fbpx
Review Mobile

รีวิว vivo Y76 5G สนุกขั้นสุดในทุกเกม งบไม่เกิน 10,000 บาท

วีโว่เปิดขายสมาร์ตโฟนเล่นเกมงบไม่เกิน 10,000 บาท

1500

แนะนำสมาร์ตโฟน vivo Y76 5G สำหรับเล่นเกมด้วยงบไม่ถึงหมื่น รองรับการใช้งาน 5G ทั้งสองซิม มาพร้อมกับ 8 GB RAM + 4 GB Extended RAM และระบบชาร์จไว 44W มีหน้าจอใหญ่ตอบโจทย์สำหรับสายเล่นเกม อีกทั้งยังมาพร้อมกับกล้องที่คุณภาพเกินตัวถึง 50 MP ได้ทุกอย่างครบถ้วนจบในเครื่องเดียว

vivo Y76 5G | Mobile Legends Bang Bang
vivo Y76 5G | Mobile Legends Bang Bang

vivo Y76 5G | Mobile Legends Bang Bang

การเปิดตัวของ vivo Y76 5G มาพร้อมกับการโปรโมทร่วมกับเกม Mobile Legends Bang Bang สะท้อนให้เห็นแล้วว่ารุ่นนี้ “สนุกขั้นสุดในทุกเกม” และออกแบบมาเพื่อเล่นเกมจริง ๆ โดยมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 9,999 บาท ก็ถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางเอียงไปทางด้านราคาค่อนข้างถูก เหมาะกับกำลังซื้อวัยรุ่นเป็นอย่างยิ่ง

สเปกและคุณสมบัติ

  • ระบบปฏิบัติการ Android 11 (ครอบทับด้วย Funtouch OS 12)
  • หน้าจอ LCD ขนาด 6.58″ Full HD+ (ความละเอียด 1080 x 2408 พิกเซล)
  • หน่วยประมวลผล Mediatek Dimensity 700
  • แรม 8 GB
  • รอม 128 GB (รองรับ microSD)
  • กล้องหลังแบบ 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช LED
    • กล้องหลัก 50 MP (F/1.8)
    • กล้องมาโคร 2 MP (F/2.4)
    • กล้องโบเก้ 2 MP (F/2.4)
  • กล้องหน้า 16 MP (F/2.0)
  • รองรับสองซิม 5G
  • รองรับ Bluetooth 5.1, Wi-Fi 5 GHz
  • แบตเตอรี่ 4,100 mAh (รองรับชาร์จเร็ว 44W FlashCharge)
  • ขนาด 163.84 × 75 × 7.79 มม.
  • น้ำหนัก 175 กรัม

ปกติแล้วการแบ่งซีรีย์ของวีโว่จะเอารุ่นสเปกอยู่ไปอยู่ในตระกูล V Series ทำให้หลายคนคิดว่า vivo Y76 5G ที่อยู่ในตระกูล Y Series จะไม่ตอบโจทย์ แต่ต้องขอบอกเลยว่าถึงแม้รุ่นนี้จะอยู่ในตระกูล Y Series แต่สเปกอยู่ในระดับบน ๆ จะไม่ใช้งานแล้วไม่รู้สึกหน่วงเหมือนพวกเครื่องราคาไม่กี่พันบาท ข้อดีก็คือราคาถูกมาก

การออกแบบ

ตัวเครื่องถึงแม้ว่าจะราคาไม่สูง แต่ก็ยังเรียบหรูดูแพงตามแบบฉบับวีโว่ ความบางขอบจอเพียงแค่ 2.8 มม. ไปจนถึงฝาหลังแบบ 3D ทุกรายละเอียดได้รับการออกแบบมาอย่างปราณีต เพื่อให้พอดีกับฝ่ามือของคุณอย่างสวยงาม ฝาหลังเป็นแบบด้านจับแล้วไม่มีรอยนิ้วมือให้กวนใจ ส่วนสีมีให้เลือกเป็น Cosmic Aurora (ตัวที่รีวิว) และ Moonlight Space โดยสีจะเปลี่ยนไปตามแสงที่กระทบ

ด้านหลังจะเป็นการวางกล้องเหมือนเป็นสองเลนส์ (แต่ความจริงแล้วมีสามเลนส์) ประกอบไปด้วยเลนส์หลัก, เลนส์มาโครและเลนส์โบเก้ วางในรูปแบบโมดูลที่มีความเหลี่ยม รวมถึงมีการยกระดับจากตัวเครื่องปกติสองชั้นเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าใครไม่ชอบใส่เคสไปตรงนี้จะเรียบเนียนพอดีกัน และเครื่องด้านจึงไม่มีลายนิ้วมือ

ที่ชอบคือด้านฝาหลังเป็นแบบ 3D จับได้ถนัดกระชับมือ มีการออกแบบเสาอากาศรอบทิศทาง ทำให้ถือเล่นเกมแบบไหนสัญญาณก็ยังคงไม่ตก ส่วนตัวเครื่องบาง 7.79 มม. ก็ถือว่าใช้ได้เลยกับช่วงราคาประมาณนี้ น้ำหนัก 175 กรัม ถือเล่นได้นานไม่เมื่อยมือ สแกนนิ้วมือข้างจอปุ่มเดียวกับเปิดเครื่อง สุดท้ายคือยังมีช่องหูฟัง 3.5 มม.

