สำหรับคนไอทีคงไม่มีใครที่จะไม่นอนดึก (ผมก็คนนึง) ด้วยเหตุที่ว่าบรรยากาศการทำงานหรือภาระอันหนักอึ้งอะไรก็ตามแต่ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือกาแฟสะดวกซื้อหรือสะดวกชงซักแก้ว ทีนี้ในตลาดก็มีอยู่มากมายหลายแบบเหลือเกิน (ตัดพวก Low Fat ออกไปเพราะผมไม่สนใจอยู่แล้ว) จนได้มาลอง Super Brown Coffee เลยขอถือโอกาสมารีวิวกัน และหากคุณมีเวลาอ่านไม่มากแนะนำให้ข้ามไปตรงคำว่า *ซุปเปอร์ ได้เลย
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหากาแฟ 3-in-1 ดี ๆ กลิ่นหอม ๆ ที่ราคาเฉลี่ยตกซองละแค่หนึ่งบาท ผมขอแนะนำ
…
..
.
“ให้คุณไปหาซื้อเองเถอะ” เพราะซุปเปอร์บราวน์คอฟฟี่ (Super Brown Coffee) ราคาถุงละ 83 บาท บรรจุ 25 ซองเล็ก เฉลี่ยซองละ 3.32 บาท (ขึ้นอยู่กับราคาหน้าร้านจริงอีกที) เอาล่ะทีนี้เล่นมุขกันมามากพอแล้ว และน้ำที่ผมต้มก็เริ่มเดือดแล้วด้วยเรามาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่า
อะไรคือน้ำตาลบราวน์ชูการ์?
สำหรับคนที่เข้าร้านกาแฟสดบ่อย ๆ จะพบว่ามีนมและน้ำตาลรวมถึงไซรัปให้เลือกหลากหลายแบบ และน้ำตาลบราวน์ชูการ์ก็คือหนึ่งในนั้น ส่วนตัวผมชอบเน้นโรบัสต้าให้ใช้น้ำตาลบราวน์ชูการ์ เพราะมันดูพรีเมี่ยมแล้วก็หอมซึ่งมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์มากกว่าด้วย เอาเป็นว่าถ้ามีโอกาสให้เลือกผมก็เลือกเพราะมันไม่ได้หากินกันได้ง่าย ๆ
ทีนี้ซุปเปอร์เนี่ยได้ปิ๊งไอเดียท่าไหนไม่รู้ ไปเอากาแฟโรบัสต้าชั้นดี (ที่ไม่ได้เกิดจากการเด็ดเชอรี่ทีละเม็ดหรือมาจากที่ราบสูงโบโลเวน) พร้อมครีมเทียมที่มีคุณภาพสูง มาผสมกับน้ำตาลบราวน์ชูก้าร์เกรดพรีเมี่ยม จนออกมาเป็นกาแฟสูตรพิเศษนี้ แถมเป็นครั้งแรกในประเทศไทยอีกต่างหาก !!!
ก่อนที่จะพูดถึงรสชาติกาแฟผมขอสารภาพบาปเล็กน้อย เกี่ยวกับการขโมยกาแฟในออฟฟิศของผม แน่นอนว่ารีวิวนี้ขออุทิศให้แด่ป้าแม่บ้านประจำออฟฟิศผม และนี่คือบทสนทนาระหว่างที่ผมทำรีวิวนี้
“คุณดรีม คุณดรีมใช่มั้ยคะ ที่เป็นคนขโมยกาแฟเบรคของป้าไป ป้าว่าแล้ววววว (ลากเสียงยาว) กาแฟป้าหายไปตั้งหลายซอง ต้องเป็นคุณดรีม คุณดรีมแน่ ๆ ที่เป็นคนเอาไป ป้ากะแล้วเชียว … แล้วนี่คิดยังไงคะถึงได้ซื้อกาแฟซองมากินเองคะ” – เสียงเล็กแหลมจากหญิงอายุราวแม่ผม
นี่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การรีวิวธรรมดา แต่ยังเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ในชีวิตผม ใช่แล้ว … ใช่แล้วพอลิ้นผมได้สัมผัสน้ำตาลบราวน์ชูการ์ ผมคงกลับไปดื่มกาแฟ 3-in-1 แบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว ~ (ไม่ได้สำนักเลยซักนิด – -*)
พูดเรื่องรสชาติซักนิด
*ซุปเปอร์ สิ่งแรกที่กระแทกจมูกผมคือ “กลิ่น” ครับ ไม่ใช่เป็นเพราะมีใครตดแต่อย่างใด แต่เป็นกลิ่นของกาแฟที่หอมแบบรุนแรงมาก ๆ กลิ่นเน้นไปทางหอมหวาน คือได้กลิ่นแล้วรู้สึกได้เลยว่ามันต้องหวานบอกไม่ถูกเหมือนกัน กลิ่นจะไม่ออกไปแนวพวกกาแฟสดแต่จะเน้นไปที่ความหอมของน้ำตาลบราวน์ชูการ์ คนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟผมว่าดื่มได้สบายครับ
เรื่องกลิ่นแนะนำว่าให้ลองเองเถอะครับ มันเป็นเรื่องยากลำบากมากที่จะให้ผมอธิบายผ่านตัวอักษร (ถ้ากลิ่นมันวิ่งผ่านคอมฯ ได้ผมคงทำไปแล้ว) เอาเป็นว่ามันหอมเป็นเอกลักษณ์มากกว่ากาแฟ 3-in-1 ทุกซองที่คุณเคยลองชงมา … ผมรับประกันได้เลย
ต่อมาคือเรื่องรสชาติของ Super Brown Coffee กลับไม่หวานเจี๊ยบเหมือนกลิ่น มีรสหวานที่พอดี ๆ ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป เป็นกาแฟที่พร้อมแทนโดยไม่รู้สึกว่าต้องเติมอะไรเพิ่มเหมือนกาแฟซองทั่วไป ให้ความรู้สึกแทบไม่ขมเลยและดื่มง่ายหลังดื่มแล้วผ่อนคลาย ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในร้านกาแฟ
ข้อดี
- แบรนด์แรกที่ใช้น้ำตาลบราวน์ชูการ์
- หอมกำลังพอดีความเข้มอยู่ระดับกลาง
- ชงสะดวกละลายง่าย
- หาซื้อง่ายตามร้านค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
ข้อเสีย
- กลิ่มหอมจนฟุ้งไปทั้งห้อง (เกรงใจเพื่อนร่วมงานคนที่ไม่ดื่มกาแฟ)
- กลิ่นน้ำตาลบราวน์ชูการ์ค่อนข้างแย่งซีนกลิ่นกาแฟ
สรุป
สำหรับคนชอบก็คงชอบเลย สำหรับคนไม่ชอบอาจเลี่ยงไปดื่มตัวอื่น ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นเอกลักษณ์มาก ๆ เลย สมมุติถ้าแบ่งประเภทกาแฟ 3-in-1 เป็นซักประมาณ 4 ประเภท กาแฟตัวนี้จะฉีกตัวเองออกไปเป็นประเภทที่ 5 ทันที คนที่รักก็คงรักเลยแต่คนที่ไม่ชอบก็คงเป็นคนที่ชอบกาแฟแบบ Original ชอบรสเดิม ๆ กับกลิ่นเข้ม ๆ เหมือนเดิม แต่สำหรับคนไม่ดื่มกาแฟก็อยากให้ลองครับ ตัวนี้ค่อนข้างดื่มง่ายมากเลยทีเดียว
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial