สมาร์ตโฟน 5G ปีนี้วีโว่ได้ส่ง vivo Y72 5G มาในราคาไม่ถึงหมื่นบาท แต่ถ้ายังราคาสูงเกินไป vivo Y52 5G ก็น่าสนใจด้วยราคาเพียง 7,999 บาท แถมยังมีการทำโปร AIS เปิดเบอร์ใหม่เหลือเพียง 1,489 บาท นับเป็นเครื่อง 5G ที่คุ้มค่าราคาประหยัดเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังได้กล้อง 48 MP และแบตเตอรี่ 5,000 mAh

vivo Y52 5G

ตัวเครื่อง vivo Y52 5G แม้ว่าจะอยู่ในตระกูล Y ที่เน้นราคาประหยัด แต่ก็ทำเครื่องออกมาได้น่าสนใจ จุดเด่นแรกเลยก็คือการรองรับ 5G (ตามชื่อของมัน) ตามด้วยสีสันของตัวเครื่องที่เน้นความสดใส ถึงแม้วัสดุจะเป็นพลาสติกแต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความหนักแน่น งานประกอบเครื่องอยู่ในระดับดีเยี่ยมไม่แพ้เครื่องคู่แข่ง ราคา 7,999 บาท ทำให้สามารถตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก และยิ่งบวกกับการทำโปรโมชั่นกับ AIS ทำให้คนตัดสินใจมาใช้งาน 5G ได้แบบไม่ต้องกังวลอะไรนัก

สเปกและคุณสมบัติ

  • ระบบปฏิบัติการ Android 11 (ครอบทับด้วย Funtouch OS 11)
  • หน้าจอ IPS ขนาด 6.58″ Full HD+ (ความละเอียด 1080 x 2480 พิกเซล)
  • หน่วยประมวลผล MediaTek MT6833 Dimensity 700 5G
  • แรม 4 GB
  • รอม 128 GB (รองรับ microSD)
  • กล้องหลังแบบ 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช LED
    • กล้องหลัก 48 MP (F/1.79)
    • กล้องโบเก้ 2 MP (F/2.4)
    • กล้องมาโคร 2 MP (F/2.4)
  • กล้องหน้า 8 MP (F/2.0)
  • รองรับสองซิม (ไม่แชร์ร่วมกับ microSD)
  • ระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้างหน้าจอ
  • แบตเตอรี่ 5,000 mAh (รองรับชาร์จเร็ว 18W FlashCharge)
  • ขนาด 163.95 × 75.3 × 8.5 มม.
  • น้ำหนัก 193 กรัม

สเปกตัวเครื่องว่ากันตามตรงคล้ายกับ vivo Y72 5G เพียงแต่มีการตัดสเปกบางอย่างลงเช่น RAM และกล้อง นอกจากนั้นในเรื่องของขนาดตัวเครื่องและน้ำหนัก ก็แทบจะถอดพิมพ์เดียวกันมาเลย ข้อดีก็คือการทำแบบนี้คือวีโว่จึงสามารถขาย vivo Y52 5G ได้ถูกลงนั่นเอง ขยายโอกาสให้คนสามารถเป็นเจ้าของกันได้ง่ายมากขึ้น ด้วยราคาเพียงแค่ไม่กี่พันบาท ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์ใช้งาน 5G ที่แสนจะทันสมัยได้แล้ว และการทำโปรโมชั่นร่วมกับ AIS ยิ่งทำให้มันดูมีความน่าสนใจมากขึ้น

ทำไมต้องใช้ 5G

หลายคนอาจคิดว่า 4G แบบเดิมก็เร็วเพียงพอกับความต้องการอยู่แล้ว ไม่ได้ต้องการความเร็วระดับ 5G ไปทำอะไร (ซึ่งมันก็ถูกครึ่งนึง) แต่ความจริงก็คือการใช้งาน 5G ให้ความเร็วไม่ต่างจาก Wi-Fi ที่ใช้กันตามบ้าน (บางทีอาจเร็วกว่าด้วยซ้ำ) มีข้อดีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นอัตราตอบสนองที่เร็วกว่า เช่นเล่นเกมแล้วได้ค่า Ping ที่ต่ำกว่า หรืออยู่กลางพื้นที่แออัด 5G จะรับสัญญาณได้ดีกว่า 4G เป็นต้น

กล้องหลังสามเลนส์

ถึงแม้ว่ากล้องจะมีการลดสเปกลงตามราคาเหลือ 48 MP (F/1.79) แต่ความละเอียดก็เพียงพอสำหรับการใช้งาน รูรับแสงที่กว้างพร้อมฟังก์ชันการประมวลผลภาพ ช่วยให้ได้ภาพที่สมบูรณ์ทั้งกลางวันและกลางการ มีกล้องโบเก้เพื่อช่วยละลายฉากหลัง 2 MP (F/2.4) ทำให้ออกมาได้ฉลาดและเนียนมาก ส่วนกล้องมาโคร 2 MP (F/2.4) ยอมรับตามตรงว่าไม่ค่อยได้ใช้งานเท่าไหร่ ก็เรียกว่าเป็นกล้องแถมเอาไว้ถ่ายรูปเล่นสนุก ๆ ก็แล้วกัน

ด้วยราคาทำให้ไม่มีกล้องซูมและกล้องมุมกว้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ประมาณหนึ่ง แต่หากใครต้องการขยายภาพก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะด้วยความละเอียดพิกเซล 48 MP ช่วยให้สามารถดิจิทัลซูมได้แบบเหลือ ๆ นอกจากนี้กล้องหน้า 8 MP (F/2.0) ก็ยังคงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ถ่ายแล้วหน้าเนียนไม่หลอกไม่ลอย ตามสไตล์ของกล้องเซลฟี่วีโว่อันเลื่องชื่อ สามารถปรับละลายหลัง (โบเก้) ผ่านประสิทธิภาพของ AI ในการช่วยแยกฉากหลัง

การถ่ายรูปก็จะเป็นไปตามสไตล์ของวีโว่ คือมีลูกเล่นและฟิลเตอร์ให้ได้ใช้งานมากมาย ส่วนกล้องหน้าก็สามารถปรับหน้าเนียนได้ละเอียดยิบ แต่สิ่งที่เพิ่มเติมมาก็คือ Super Night Mode สำหรับถ่ายตอนกลางคืนโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังสามารถโฟกัสดวงตาได้ผ่าน Eye Autofocus ช่วยให้ภาพไม่หลุดโฟกัส ส่วนคนที่ชอบถ่ายวิดีโอวีโว่ก็ได้เพิ่มระบบกันสั่น EIS มาให้ด้วยทำให้วิดีโอที่ได้มีความนิ่งมากยิ่งขึ้น ถือเดินถ่ายแล้วกล้องไม่สั่น

ภาพจากกล้องหลัง

การถ่ายรูปบุคคลด้วยความละเอียด 48 MP สามารถทำได้แบบคมชัด มีรูรับแสงที่กว้างถึง F/1.79 ทำให้เก็บภาพได้สว่างทั้งในอาคารและที่มืด (แต่ต้องไม่มืดสนิทนะ) การโฟกัสของตัวกล้องอยู่ในระดับค่อนข้างเร็ว มีโหมดสำหรับถ่ายภาพบุคคลแยกให้ต่างหาก ทำให้สามารถปรับละลายหลังได้อย่างเนียนด้วยพลังกล้องโบเก้

การถ่ายรูปแบบหน้าชัดหลังเบลอ (ชัดตื้น) สามารถทำได้โดยมีกล้องโบเก้ความละเอียด 2 MP มาช่วยในการแยกพื้นหลัง สามารถปรับได้ตั้งแต่ F/0.95-16 เพื่อให้สามารถเบลอมากน้อยได้ตามต้องการ ตรงนี้ด้วยความที่เป็นรุ่นราคาไม่แพงมาก ก็ต้องใช้ฝีมือถ่ายนิดนึง เพราะการละลายหลังบางครั้งก็ยังมีหลุดบ้างเหมือนกัน

