สมาร์ทโฟนจอไร้ขอบ ในปัจจุบันก็มีหลากหลายแบรนด์ แต่ราคาค่อนข้างสูง Vernee Mix 2 จึงเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่งบไม่ถึงพอที่จะเลือก Xiaomi Mi Mix 2, Essential Phone หรือ iPhone X แต่แบรนด์ที่หลายคนไม่คุ้นหูนี้จะทำออกมาได้ดีแค่ไหน เราคงต้องไปดูรีวิวกันอีกที
Vernee Mix 2
หากคุณไม่คุ้นก็คงไม่ต้องแปลกใจสักเท่าไหร่ เพราะว่า Vernee เป็นแบรนด์จีนที่ทำตลาดในประเทศเท่านั้น (ข่าวดีก็คือคุณสามารถสั่งจาก GearBest ให้มาส่งไทยได้ในราคาประมาณห้าพันบาท) และจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือสมาร์ทโฟนเต็มหน้าจอ Bezel-Less 2.0 ที่น่าจะราคาถูกที่สุดเท่าที่จะหาได้แล้วตอนนี้
การสั่งจาก GearBest ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรนัก (วิธีการและราคาอยู่ท้ายสุดของรีวิว) โดยเว็บไซต์นี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2015 มีผู้ลงทะเบียนใช้งานประมาณ 30 ล้านคน ครอบคลุม 190 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีนโยบาย เปลี่ยนสินค้าหรือคืนเงิน ได้ภายใน 30 วัน (นับจากคุณได้รับสินค้า) ทำให้อุ่นใจได้ประมาณนึง
ส่วนการขนส่งก็มีทั้งแบบส่งฟรีประมาณ 10-25 วัน หรือส่งแบบด่วนเสียเงินเพิ่มร้อยกว่าบาท 7-16 วัน โดยจากประสบการณ์ที่ผ่านมาสินค้าก็ถึงรวดเร็วกว่าที่กำหนดแทบทุกครั้ง (บางครั้งเร็วกว่าสั่งจากเว็บคนไทยด้วยกันอีก) ส่วนสินค้าแพ็คมาเป็นอย่างดี ไม่เคยมีบุบสลายก่อนถึงมือครับ
อุปกรณ์ในกล่อง
- ตัวเครื่องสมาร์ทโฟน
- ฟิล์มกันรอยและเคส
- ที่ชาร์จเร็ว (Fast Charger)
- คู่มือ, เข็มจิ้มซิม, ฯลฯ
ถึงแม้จะเป็นสมาร์ทโฟนราคาไม่กี่พันบาท ก็มีที่ชาร์จเร็วให้ด้วยอันนี้ประทับใจมาก
สเปค | Vernee Mix 2
สำหรับรุ่นนี้จุดเด่นคงหนีไม่พ้นหน้าจอไร้ขอบ FHD+ ขนาด 6″ ที่อัตราส่วน 18:9 ด้วยสัดส่วน 93.07% ของหน้าจอ ทำให้ได้หน้าจอขนาดใหญ่โดยที่ตัวเครื่องไม่ใหญ่ตาม และหากเทียบกับสมาร์ทโฟนก็ประมาณ 5.5″ ทั่วไปนั่นเอง
- หน้าจอ : 6.0″, 2160 x 1080 พิกเซล
- หน่วยประมวลผล : MTK6757CD Octa Core 2.5GHz
- ระบบปฏิบัติการ : Android 7.0
- แรม + รอม : 4 GB + 64 GB ROM
- กล้องหลัง : 13 MP + 5 MP
- กล้องหน้า : 8 MP
- แบตเตอรี่ : 4,200 mAh
- เซ็นเซอร์ : Ambient Light, E-Compass, Gravity, Gyroscope, Proximity
- ซิมการ์ด: Dual SIM, Dual Standby (Nano SIM)
- เครือข่าย :
- 2G: GSM 850/900/1800/1900 MHz
- 3G: WCDMA 900/2100 MHz
- 4G: FDD-LTE 800/900/1800/2100/2600 MHz
ในส่วนของเครือข่ายก็ไม่ต้องเป็นห่วง ทดสอบแล้วใช้งานได้กับ 4G ในไทยทุกค่าย ไม่ต้องปลดล็อคอะไร ส่วนวัสดุอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างเทพ เป็นกระจกทั้งหน้าและหลังให้ผิวสัมผัสเป็นอย่างดี ด้านข้างเป็นขอบอลูมิเนียมเพิ่มความหรูหรา
ซิมการ์ดเป็นแบบ Nano SIM ทั้งสองซิม ไม่สามารถเพิ่มเมมได้
ด้านท้ายเครื่องเป็นที่ชาร์จแบบ Micro USB ข้อดีคือหาอุปกรณ์ง่ายมาก ส่วนข้อเสียก็คือบางรุ่นเขาพัฒนาเป็น USB-C กันหมดแล้ว แต่อันนี้แล้วแต่ความชอบของบุคคล เพราะในช่วงนี้เหมือนเราอยู่บนรอยต่อของเทคโนโลยีมากกว่า และอันที่จริงมันก็ไม่ได้มีผลต่อการใช้งานเท่าไหร่นัก สามารถใช้ชาร์จแบบ 9 โวลท์ 2 แอมป์ (Fast Charge)
ส่วนด้านขวามือจะเป็นปุ่มปรับเสียงและปลดล็อคเครื่อง
ด้านบนยังคงมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
แต่เห็นแบบนี้ด้านหลังก็ยังคงมีสแกนลายนิ้วมือเพื่อความปลอดภัย
อัตราส่วนหน้าจอ 18:9 เมื่อเทียบกับหน้าจอขนาด 16:9 เท่ากับว่ามีพื้นที่เพิ่มขึ้น 12.5% และหากเทียบกับ 17:9 เท่ากับได้พื้นที่เพิ่มขึ้น 6.25% หากใครชอบอะไรที่เต็มตางานนี้ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน แถมขอบจอยังบางอีกด้วย
ตัวเครื่องอยู่ในขนาดพอดีมือ ด้วยขอบที่บางจึงทำให้ตัวเครื่องไม่ใหญ่มาก สามารถจับได้อย่างถนัดมือ ส่วนที่หนาที่สุดของเครื่องจะอยู่บริเวณด้านล่าง ซึ่งตรงนี้จะมีกล้องหน้าติดอยู่ด้วย องศาอาจดูแปลกตาไปสักนิดเวลาเซลฟี่
สำหรับกล้องหลังถึงแม้ว่าจะมีสองตัว (13 MP + 5 MP) แต่อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นปัญหาเฉพาะเครื่องผม หรือต้องรอแก้อัปเดต Firmware เนื่องจากมันทำงานเพียงแค่กล้องตัวเดียว แต่หากคุณไม่ได้ซีเรียสเรื่องกล้องก็คงต้องข้ามไป
ด้านหลังเป็นสแกนลายนิ้วมือ สามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
รีวิว | Vernee Mix 2
ตัวระบบปฏิบัติการเป็น Android 7.0 vos หน้าตาน่าใช้งานมาก เรียบหรูดูดี แทบไม่ได้ปรับแต่งอะไรเลย ไม่มีการแถม App ขยะมาสักเท่าไหร่นัก (ที่ชอบอีกอย่างคือฟัง FM ได้ด้วย) ความลื่นอยู่ระดับกลาง ๆ ไม่เหมือน MIUI
หลังจากเปิดเครื่องมาเหลือหน่วยความจำให้ใช้ 49.53 GB ส่วนเรื่องของแรมก็เหลือ 2.6 GB และด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4200 mAh ค่อนข้างอึด เลยทำให้สามารถเล่นเกมได้ยาวนานเกินวัน แล้วก็รองรับ Fast Charger ด้วยครับ
กล้องสามารถปรับแต่งได้เล็กน้อยตามมาตรฐาน Android สามารถกดเพื่อซูมสองเท่าได้ แต่ก็ยังคงมีเรื่องให้ติเกี่ยวกับ White Balance ที่ตัวเครื่องยังทำออกมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ใช้งานจริงอาจต้องให้ App อื่นช่วยดึงภาพให้
ทดสอบประสิทธิภาพของ MTK6757CD Octa Core 2.5GHz ผ่านทางแอปพลิเคชัน AnTuTu ผลออกมาได้ประมาณ 50,000 คะแนน ก็เทียบได้ประมาณ Galaxy S6, ZenFone 2 หรือ Xperia Z5 ไม่หนีกันมากครับ
กล้อง | Vernee Mix 2
สำหรับกล้องอันนี้เรียนตามตรงว่าคุณภาพแค่ “พอใช้” เท่านั้นเอง ดูได้จากรูปด้านบนซึ่งถ่ายหลายสภาวะแสง แต่ยังไม่ค่อยคมสักเท่าไหร่ รวมถึงยังมีความเพี๊ยนของ White Balance อยู่พอสมควร ส่วนความเร็วชัตเตอร์ยังอยู่ในระดับช้า
ข้อดี
- หน้าจอใหญ่ 6″ ไร้ขอบจอ
- แบตเตอรี่อึดใช้ได้เกินวัน
- วัสดุหรูราคา งานประกอบดีเยี่ยม
ข้อเสีย
- กล้องยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่
- เพิ่มเมมไม่ได้
- ไม่แถมหูฟัง
สรุป
ราคาถูกมากถึงมากที่สุด งานประกอบดีเยี่ยม ตัวเครื่องหรูหราเกินราคา จะมีข้อเสียก็เพียงแค่ต้องสั่งจากจีน (แต่สั่งเองได้ไม่ยาก) โดยรวมถือว่าประทับใจ เพราะพกไปใช้งานที่ไหนก็มีแต่คนมอง หากคุณชอบเล่นเกมหรือดูหนัง Vernee Mix 2 ให้ประสบการณ์ที่เต็มตาเต็มอารมณ์ หากใครสนใจก็ลองไปกดซื้อได้ด้วยตัวเองครับ สั่งซื้อได้ที่นี่