หน้าจอ

หน้าจอมาพร้อมกับขนาด 6.58″ เล่นเกมหรือดูหนังได้แบบจุใจกับความละเอียด FHD+ ซึ่งก็มีข้อมีตรงที่ไม่กินทรัพยากรเครื่องและแบตเตอรี่ มีขอบจอบางเพียงแค่ 2.8 มม. ทำให้สัดส่วนหน้าจออยู่ที่ 90.6% สามารถแสดงผลได้อย่างเกือบเต็มหน้าจอ ส่วนรุ่นนี้ไม่มีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และมีกล้องหน้าเป็นรูปแบบหยดน้ำ

สำหรับการเล่นเกมความเร็วเน็ตเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง รุ่นนี้ออกแบบมาให้รองรับ 5G ทั้งสองซิม ส่วนการเชื่อมต่อ WiFi รองรับความถี่ 5Ghz ส่วนการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.1 สามารถใช้ร่วมกับหูฟังอย่าง vivo TWS 2 ANC เพื่อลดดีเลย์เสียงระหว่างเล่นเกม หรือใครชินหูฟัง 3.5 มม. แบบเก่าก็เชื่อมต่อได้เช่นกัน

ประสิทธิภาพ

ตัวเครื่องมาพร้อมกับชิป Mediatek Dimensity 700 ที่ถือว่าแรงดีระดับหนึ่งเลยทีเดียว สามารถเล่นเกมได้อย่างยาวโดยเครื่องไม่ร้อน นอกจากนี้ยังมี 8 GB RAM + 4 GB Extended RAM หมายความว่าถ้า RAM ไม่พอก็สามารถยืม ROM มาเพิ่มได้ ส่วนหน่วยความจำเป็นแบบ UFS 2.2 ความเร็วกำลังดี

เท่าที่ได้ลองสัมผัส 5G (SA/NSA) ก็สามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว แต่ประโยชน์จริง ๆ ที่ได้ของเกมเมอร์น่าจะเป็นลดค่า Ping หรือดีเลย์ระหว่างเล่นเกมมากกว่า ส่วนการใช้งานพื้นฐานอย่าง GPS ก็สามารถจับได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว หากใครเอามาเป็นแผนที่ขับรถหรือวิ่งงาน Delivery ก็วางใจได้ว่าจะไม่เจอปัญหา

กล้องหลัง

แม้ว่ารุ่นนี้จะเน้นไปที่เล่นเกมเป็นพิเศษ แต่ความที่เป็นวีโว่เรื่องกล้องนั้นเป็นหนึ่งอยู่แล้ว มาพร้อมกับกล้องหลักความละเอียด 50 MP สามารถทำงานร่วมกับกล้องโบเก้ 2 MP ได้เป็นอย่างดี เหมาะกับการใช้ถ่ายรูปคนเป็นอย่างยิ่ง ส่วนอีกเลนส์ที่แถมมาเป็นมาโคร 2 MP ซึ่งยอมรับตามตรงว่าไม่ค่อยได้ใช้งานเท่าไหร่ (แต่มีติดไว้ก็ดี)

กล้องหลังขนาดยังไม่เปิดโหมดโบเก้ ยังให้ความสวยงามและมีการละลายหลังอยู่เล็กน้อย ส่วนเรื่องการซูมดิจิทัลมีตั้งแต่ 2-10 เท่า เนื่องจากกล้องความละเอียดสูงทำให้ต้นฉบับชัด สามารถทำการซูมหรือตัดได้เยอะพอสมควร เรื่องสีสันและพื้นผิวไม่ต้องห่วงวีโว่ทำออกมาได้ขั้นเทพอยู่แล้ว ไม่ต้องถ่ายภาพเก่งก็สวยได้

กล้องโบเก้

หากเปิดโหมดโบเก้จะมีกล้องตัวที่สองช่วยในการถ่ายภาพทันที สำหรับกล้องโบเก้ตัวนี้ไม่ได้ใช้สำหรับถ่ายภาพโดยตรง แต่จะเป็นการช่วยถ่ายกับกล้องหลัก เพื่อวัดระยะพื้นหลังกับแบบออกจากกัน ส่งผลทำให้ได้ภาพชัดตื้น (ละลายหลัง) ที่เรียบเนียนเป็นธรรมชาติเหมือนกับใช้กล้องใหญ่ ใครชอบถ่ายภาพบุคคลอันนี้ห้ามพลาด