และเพราะว่ามี Super Night Mode ทำให้การถ่ายรูปตอนกลางคืนเป็นเรื่องน่าสนุก ภาพที่ได้จะมีการปรับภาพออกมาให้คมชัด แสงที่ถ่ายออกมาได้ไม่ฟุ้งแลดูเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์สนุกให้เล่นอย่าง Stylish Night Filters ให้เลือก 4 แบบ ทั้ง ดำและทอง, น้ำแข็งสีฟ้า, ส้มเขียวและไซเบอร์พั้ง

ภาพจากกล้องหน้า

กล้องหน้าความละเอียด 8 MP ความละเอียดไม่เยอะมาก แต่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป (ไม่เชื่อดูภาพตัวอย่าง) และในแบรนด์วีโว่เองก็มีจุดเด่นอยู่ตรงที่การเซลฟี่อยู่แล้ว สามารถปรับระดับความเนียนของหน้า (Beauty Mode) ได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเติมส่วนที่อยากเพิ่ม หรือลดส่วนที่อยากให้เล็กลง แล้วก็ปรับผิวให้เนียนได้แบบไม่หลอกตา

หน้าจอใหญ่สะใจ

หน้าจอแสดงผลเป็น IPS ขนาดใหญ่ 6.58″ ความละเอียด Full HD (1080 x 2480) ให้ความสว่างกำลังดี ถึงจะไม่ได้เป็น AMOLED (ซึ่งด้วยราคาเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว) แต่กับหน้าจอ IPS LCD แต่การใช้งานทั่วไปก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไร นอกจากนี้ยังได้เรื่องประหยัดพลังงาน และไม่กินสเปกเครื่องเท่าไหร่นัก เนื่องจากความละเอียดหน้าจอที่ไม่ได้สูงเกินความจำเป็นนั่นเอง ส่วนกล้องเป็นแบบหยดน้ำใช้งานแล้วสบายตา ไม่บดบังรายละเอียดหน้าจอ

ตัวเครื่องดีไซน์แบบ 3D ขอบตัวเครื่องบางเพียง 2.75 มม. น้ำหนักขนาดถือแล้วไม่หนักมือ 193 กรัม ขอบด้านข้างดูคล้ายกับโลหะช่วยให้เครื่องมีมิติมากยิ่งขึ้น ส่วนสีมีให้เลือกทั้งหมด 2 เฉด ได้แก่ Dream Glow (ตัวที่รีวิว) พื้นผิวมันวาวเปล่งประกาย หลากหลายมิติ และอีกสีหนึ่งก็คือ Graphite Black ที่จะสุภาพขึ้นมาหน่อย ได้แรงบันดาลใจจากพื้นผิวประกายราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืน แต่โดยส่วนตัวผู้เขียนรีวิวชอบสี Dream Glow มากกว่า

แบตเตอรี่อึดและชาร์จเร็ว

ดูหนังทั้งวันก็ไม่หวั่นเพราะตัวเครื่องมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 5,000mAh สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน และยิ่งเป็นเครื่องที่ใช้งาน 5G ยิ่งจำเป็นต้องมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่พิเศษ เพราะการใช้งาน 5G ค่อนข้างใช้ทรัพยากรสูงกว่า 4G หรือ Wi-Fi นอกจากนี้ยังมีโหมดประหยัดพลังงานให้ได้ใช้งาน และหากแบตเตอรี่หมดก็สามารถชาร์จผ่าน 18W FlashCharge ที่มาพร้อมกับอะแดปเตอร์ในกล่อง ส่วนการชาร์จนั้นจะผ่านพอร์ต USB-C

ประสิทธิภาพ

การใช้งานทั่วไปไม่มีปัญหา ส่วนการเล่นเกมผ่านชิปเซ็ต MediaTek MT6833 Dimensity 700 5G ตัวนี้ไม่ได้เร็วเท่ากับรุ่นราคาหลักหมื่นทั้งหลาย แต่ก็ยังพอสามารถใช้เล่นเกมยอดนิยมใน Play Store ได้อย่างไม่ติดขัด ส่วนเรื่อง RAM 4 GB/ROM 128 GB จึงจำเป็นต้องจัดสรรทรัพยากรให้ดีหน่อย ซึ่งทางวีโว่เองก็มีเครื่องมืออย่าง Ultra Game Mode มาคอยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมด้วยอีกทาง

ลำโพงดังสะใจ

ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Super Linear Speaker รุ่น 1612 ที่ให้เสียงสูงที่ชัดเจน ให้เสียงกลางที่นุ่มนวลและเสียงเบสที่หนักแน่น ทำให้ปริมาณและคุณภาพเสียงเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นอกจากนี้ยังมาพร้อมเอฟเฟกต์เสียง Speaker Boost 3.0 ให้เสียงราวกับอยู่ในฉากภาพยนตร์ เพลิดเพลินไปกับการรับชมมากขึ้น มีการออกแบบที่รองรับลำโพงด้วยโลหะทั้งหมด และเพิ่มระดับเสียงขึ้นได้อีก 50% สูงสุดถึง 92 dB

ในการใช้งานจริงเหมาะกับคนที่อยากได้สมาร์ตโฟน 5G ในราคาไม่แพงจนเกินไป ตัวเครื่องสามารถใช้งานคุณสมบัติพื้นฐานได้อย่างครบถ้วน การได้หน้าจอที่ใหญ่พร้อมกับแบตเตอรี่ที่อึดเป็นอะไรที่คนส่วนใหญ่ต้องการ ถึงแม้ว่าสเปกจะไม่ได้สูงอะไรมาก แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป อย่างลื่นไหลและฟังเพลงสนุก

ข้อดี

  1. 5G รองรับทั้ง SA และ NSA
  2. กล้องหลังความละเอียด 48 MP
  3. แบตเตอรี่อึด 5,000 mAh
  4. รองรับชาร์จเร็ว 18W FlashCharge

ข้อเสีย

  1. เพราะรองรับ 5G ราคาจึงสูงขึ้นเล็กน้อย
  2. หน้าจอยังเป็น IPS LCD แบบเดิม

สรุป

ถ้าหากคุณมองว่า vivo Y72 5G ราคายังแพงเกินไป เราขอแนะนำเป็น vivo Y52 5G ที่มีราคาถูกกว่าสองพันบาท แต่ก็ยังสัมผัสกับประสบการณ์ 5G ได้เหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นร่วมกับ AIS ทำให้ราคาเครื่องยิ่งถูกเข้าไปอีก ส่วนตัวผู้รีวิวมองว่านี่แหละ คือโอกาสในการเปลี่ยนถ่ายมายุค 5G ที่แท้จริง

Vivo Y52 5G สมาร์ทโฟน 5G ที่ราคาดีที่สุด คุ้มที่สุด เริ่มเพียง 1,489.- ผ่อนสบายกับ AIS Smart Pay 0% นานสูงสุด 10 เดือน พิเศษสุด ลูกค้า AIS รับสิทธิ์ สมัครล่วงหน้า Disney+ Hotstar ได้ในราคาเดือนละ 35 บาท (รับสิทธิ์ได้ถึง 27 มิ.ย. 64 เท่านั้น) Vivo Y52 5G ซื้อได้ที่ AIS เท่านั้น ทั้ง AIS Shop และ Telewiz หรือจะช็อปอยู่บ้านที่ AIS Online Store และ Line @AISShop ก็ส่งฟรี!

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial