อย่างไม่มีสะดุด ขอบกระจกโค้งมนรับกับขอบของตัวเครื่อง iPhone และไม่เพียงแค่ปกป้องกันรอยขีดข่วย ยังช่วยให้สามารถทัชสกรีนลื่นรวมถึงลดรอยนิ้วมือได้อย่างดีเยี่ยม

ข้อดี

  1. วัสดุคุณภาพจากอเมริกา
  2. ความแข็งระดับ 9H กันกระแทกดีเยี่ยม
  3. ใช้กับเคสส่วนใหญ่แล้วไม่ดันกระจก
  4. ใช้งาน S-Pen และ 3D Touch สมบูรณ์
  5. กระจกนิรภัยเต็มจอที่แท้จริง

ข้อเสีย

  1. ราคาค่อนข้างสูงตามวัสดุ
  2. สำหรับมือใหม่อาจติดตั้งยาก

สรุป

หากคุณต้องการซื้อกระจกนิรภัยครั้งเดียวจบ ไม่ต้องเสียเวลาหรือไปวัดดวงข้างหน้า จะค่อนข้างตอบโจทย์เลยทีเดียว สำหรับคนใช้ Galaxy Note 8 จะยิ่งตอบโจทย์เข้าไปใหญ่ เพราะรุ่นนี้หากระจกนิรภัยดี ๆ มาติดตั้งลำบากมาก หรือหากจะเป็น iPhone X ก็สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนใครใช้รุ่นนอกเหนือจากนี้อาจเป็นไอโฟนรุ่นเก่าหรือซัมซุงรุ่นอื่นก็สามารถไปเช็คกันได้ที่เพจผู้จัดจำหน่าย UNIQ ฟิล์มและกระจกกันรอย หรือ iStudio by Uficon และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial