สวัสดีครับสำหรับวันอาทิตย์ค่ำๆ แบบนี้ตอนเขียนบทนี้ระหว่างที่เขียนก็เป็นวันสุดท้ายของงาน Thailand Mobile Expo 2014 จัดระหว่างวันที่ 2-5 ตุลาคม 2557 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ก็ต้องขอบอกว่างานครั้งนี้มีอะไรใหม่ๆ หลายอย่างมาเปิดตัวให้ผู้คนได้สัมผัสกันแต่สำหรับผู้เขียนมีเวลาไม่มากนักในการเดินเพราะต้องทำงานประจำอาจจะมีข้อมูลที่ขาดตกบกพร่องไปบ้างเพราะเวลาเดินเดินไม่ทั่วครับ แต่ก็พยายามหยิบสิ่งที่น่าสนใจในงานมานำเสนอให้ทราบครับ โดยตัวงานครั้งนี้มีอุปกรณ์อยู่ 2 สิ่งที่เรียกว่ามันมาใหม่เป็นตัวจุดเด่นของงานครับนั่นคือ 1.อุปกรณ์ Gear VR และ 2.อุปกรณ์ Wareable หรืออุปกรณ์ที่สามารถใช้สวมใส่ร่วมกับร่างกายเราได้เหมือนดั่งเครื่องประดับกับเจ้าตัว Smart Band ซึ่งมีทั้งนำมาให้เล่นแต่ไม่มีขาย กับมีทั้งให้เล่นและขายในงานพร้อมโปรโมชั่นลดราคาพิเศษจริงๆ ในงานเท่านั้น
ไปกี่ครั้งๆ ก็เหมือนเดิมคือคนเยอะครับแต่ถ้าไปช่วงคนไม่เยอะคือช่วงเช้าและกลางวันของวันธรรมดาถ้าหลังเลิกงานนี่คนก็เริ่มเยอะแล้วเกือบจะทุกวันแต่ถ้าเป็นวันหยุดไม่ต้องพูดถึงเลยอย่างเนื่องแน่น!!
ก่อนจะเดินในงานให้ดีดูแผนผังของผู้จัดก่อนว่าแต่ล่ะบูธอยู่ตรงไหน Zone ไหนจะได้เดินไปหาถูกตามที่เราต้องการและจากการเดินสำรวจของผู้เขียนรู้สึกว่าสิ่งที่ผู้คนสนใจมางาน Thailand Mobile Expo 2014 ครั้งนี้ก็มีหลายเหตุผลคือ 1.ต้องการซื้อเครื่องใหม่แทนเครื่องเก่า 2.ต้องการเครื่องเสริมหรือสำรองซึ่งมีผู้ขายนำเครื่องรุ่นเก่ามาปรับลดราคาแบบถูกมากๆ 3.มาจ่ายบิลค่าโทรศัพท์ซึ่งมีผู้ให้บริการอย่าง TRUE MOVE H , DTAC , AIS , TOT 3G มาเปิดให้บริการอยู่ แล้วก็ยังมีอีกลุ่มคือคนที่ต้องการมาหาข้อมูลเพื่อการซื้อหรือมาเดินเล่นแต่กลับพบสิ่งที่ตนเองกำลังสนใจอย่าง Digital TV Box หรือกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลเป็นต้น
มากันครบ 4 รายแต่ไม่ยักกะเจอค่ายใหม่อย่าง 365 Mobile หรือแม้นแต่ CAT Telecom – My by CAT มาเปิดบูธ ซึ่งผมมองว่าถ้ามาเปิดบูธแจกซิมหน่อยก็น่าจะดีเพราะมีคนสนใจไม่น้อยหรือว่าผมผู้เขียนเดินไม่เจอ -_-‘
Intel ก็มาครับจะมีบูธเล็กๆ ข้างๆ ซึ่งจะมีพนักงานคอยแนะนำเกี่ยวกับ Tablet ที่ใช้ CPU Intel ให้กับผู้สนใจครับ
ผู้ให้บริการ Internet อย่าง 3BB ก็มาครับมาจัดโปรโมชั่นพร้อมกิจกรรมให้ร่วมสนุก
ตี๋เล็ก มาสคอท ของทาง 3BB เขาล่ะมาแบบกวนๆ แถมบอกผู้เขียนอีกว่า “รักนะครับ” อ่ะผู้เขียนก็ใช้บริการ 3BB อยู่นะคร๊าบบบ
SAMART Engineering มาเปิดบูธจัดโปรจำหน่าย Digital TV Box ก็มีคนสนใจอยู่บ้าง
พนักงานก็ให้ข้อมูลกับลูกค้าไปดูท่าทางพี่ผู้ชายคนใส่แว่นสนใจมาก
โปรโมชั่น Digital Box กับอุปกรณ์เสริมของทาง SAMART Engineering
ร้าน CSC มาจัดด้านนอกเรียกได้ว่าดักหลายทางล่ะในฮอล์ด้านในก็มีเช่นกันแต่สิ่งที่ผมเห็นตามภาพคือมันคือยุคที่เด็กรุ่นใหม่ได้จับเทคโนโลยีถ้าย้อนไปตามเด็กชายที่มากับผู้ปกครองแล้วเทียบกับตัวผู้เขียนต้องบอกว่าผู้เขียนตอนเด็กไม่ได้จับเทคโนโลยีใกล้ชิดแบบเด็กในยุค Mobility แบบปัจจุบันนี้เลยยุคที่ผู้เขียนอายุเท่าเด็กชายคนนั้นในภาพได้จับอย่างดีก็แค่เครื่องเล่นเกม Famicom หรือ Family เท่านั้น
แล้วสิ่งที่เห็นคือผู้ปกครองที่มาก็สนใจ Smart Phone ตัวดังๆ อย่าง Asus Zenfone อยู่ไม่น้อย นี่ทำให้แสดงถึงการทำตลาดของ Asus ในประเทศไทยที่มีผลต่อผู้บริโภคชาวไทยได้ดีเลยครับว่ามาถูกทางเพราะกำลังซื้อของคนไทยส่วนใหญ่จะต้องการ Smart Phone คุณภาพดี สวย บาง ทำงานไว และสำคัญที่สุดราคา! ไม่แพงจนเกินไป
ในภาพถ้าคุณผู้อ่านสังเกตดีๆ จะเห็นแบรนด์ใหม่เพิ่งมาทำตลาดในไทยโดยเกาะฝากผ่าน CSC อีกทีนั่นคือ iMI (ไอมี่) โดยเจาะกลุ่มผู้ใช้สาวๆ ซะมากกว่าเดี๋ยวค่อยพาไปดูบูธ Official จริงๆ อีกทีมีทีเด็ดด้วยครับ
บูธ Yooboo ลดอุปกรณ์หลายอย่างทั้ง Power Bank กับเคสใส่ Power Bank
คนก็เลือกซื้อกันสนุกเลยเพราะลดราคา
ลดแหลก 100 บาท! ขาดตัวจ้า
พวก Gadget จากแบรนด์เครื่องเสียงดังๆ ก็มาลดเยอะ
ส่วนใหญ่เป็นพวกตกรุ่นๆ ค้างสต๊อค
หูฟังก็ขนมาลดเพียบ
และทุกงานใหญ่แน่นอนว่าต้องมีเรื่องการเงินการทองต้องมาก็มาจัดบูธเล็กๆ เรียกลูกค้าให้มาสมัครบัตรเครดิต
วาร์ปมาที่บธูใหญ่ของงานเลยก็ได้นั่นคือ Samsung ปีนี้ Samsung ปล่อยโปรดักส์ดีๆ หลายตัวมาให้ร้องว้าวนับตั้งแต่ Galaxy Tab 4 , Galaxy S5 , Galaxy K Zoom , แล้วก็กลุ่ม Smart Watch อย่าง Gear FIT , Galaxy Gear S แล้วก็อีกตัวที่ดึงดูดคนในงานได้ไม่แพ้กันซึ่งใครไปแล้วก็ต้องลองเล่นหน่อยล่ะ
นั่งคือ Samsung Gear VR ที่พัฒนามาจาก Google Card Board
ซึ่งเป็นแนวคิดต้นแบบต่อ Gear VR นี้ และเดี๋ยวเร็วๆ นี้ทางทีมงาน iReview.in.th จะรีวิวตัว Google Card Board ให้ชมกัน
อุปกรณ์เสริมต่างๆ
Samsung Galaxy Gear S ก็มีคนให้ความสนใจไม่น้อยครับ
พนักงานก็อธิบายถึงวิธีการทำงานของ Galaxy Gear S ว่ามันทำอะไรได้บ้างซึ่งอุปกรณ์ Wareable นี่เป็นรุ่นใหม่ของทาง Samsung ที่ทำออกมาขายในปีนี้ครับ ผู้เขียนไม่ได้ดูราคาไว้เนื่องจากรีบๆ เดินเพราะเวลาใกล้จะปิดงานของวันแล้วด้วย
Tablet ตัว Top ของ Samsung นั่นคือ Tab S 10.5
อีกหนึ่งใน Smart Phone ที่เรียกเสียงว้าววกับกรี๊ดได้ไม่น้อยกับ Galaxy Alpha (ข่าวลือล่าสุดตอนที่เขียนเห็นว่าทาง Samsungเตรียมทำให้ตัว Galaxy Alpha เป็นอีกตระกูลนึงของ Smart Phone ที่เน้นความหรูหราบางเบา ซึ่งอาจจะมีรุ่นถัดไปในชื่อ Alpha 2 , 3 , 4 ,5 บลาๆๆ ก็ว่ากันไป
สวยหรูขอบเป็นโลหะขัดเงาวาววับ
สวยๆ จับแล้วรู้สึกว่ามันน่าใช้น่าเป็นเจ้าของมาก
อีกตัวคือ Galaxy S5 ที่มาทำตลาดในบ้านเราได้พักใหญ่ๆ ครับ
อีกรุ่นที่ทำให้หลายคนร้องว้าววแล้วอยากได้แบบโครตอยากได้จริงๆ จังๆ เลยคือ Galaxy Note 4 เปิดราคามาตามภาพเลยโดยในงานนี้ก็มีให้เปิดจองกันครับโดยคนที่มาจองก็ได้ของกำนัลตอบแทนไปคือกระเป๋าเดินทางสวยๆ ขออภัยไม่มีภาพครับ 🙁 ไม่ได้ถ่ายมาก็น่าเสียดายเพราะด้วยความรีบๆ ของผู้เขียนที่มีเวลาน้อยต้องรีบเดินก่อนงานปิดตอน 2 ทุ่มครึ่ง (ส่วนคนที่ไปจองต้องเรียกว่าพวกคุณอึดมากเพราะคิวจองยาวสุดๆ ไปเลย อ้างอิงกระทู้จาก pantip.com
อีกตัวตัวนี้ก็ทำให้หลายคนร้องโอ้วว!! คือ Galaxy K Zoom จากตระกูล Galaxy Zoom ที่ปรับปรุงใหม่มาหลายอย่างเลยเพื่อให้การถ่ายภาพพร้อมแชร์เป็นเรื่องง่าย
บูธ Samsung เป็นอะไรที่คนแน่นตลอด
มีจุดให้บริการของ Samsung เองเป็นบริการดาวน์โหลดแอปจาก Samsung App Store
และก็คนซื้อๆๆๆ จ่ายๆๆ พนักงานก็อำนวยความสะดวกในการขายของ
วาร์ปต่อมาเจอบูธ Asaki เจ้านี่ไม่ธรรมดานะครับเรื่องอุปกรณ์เสริมทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ มือถือในงานก็จัดลดเยอะเหมือนกัน
ขอส่องหน่อยแบบว่าเห็นแล้วเอ้ยน่าสนใจมากหูฟัง Small Take Blue Tooth ราคาถูกมาก!! 390 บาท
ชัดเจนนะ 390 บาท เสียดายผู้เขียนไม่ได้ซื้อมาลอง ถ้าซื้อมาคงได้จับรีวิวให้ชมกับว่าแจ่มหรือไม่
SanDisk ก็มาครับจัดโดย SIS
ใบโบรชัวร์พร้อมราคาเฉพาะในงานเท่านั้นดูๆ แล้วมีแต่ของแรงๆ ขายงั้นเลยตามใบโบรชัวร์นะ
วาร์ปมาที่บูธ Nokia บ้าง (จริงๆ ก็ใกล้จะสิ้นสุดการใช้ชื่อแบรนด์แล้วนะเพราะต่อไปแบรนด์ Nokia จะถูกแทนที่โดย Microsoft)
มีอะไรใหม่ๆ มาในงานแบบว่าทันขายนั้นคือ Nokia Lumia 830 ที่เรียกได้ว่าร้องว้าวเรื่องกล้องหน้าถ่าย Selfie ได้มุมกว้างมากๆ มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการใหม่ล่าสุดอย่าง Microsoft Windows Phone 8.1
อีกตัวที่มาเปิดตัวพร้อมกันเลยคือ Nokia Lumia 730 ในราคาต่ำหมื่นบาท
Spec และราคาของ Nokia Lumia 730 ต้องบอกว่าราคาไม่แรงเลยแถมสามารถใช้ 2 Sim ได้ด้วย
แผ่นโบรชัวร์โปรโมชั่นในงานลดแหลกแล้วก็แถมของดีๆ จาก Nokia อีก
Plantronics ก็มาเปิดบูธจำหน่ายจัดโปรลดราคาอุปกรณ์ Gadget เหมือนกัน
หูฟัง Headset Bluetooth มากันพรึ่บๆ
ก็มีคนให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ของทาง Platronics ไม่น้อยครับถึงจะเป็นแบรนด์ที่ทำตลาดในบ้านเราไม่นานนักก็ตาม
ไม่เฉพาะตัว Headset Bluetooth ที่ใช้กับ Smart Phone หรือมือถือยังมี Headset ใช้กับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ฟังเพลงด้วย
ที่บูธของทรูจัดโปรโมชั่นเรียกความสนใจไม่น้อยกับการลดราคา iPhone 5s เหลือเพียง 9,800 บาท เท่านั้นเพียงเบอร์เบอร์ใหม่กับสมัครโปร Jombo Pack 599 บาท
Tablet ใหม่จาก True ที่มาพร้อมกับการรองรับการใช้งาน 4G ในตัวเลยแถมราคาก็ไม่สูงด้วยครับแค่ 4,990 บาท กับ True Smart Tab 7.0″
แล้วก็มี Smart Phone มาอีกรุ่นที่ออกมาใหม่พร้อมกับตัว Smart Tab 7.0″ นั้นคือ Smart 4.0″ ที่มีจุดเด่นตรงที่ติดตั้งระบบปฎิบัติการ Android Kitkat 4.0 มาให้เลยแต่ข้อเสียคือใส่ SIM ค่ายอื่นไม่ได้นะจ๊ะ 🙁
มาอีกบูธเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งมาทำตลาดปีนี้เลยนั้นคือ ViVO (วี่โว่) ที่กระแสมาแรงมากโดยเฉพาะรุ่น X Short ที่โด่งดังเด่นเรื่องกล้อง
X Play ถือว่าเป็น Phablet ที่มีหน้าจอใหญ่ดีและใช้ CPU แบบ เป็น Qualcomm 8974AB Quad-Core ความเร็ว 2.3 GHz
รุ่นล่าง ถึง กลางของ ViVO กับ Y15 ราคากลางๆ
รุ่นกลาง Y22 ถ้าสังเกตนะครับทุกรุ่นผ่อนผ่านบัตรได้แบบ 0% ก็คือจ่ายยาวไปเลย ตาโปรโมชั่นแถมได้ส่วนต่าง Cash Back คืน 500 บาทในรุ่นของ XPlay 3S อีกต่างหาก
ที่เกริ่นไปในบทนำอย่างที่บอกว่าในงานนี้จะมีกลุ่มที่ 2 คือมาหาเครื่องสำรองเครื่องเสริมซึ่งในงาน Thailand Mobile Expo 2014 ครั้งนี้ตอบโจทย์ได้ดีเลยแหละเพราะมีแบรนด์เก่าแก่อย่าง Alcatel จำมือถือแบบปุ่มกดปุ่มใหญ่ ในรุ่น Onetouch 20.01 ในราคาเบาๆ จากราคาเต็ม 1,390 บาท เหลือ 888 บาท แถมยังแถมแท่นชาร์ตเกร๋ๆ ให้อีกคุ้มเกินคุ้มครับ
อีกอุปกรณ์ที่ทาง Alcatel นำมาลดแลดน่าสนใจไม่น้อยนั้นคือ Mi-Fi หรือตัว Wi-Fi Pocket ไว้แชร์สัญญาณ Wi-Fi เพียงเสียบ Sim Card แล้วปล่อยสัญญาณแชร์ไปยังอุปกรณ์ใกล้เคียงขายในงานเหลือ 990 บาท จากพันกว่าบาทไม่ได้จดราคามาแต่ก็นับว่าเป็นอุปกรณ์ที่น่าสนใจเหมาะกับคนที่ชอบออกต่างจังหวัดบ่อยๆ แล้วมีอุปกรณ์ที่ต้องใช้ทำงานผ่านเน็ตหลายชิ้น
มาถึง Sony รอบนี้นับมามีเรือธงอย่าง Z3 ปล่อยออกมาทันขายพอดีเป๊ะแล้วสาวก Sony ก็เยอะด้วยทำให้คนที่อยากได้ Z3 ในไทยก็เฮเพราะมาซื้อได้ในงานเลยแถมพวกรุ่นเก่าๆ ก็ลดราคาขายในงานนี้ด้วย (ข่าวจาก @papayatop บอกว่าหลังจบงาน “ราคา Xperia Z3 ท้ายงาน 20300-20500 เงินสด ตัดของแถมออกหมด” เล่นเอาคนที่ซื้อไปก่อนได้ยินแล้วก็คงเงิบตามๆ กันอิอิเพราะมันถูกไปหลายพันเลย
ตัว Z3 เป็นๆ ราคาก็ตามนั้นเปิดตัวมา 23,990 บาท
Z3 Compact ราคา 19,990 บาท
Z2 18,990 บาท
Z1 เหลือ 16,990 บาท แต่หลังงานไม่ทราบว่าจะหักคอคนซื้อไปก่อนหรือไม่สำหรับในรุ่นอื่นๆ 😀
วาร์ปต่อมาที่บูธ HTc ครับ
จับ HTc มาลดกระจายกับ Desire 816 และ M8 แถม Dot View อุปกรณ์เสริม
จาก hTC เราขอวาร์ปไปบูธ Jaymart เลยล่ะกัน
แน่นอนครับ ZenFone 4, 5 , 6 ต้องมาด้วยขายดีมากแต่น่าแปลกใจที่ส่วนใหญ่คนจะแห่ไปบูธอื่นหรือแม้นแต่คิดว่าต้องซื้อที่บูธ Asus เท่านั้นซึ่งก็เป็นผลให้ของที่บูธ Asus หมดเกลี้ยง!! ขายดีมากจริงๆ แต่กระนั้นเอาจริงๆ แล้วก็ต้องบอกว่าครั้งหน้าของการจัดงานใครจะซื้อแบรนด์ใดก็ไม่จำเป็นต้องซื้อที่บูธ Official Brand ครับยิงตรงไปหาตัวแทน Outlet Shop อย่าง Jaymart , CSC ได้เลยจะดีกว่า
Lenovo ก็มีครับ
Vibe Z
แต่ที่น่าสนใจสุดๆ คงต้องเป็นยี่ห้อนี้ Wiko แบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในไทยที่น่าสนใจจริงๆ เป็นรุ่น WAX จุดเด่นที่ตัว Wiko WAX มีคือการใช้ CPU nVidia Tegra 4i (codenamed “Grey”) เรียกได้ว่าเป็น Smart Phone ที่น่าคบหาคนที่เล่นเกมหรือใช้ Computer มักรู้จักยี่ห้อ nVidia อยู่แล้วเพราะมักจะผลิต GPU แรงๆ ออกมาขายเสมอจุดเด่นอีกอย่างของ Wiko WAX คือรองรับโครงข่าย 4G ด้วย ส่วนราคาเหรอครับแอบถามพนักงานขายบอกมา “พี่ราคาแค่นี้นะ = 7,990 บาท” เอ้ยพูดเป็นเล่นของแรงราคาถูก! แต่ถ้าใครอยากซื้อสามารถไปซื้อได้ที่ร้าน Jaymart หรือสั่งซื้อได้ทางเว็บ Lazada.co.th /shopat7.com และ cdiscount.co.th โดยจะมีสีที่มาทำตลาดอยู่ 2 สีตอนนี้ด้วยกันคือตัวเครื่อง Body สีเขียว กับ สีดำครับ
เอาว่าถือว่า Preview ให้ดูเล่นๆ ไปเลยล่ะกัน หน้าจอนี่เรียกได้ว่าสีสันสดใสดี ตอนลองเล่นลืมเปิด Brightness หน้าจอให้สุด – -*
