วันนี้ผมได้แวะไปเดินงาม Thailand Mobile Expo 2013 มาตามภาษาอากาศร้อน ๆ แล้วไม่อยากอยู่บ้าน ซึ่งในงานก็มีหลายตัวที่น่าสนใจมาจัดโปรโมชั่นเพื่อแข่งขันกัน อย่าง SAMSUNG Galaxy S4 ที่ลดราคาไม่ถึง 20,000.- หรือจะเป็น HTC One ที่ของแถมเพียบก็ตามแต่ สุดท้ายก็เดินเดินตะแล๊ดแต๊ดแต๋ไปเรื่อย ๆ จนออกจากฮอลล์ใหญ่ ไปเยี่ยมชมบูทเล็ก ๆ ดูบ้างก็เจอ Android รุ่นล่าง ๆ แข่งขันกันดุเดือนไม่แพ้รุ่นบน ๆ เลยทีเดียว
นี่คือโปรโมชั่นที่ผมเห็นแล้วตกใจมากกับ MEDIAS NEC-101S ซึ่งถ้าจำไม่ผิดเมื่อปีที่แล้วผมยังไปงานเปิดตัวของมันอยู่เลย เครื่องนึงก็ประมาณ 12,900 บาท (เปิดตัวราวเดือน 4 ปี 2555)
วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกเพียงชั่วเวลาปีกว่า ๆ เปลี่ยนมือถือราคา 12,900 บาท ให้เหลือเพียง 2,500 บาท (จริง ๆ คือ 4,990 บาท ซื้อ 1 แถม 1 แถมฟรีแบตเตอรี่เพิ่มอีกก้อนต่างหาก)
ตอนแรกผมก็ค่อนข้างที่จะสนใจ MEDIAS NEC-101S แต่พอคิดไปคิดมาแล้วมันเป็น Android 2.3 นี่หว่า! เอาไปเล่นขำ ๆ ก็พอเล่นได้แต่ App เดียวนี้ก็คงไม่รองรับกันหมดแล้วมั้ง ขืนซื้อไปใช้ Facebook หงุดหงิดตายเลย
เครื่องเดียวขายมั้ยครับน้อง?
ทีนี้ผมเลยเบนเข็มไปที่ ZTE Grand X V970M ที่สเปคดูไม่ขี้เหร่อะไร แต่ราคาจะแพงกว่านิดนึง (กันน้ำไม่ได้ด้วยเซ็ง) แต่มันติดอยู่ที่ว่าเครื่องมันราคา 5,900 บาท แถมเป็น MEDIAS NEC-101S ก็เลยลองต่อราคาเพื่อข้อซื้อเครื่องเดียวดู (ตอนแรกกะว่าคงไม่ได้หรอก เลยว่าจะยืนหน้าบูทขอจับคู่กับคนอื่นเอา – – v)
ปรากฎว่า
..
.
“เครื่องเดียวก็ขายครับ 3,500 บาท”
อืม … แล้วจะมีโปรโมชั่นไว้ทำมะเขืออะไร = =” แต่ช่างเถอะซื้อ ๆ ไปเดี๋ยวมันไม่ขายให้
สเปค ZTE Grand X V970M
ระบบปฏิบัติการ : Android 4.0 (Ice Cream Sandwich)
จอเเสดงผล : TFT LCD ความละเอียด 16 ล้านสี
ขนาดจอ : กว้าง 4.3 นิ้ว, ความละเอียด QHD 960×540 พิกเซล (240dpi)
CPU : 1Ghz Dual-Core MT6577
GPU : PowerVR SGZ 531
ROM : 4 GB
RAM : 1 GB
รองรับ MicroSD Card สูงสุด 32GB
กล้องดิจิตอล : กล้องหลักความละเอียด 5MP AutoFocus พร้อมแฟลช
รองรับการเชื่อมต่อ : MicroUSB v2.0
Bluetooth : Bluetooth 2.1 + EDR รองรับ A2DP ฟังเพลงผ่าน Bluetooth
Wifi : Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi hotspot
แบตเตอรี่ : Li-Ion 1600mAh
ขนาดตัวเครื่อง : ความยาว 128 มม. x ความกว้าง 67 มม. x ความบาง 9.9 มม.
น้ำหนัก : 138 กรัม
เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ : ระบบสัญญาณ (WCDMA/GSM)
2G GSM Quad Band (850/900/1800/1900MHz)
3G WCDMA/HSDPA (850/ 2100 MHz) Max 21Mbps
ZTE แบรนด์อะไร? ไม่เห็นรู้จัก
จริง ๆ แล้ว ZTE เป็นแบรนด์จากประเทศจีนครับ ที่ไม่ค่อยทำตลาดในประเทศไทยนัก (แต่ดันมีสำนักงานอยู่ในประเทศไทยตรง Empire Tower) ซึ่งเป็นแบรนด์ค่อนข้างมีชื่อเสียงระดับน้อง ๆ ของ Huawei เลยทีเดียว เนื่องจากเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 2 ของจีน รองจากหัวเหว่ย และผู้รับจ้างผลิตเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ รายใหญ่อันดับ 4 ของโลกเลยทีเดียว
แกะกล่อง
วัสดุทำจากพลาสติกทั้งเครื่อง (แหม … รู้สึกภูมิใจจัง SAMSUNG Galaxy S4 ก็ใช้พลาสติก) ตรงตำแหน่งกล้องไม่รู้ว่าเขาจงใจ มันเป็นดีไซน์ หรือทำงานเผาเหมือนผมสมัยเรียนมหาลัยหรือย่างไร ผมว่ามันดูแอบเบี้ยวนิด ๆ แต่ช่างเหอะยังพอรับได้ ทีปัญหาจับ iPhone 4 ไม่ถูกท่าแล้วสัญญาณดับยังไม่เห็นมีใครบ่นอะไร
ลำโพงมีสองข้างแต่จริง ๆ มันเจาะไว้หลอก ๆ ก็เหมือนกับ iPhone นั่นแหล่ะ โลกเรานี้ไม่มีอะไรแท้จริง ทีผู้หญิงแต่งหน้ากับล้างเครื่องสำอางยังออกมาเป็นคนละคนเลย (ก็ว่าไปนั่น – -*)
ปุ่มปรับเสียงอยู่ด้านข้าง กดถนัดมือดีทดลอง QC แล้วผ่าน ส่วนช่องเสียง Micro USB จะอยู่ด้านล่างลงมา
ด้านบนหัวเครื่องเป็นปุ่มสำหรับล็อคและปิดเครื่อง ซึ่งผมว่ามันดูหลวม ๆ ไปหน่อย ส่วนแจ็คหูฟังก็ทำออกมาได้ตำแหน่งดีและสวยดีครับ (แต่ล่าสุดรู้สึกเหมือนท่านศาสดา Apple จะบอกให้ไว้ข้างล่างนะ)
ใส่ได้สองซิม ตรงนี้สำคัญมากใครซื้อขอให้อ่านก่อน
ตัวเครื่องใส่ได้สองซิม – จริง, แล้วก็รองรับ 3G – จริง แต่ถ้าใครจะซื้อรบกวนอ่านตรงนี้จิ๊ดนึง เพราะผมเห็นคนเข้าใจผิดกันเยอะมาก
- ใส่ได้สองซิม สามารถรอรับสายและโทรได้ทั้งสองซิม
- ถ้าหากกำลังโทรซิมใดซิมหนึ่งอยู่ อีกซิมจะตัดสัญญาณเป็น “สายไม่ว่าง”
- ช่องใส่ซิมสำหรับใช้ 3G มีแค่ช่องเดียว (บางรุ่นจะรองรับทั้งสองช่อง)
- และ 3G ที่ว่านั่นรองรับแค่ความถี่ 850/2100 Mhz (ใช้ได้ทุกเครือข่ายยกเว้น AIS 3G เก่า)
แบตเตอรี่ขนาด 1600mAh เพียงพอสำหรับการใช้งานทั้งวัน เพราะเครื่องก็ไม่ค่อยได้สูบแบตเตอรี่อะไรนัก
ความหนาของเครื่องเมื่อเทียบกับเหรียญบาท หรือก็คือ 9.9 มิลลิเมตร
จับแล้วกระชับถนัดมือดีครับ ให้อารมณ์รู้สึกเหมือนกับ Motorola Atrix
อุปกรณ์ที่แถมมากับเครื่องครับ ก็จะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานมีที่ชาร์จ 5V/700mA, สาย Micro USB, หูฟังเน่า ๆ อีกหนึ่งอันครับ สายย้วยมาก ๆ ครับจับไปแล้วกลัวมันจะขาดไป (ทิ้งแล้วซื้อใหม่เถอะ มันกะโหลกจริง ๆ นะ)
UI ZTE Grand X V970M
ก็เป็นแบบเรียบ ๆ ธรรมดาเหมือนกับเครื่องจีนทั่วไปครับ ไม่ได้มีอะไรหวือหวาเหมือนแบรนด์หลักอย่าง HTC, LG, SAMSUNG เท่าไหร่นัก ซึ่งจะว่าไปแล้วผมว่า OPPO ทำได้ดีกว่าอีกนะ งานนี้คงต้องเทียบกับ i-mobile อะไรแบบนี้มากกว่า
Multitouch ZTE Grand X V970M
ผลทดสอบจาก Multitouch สามารถใช้งานได้ถึง 5 นิ้วด้วยกัน แต่จริง ๆ พอใช้ 4 นิ้วก็เริ่มจะรวน ๆ แล้ว พอลากนิ้วตัดผ่านกันดูเหมือนว่ามันจะไม่ค่อยนิ่งนัก แต่ก็ไม่ได้หน่วงอะไรมากนักเพราะผมเคยผ่าน Wellcom A99 ที่ Multitouch 2 นิ้ว (แบบเน่า ๆ) มาแล้ว ยอมรับว่าตอนนั้นโมโหมากเพราะซื้อตามกระแสใน Pantip ซึ่ง Blogger ที่รีวิวไม่เคยมีใครพูดถึงจุดนี้เลย (เรื่องมันผ่านมานานแล้วช่างมันเถอะ)
สำหรับ ZTE Grand X V970M มาพร้อมกับ Android 4.0.4 แถมแพอีกหนึ่งอัน (คงไม่มีใครออกอัพเดทให้แล้ว) แต่ทีนี้ไม่ใช่ปัญหาเพราะว่ามันสามารถ Root เครื่องได้ และ ROM ต่างประเทศสามารถอัพได้ถึง Android 4.1 แน่ะ (ถ้ามีคนสนใจเดี๋ยวผมจะสอนวิธีทำง่าย ๆ ให้อีกทีครับ)
Benchmark ZTE Grand X V970M
ตัวนี้ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark v3.3 ได้คะแนนไป 6001 คะแนน น้อยกว่าที่คิดไปเยอะเลย ตอนแรกคิดว่าน่าจะได้ซัก 8000-9000 ซะอีก แต่ไม่เป็นไรครับคะแนนเป็นเพียงแค่ตัวเลข ถ้าใช้งานแล้วมันตอบโจทย์เราได้ก็โอเคอยู่
VDO Review ZTE Grand X V970M
ทดสอบการใช้งานพื้นฐาน รวมถึงดูทรง ZTE Grand X V970M โดยรวมครับ
ทดสอบถ่ายภาพดูก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี หากว่าถ่ายในที่ ๆ มีแสงค่อนข้างมาก แต่ถ้าหากถ่ายในที่แสงน้อยแล้วดูไม่ค่อยเป็นสับปะรดเลยทีเดียว แต่ที่ประทับใจคือความเร็วชัตเตอร์อยู่ที่เกณฑ์ที่ค่อนข้างดีมากสำหรับเครื่องราคานี้ บางรุ่นถ่าย 10 รูปเบลอซัก 8 รูปเพราะชัตเตอร์ช้าก็มี
ข้อดี
- ราคาถูก ประกันศูนย์ SiS
- ใส่ได้สองซิม
- รูทได้และมีรอมต่างประเทศรองรับ
- สเปคเกินราคา
- แบตเตอรี่อยู่ได้ทั้งวัน
ข้อสังเกต
- หน้าจอไม่สู้แสงนัก
- ไม่มีกล้องหน้า
- ใช้ 3G ได้แค่ซิมเดียว
สรุป
เป็นมือถือขวัญใจคนจนอีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว (แต่เหนื่อยหน่อยถ้าอยากรูทหรืออัพรอม) ผมไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่ามันเป็นมือถือที่ดี แต่ถ้าพูดถึงราคาแค่ 3,500 บาท แล้วได้เครื่องสเปคแบบนี้ก็ถือว่าคุ้มมากพอสมควรครับ ลองคิดดูแล้วกันว่าตอนนี้ราคา 3,500 บาท หา Android ตัวไหนดี ๆ ได้บ้าง?