กล้องมาโคร

ยอมรับตามตรงว่ากล้องนี้เราไม่ค่อยได้ใช้กันเท่าไหร่ และด้วยความละเอียดกับรูรับแสงของมันก็ไม่ได้สูงมากด้วย แต่พอใช้งานจริงก็สามารถถ่ายดอกไม้ใบหญ้าออกมาได้ สร้างมุมมองที่แตกต่างจากเลนส์ทั่วไป จากภาพด้านบนจะเห็นได้ว่าเราสามารถรับรู้ได้ถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อยู่บนต้นคริสต์มาส รวมถึงเกษรของดอกไม้

กล้องหลังกลางคืน

ถึงแม้ว่าจะอยู่ใน Y Series แต่กล้องหลังก็เทียบเท่า V Series เลยทีเดียว (คุ้มมาก) ด้วยความละเอียดสูงและรูรับแสงกว้าง 50 MP (F/1.8) รวมถึงมี Night Mode ทำให้ถ่ายกลางคืนได้สบายมาก ระบบของตัวกล้องสามารถจัดการกับแสงและเงาได้เป็นอย่างดี ลองถ่ายกลางคืนทำให้รู้สึกเลยว่ากล้องตัวนี้ทำออกมาได้ไม่ธรรมดา

กล้องหน้า

ในส่วนของกล้องหลังทำได้ดีมาก สำหรับกล้องหน้าหน้าจะลดลงมาหน่อย ความละเอียด 16 MP (F/2.0) สามารถถ่ายเซลฟี่ได้สวยประมาณนึง แต่ยังไม่เทียบเท่ากับรุ่น V Series ในส่วนของฟีเจอร์ก็ให้มาครบถ้วนสมบูรณ์แบบตั้งแต่ AI Face Beauty และ Smart Softlight Band รวมถึง AI Extreme Night Selfie

กล้องหน้ากลางคืน

การเปิด Smart Softlight Band ช่วยให้หน้าจอสว่างแม้จะไม่มีแฟลช (ใช้แสงจากหน้าจอ) ส่วนเรื่อง AI Extreme Night Selfie จะปรับแต่งภาพให้โดยอัตโนมัติเมื่อแสงไม่พอ ช่วยให้การถ่ายภาพกลางคืนเป็นเรื่องง่ายแม้จะไม่มีแฟลชหรือขาตั้งกล้อง ช่วยให้ได้ภาพกลางคืนที่สมบูรณ์แบบ สวยกันแบบไม่ต้องง้อแสงไฟ

วิดีโอ

ในเรื่องวิดีโอรุ่นนี้อาจไม่เด่นมาก รองรับการถ่ายเพียง 1080P 60FPS (Full HD) แต่ก็ยังมาพร้อมกับระบบกันสั่น Ultra Stable Video ช่วยลดการสั่นไหวระหว่างเดินหรือวิ่ง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ Dual-ViewVideo การบันทึกวิดีโอทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังได้พร้อมกัน เหมาะสำหรับการถ่ายทำ Vlog ก็พอได้อยู่

ข้อดี

  1. เล่นเกมดีมาก ใช้นานเครื่องไม่ร้อน
  2. ชาร์จเร็ว 44W FlashCharge
  3. เล่นเกมลื่น 8GB RAM + 4 GB Extended RAM
  4. รองรับ 5G (NSA/SA Mode + Dual SIM)

ข้อเสีย

  1. หน้าจอยังคงเป็น 60Hz
  2. มีให้เลือกสเปกเดียว 2 สี

สรุป

ราคาเพียงแค่ 9,999 บาท ทำให้ตัดสินใจซื้อ vivo Y76 5G ได้อย่างไม่ยากนัก มีหน่วยประมวลผล Mediatek Dimensity 700 และ 8 GB RAM + 4 GB Extended RAM พร้อมกับระบบระบายความร้อนที่ดี ทำให้เล่นเกมได้ต่อเนื่องแบบเครื่องไม่ร้อน ชาร์จเร็วทันใจวัยรุ่นด้วย 44W FlashCharge สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดและอยากได้สมาร์ตโฟนเล่นเกมสักเครื่อง ด้วยสเปกทั้งหลายทั้งมวลที่กล่าวมาน่าจะตอบโจทย์การใช้งาน

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial

REVIEW OVERVIEW
การออกแบบ
ใช้งานจริง
ความคุ้มค่า
คุณภาพวัสดุ
บริการหลังการขาย
Previous articleDJI เปิดร้าน Experience Store แห่งแรกในประเทศไทย
Next articleรีวิว Shika Izakaya ร้านกินดื่มสนุกเน้นใกล้ชิดลูกค้า ห้วยขวาง-เหม่งจ๋าย
review-vivo-y76-5gเปิดตัวราคาดีรองรับ 5G งานประกอบและดีไซน์ดูดีเกินตัว สำหรับคนชอบเล่นเกมน่าจะชอบที่ใช้งานแล้วเครื่องไม่ร้อน (มีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวพิเศษ) ด้วยชิปก็ถือว่าไม่ได้ขี้เหร่อะไรมากนัก การใช้ RAM มีให้แบบเหลือเฟือ และถ้าหากไม่พอก็ยังสามารถไปยืม ROM มาเพิ่มได้อีก