ถ้าดูจาก About ของ OS แล้วก็พบว่ายังกิน Jellybean 4.3 อยู่เลย ลืมถามไปว่าต่อไปจะได้อัพเป็น Kitkat ได้หรือไม่อีกข้อมูลที่ได้มาคือยี่ห้อ WAX บริษัท SIS Distribution เป็นผู้ร่วมลงทุนในแบรนด์ Wiko นี้เองเลยก็อารมณ์กึ่งๆ ติดแบรนด์ไทยในแบบ House Brand ก็ต้องจับตาต่อไปว่าจะมีอะไรมาให้เซอร์ไพรซ์สำหรับแบรนด์ Wiko น้องใหม่ส่วนการรีวิวเครื่องต้องรอลุ้นครับว่าทาง Wiko จะส่งมาให้ทาง iReview.in.th เราทดสอบหรือไม่ ^^’ ลุ้นๆ
บรรยากาศในบูธของ Jaymart ก็ค่อนข้างคึกคัก
เดินต่อไปเจอ Power Bank น่ารักๆ เข้าให้แต่เห็นราคาแล้วเอ่อแพงไปหน่อยนะ
ต่อมาเป็นบูธของ DTECH แบรนด์นี้ขึ้นชื่อเรื่องของแหวกๆ ถูกๆ แล้วก็ไม่นึกว่าจะทำ Smart Band , Smart Watch ออกมาขายกับเขาด้วย!! ตัวสีดำ 1,700 บาท ตัวสีชมพูในมือผมราคา 1,400 บาท ราคาโปรโมชั่นในงานนะครับ
รายละเอียดตัวสีดำที่เป็น Smart Watch
มีรายละเอียดของตัว Smart Band ด้วยครับตัวนี้กันน้ำได้ถึง 1 เมตร ไม่ธรรมดาเลย
แล้วก็จ๊ะเอ๋กับคำว่า Combo Set ถูกเข้าให้ Acer Iconia One 7 มาขายคู่กับ Alcatel Mi-Fi จับรวบแล้วเหลือ 3790 บาท ถูกมาก!!
บูธ BenQ มาเงียบๆ เล็กๆ หลบมุมอยู่ในโซน C ชั้นลอย
ตัวเด่นที่ส่งเข้ามาขายเป็นรุ่น F5
จุดเด่นก็คือเรื่องรองรับ 4G LTE ในราคาเครื่องไม่ถึงหมื่นบาท ราคาเพียง 7,990 บาท โปรโมชั่นในงานก็มีของแถมคือเคสกับ Power Bank ให้ครับ
ที่บูธ Cherry Mobile มีตัวเด่นอยู่คือตัว Watch Phone โทรศัพท์มือถือทรงนาฬิการาคาขาย 999 บาท เท่านั้นถูกมากข้อดีคงเป็นเรื่องความเท่ห์แปลกใหม่แปลกตาเหมือนของเล่นแต่ใช้ได้จริง ข้อเสียคงเป็นเรื่องมันไม่กันน้ำ! – -* ถือว่ายังไม่น่าคบนักแต่กระนั้นด้วยราคาของมันทำให้ดึงดูดคนเข้าบูธไปหยิบแล้วจ่ายตังค์ได้ดีทีเดียว
รุ่นถูกๆ ก็มี 8 ร้อยกว่าบาทอย่าง Snap 2.0 เหมาะเป็นเครื่องสำรองอย่างยิ่งรู้สึกว่าจะขายดีทีเดียวครับ
รุ่น RAZOR ของ Cherry Mobile ลดราคาเหลือเพียง 1,999 บาท ถูกโครต
Huawei มางวดนี้เงียบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ถึงมาก คงเพราะไม่มีแรงโปรโมทกับไม่มีรุ่นใหม่มาในช่วงนี้ ก็คงมาจากบริษัทแม่ต้นทางนั้นเองที่จะหันไปผลิต Smart Phone ระดับ Hi-End ขายแทนแล้ว
ว่ากันว่าตัว MediaPAD X1 7.0 ของ Huawei เป็น Tablet ที่หายากตัวนึงในบ้านเรามาโผล่ในงานนี้เงียบๆ
อุปกรณ์เสริมพวกเคสของ Huawei
ลำโพงของ Huawei ฟังโดยใช้การเชื่อมต่อผ่าน BlueTooth ดีไซน์เก๋มาก
Ascend G6 ก็มาในราคาไม่สูงนักแถม CPU เป็นแบบ Quad-Core อีก
รุ่นล่างตัวถูกของ Huawei เป็นรุ่นเก่าแล้วราคา 2990 บาท มันคือ Smart Phone ที่เรียกว่าพอใช้ได้สำหรับคนมีงบไม่เยอะ
อีกบูธที่เกริ่นไปตอนต้นคือ iMI (ไอมี่) มาเปิดตัวให้ประชาชนได้รู้จักกันจริงๆ จังๆ ก็ในงานนี้นี่แหละครับ จุดเด่นก็มี Smart Phone ที่ออกแบบมาสำหรับสาวๆ โดยเฉพาะเนื่องจากตัวเครื่องมีกลิ่นหอมติดมาด้วย!! ผู้เขียนลองดมๆ ดูแล้วเห้ยมันหอมจริงๆ หอมแบบน้ำหอมไปทั้งตัวเครื่องเลยซึ่งรุ่นที่มีกลิ่นหอมนี่คือรุ่น Lady ชื่อตรงตัวเลยสำหรับสุภาพสตรีจริงๆ จังๆ หวานๆ แหววๆ
ราคา 7,990 บาท เอ้ยไม่แพงแมโปรโมชั่นในงานตามภาพเลยจัดหนัก!! แถมกระจายแถมกล่องก็หรูมาก
ตัวเครื่องกับ UI นี่ฟรุ้งฟริ้งมากหวานแหววจริงๆ
ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นครับคือรุ่น Messi No.1
ด้านหลังตัวเครื่อง Messi No.1 ดูแข็งแรงดีจัง
หน้าตา User Interface ออกแบบมาสำหรับสุภาพบุรุษซะจริง
ลองเทศกล้องหน้าหน่อยชัดดีๆ ค่าตัว 7,990 บาท เท่ากับรุ่น Lady
อีกตัวที่คิดว่าน่าสนใจและน่าใช้งานมากนั้นคือ iWatch เป็น Smart Watch ที่เรียกได้ว่าน่าใช้เพราะ Feature มันมาครบหลายอย่างมากทั้งเป็นโทรศัพท์ในตัวแถมใช้ 3G ได้ด้วยในระบบเครือข่าย GSM 850/900/1800/1900 MHz /2100 นั้นหมายถึงใช้งานได้กับ True H , AIS , Dtac กันเลย
หน้าตาในโหมดโทรศัพท์เท่าที่ลองเล่นดูพบว่าถ้ากดโทรออกยังไม่ดีนักต้องกดทัชไปแบบเฉียงๆ ครับถึงจะกดได้กว่าจะกดได้เล่นเอาเหนื่อย
Call Log ก็มีครับถ้าเราต้องการพูดใส่ก็พูดได้เลยมันมีไมค์อยู่ตรงด้านล่างตัวเรือน
ว่าง่ายๆ มันก็คือ Android Watch ดีๆ นี่แหละ
สนนราคาค่าตัว 5,990 บาท มาเปิดจอง Pre Order กันในงานจำหน่ายจริงวันที่ 15 ตุลาคมนี้ในบ้านเราผ่านร้าน CSC ส่วน Spec กับ Feature หลักๆ ก็ตามด้านบนในภาพเลยครับ
ลองใส่ทับแขนดูพบว่ามันคล้ายๆ Sony Smart Watch แฮ่ะ
ก็มีคนมาดูที่บูธของทาง iMI ไม่น้อยเช่นกันครับบางคนถึงกับซื้อเลยเพราะราคาไม่่สูงและแปลกใหม่ดี
อีกบูธที่น่าสนใจเป็นอะไรที่เล็กๆ แต่ก็ทำให้คนตื่นตัวกับ Smart Watch ได้ระดับนึงรวมไปถึงผู้เขียนด้วยครับคือ MyKronoz เป็น Smart Watch กับ Smart Band ที่มีการออกแบบดีไซน์สวยและดีกับราคาที่ไม่แพงมากนัก
ในรุ่นที่เหมือนการ Starter หรือรุ่นที่ผู้ใช้อยากได้ไปลองเริ่มต้นอย่างรุ่น ZeFIT ก็เหมาะมากจริงๆ เพราะด้วยราคาไม่สูงตัวโปรแกรมและแอปก็ทำงานได้ทั้ง Smart Phone หลายยี่ห้อ และกันน้ำได้แต่ห้ามจับดำน้ำนะครับดับแน่นอน
ขอลองใส่ดูหน่อยน้ำหนักเบาดีและดูแล้วยังไงก็เหมาะกับคนเริ่มต้นกับ Smart Band เพราะตัวรุ่น ZeFIT ออกแบบมาให้ผู้ใช้ที่อยากรู้ว่าตัวเองเดินไปกี่ก้าวแล้วใช้พลังงานกี่กิโลเคลลอรี่ มันจะเก็บค่าไว้ให้เราหมดเลย
ก็มีคนมาเรื่อยๆ เพื่อขอชมตัว Smart Watch ของ MyKhronoz ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mykronoz.com/collections/ หรือของทางบริษัท Thaiway ผู้นำเข้า MyKhronoz อย่างเป็นทางการพร้อมมีศูนย์บริการด้วยครับสอบถามข้อมูลการรับประกันสินค้าอยู่ที่ระยะ 1 ปีเต็ม
อีกรุ่นที่ต้องบอกว่าพอฟังข้อมูลแล้วถ้างบถึง 6 พันนี่น่าสอยซะจริงๆ เพราะรุ่นนี้จับดำลงน้ำได้ 1 เมตร คือรุ่น ZeSplash ส่วน Feature ก็มีเพิ่มมาจาก ZeFIT ไอตรงที่มันเป็น Smart Watch ไว้แจ้งเตือน (Nofiications) เช่นมีสายเข้า มี sms เข้าก็เตือนเราได้
สีขาวสวยๆ
สีขาวสวยจริงๆ ครับ
การชาร์ตก็ตามภาพจะเห็นว่ามีช่อง USB Port มาให้ในตัวเลย
ZeSplash สีดำเท่ห์มาก
ตัว ZeSplash นี้ทัชหน้าจอได้นครับ ราคาก็ 5,990 บาท
อีกรุ่นคือ ZeBracelet2 เป็นรุ่นที่ดีไซน์ออกมาสำหรับผู้หญิงเพราะรูปทรงเหมือนกำไลนั่นเอง
ด้านหลังของ ZeBracelet2
ตัวนี้เด็ดคือรุ่น ZeNano เหมาะสำหรับคนที่ชอบ Smart Watch แนว Phone Watch มากกว่าการออกกำลังกายแถมรองรับภาษาไทยด้วยสนนราคา 4,700 บาท
สุดท้ายของทุกงานและบทพาเดินเที่ยวตามงานแบบนี้ไม่พ้นคือการมีภาพ
ภาพพาเดินแบบสรุปๆ ก็หมดเท่านี้ครับต่อไปชม
Pretty Photo – ภาพสาวๆ เหล่าน้องๆ พริตตี้และ MC น่ารักๆ ที่คอยให้ความรู้สินค้าและดึงดูดผู้คนในงานขอบคุณน้องๆ ที่ให้ผมได้แชะถ่ายภาพนะครับ 😀
หากต้องการดูภาพแบบ Gallery คลิกดูต่อได้ที่นี่
บทสรุป
สำหรับงาน Thailand Mobile Expo 2014 ครั้งนี้จากการเดินทั่วๆ รอบๆ งานสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ คนส่วนใหญ่เริ่มมีความรู้เรื่อง Smart Phone มากขึ้นและมากขึ้นเพราะมันคือเรื่องใกล้ตัวมากๆ รวมไปถึงเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงและมันคือการเริ่มต้นของเทรนด์นั้นก็คือ Smart Watch กับ Smart Band ซึ่งผมผู้เขียนก็พาเดินชมเหมือนท่านไปเดินด้วยกับผมแต่ท่านผู้อ่านนั่งหน้าจอก็ได้บรรยากาศการชมแล้วไปในตัวก็ขอบคุณที่ติดตามอ่านและดูภาพจนจบครับ 🙂 เอาล่ะจบพอเท่านี้ขาดตกบกพร่องใดๆ ก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ครับทางผู้เขียนจะขอนำไปปรับปรุงในงานครั้งหน้ากับงาน Thailand Mobile Expo 2015” ครั้งที่ 20 มหกรรมโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศครั้งต่อไป ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 12 – 15 กุมภาพันธ์ 2558 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สวัสดี… #iReview.in.th