Sony Xperia™ Z2 เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นปัจจุบันของ Sony ที่ค่อนข้างจะภาคภูมิใจในการนำเสนอมาก สำหรับรุ่นนี้ผมได้มีโอกาสไปร่วมดูงานเปิดตัวมาเข้าใจเลยว่าทาง Sony ทุ่มเทไปกับเรื่องการออกแบบมากจริง ๆ และส่วนตัวผมก็เป็นคนหนึ่งที่เลือกมือถือเพราะดีไซน์เป็นหลักเสียด้วย (พวกมือถือที่ดีไซน์เป็นกล้องนูนออกมานี่ส่วนใหญ่จะไม่เอาเลย)
Sony Xperia™ Z2 เปิดตัวที่ราคา 23,990 บาท (สีดำ, ขาว และม่วง) มาพร้อมกับคู่หู SmartBand SWR10 ที่ขายแยกเพียง 3,490 บาท (สีดำ และเขียวบอลโลก) แพคเกจเป็นสายสีดำมีให้สองไซส์ M, L ตามกระแส Wearable Technology ที่สร้างมาให้คนดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้นและใส่ใจตัวเองมากขึ้น
เอกลักษณ์ของทั้งสองคือสามารถกันน้ำได้ตามมาตรฐาน IP58 หรือก็คือสามารถอยู่ในน้ำปกติได้ที่ความลึก 1.5 เมตร เป็นระยะเวลา 30 นาที หากเป็นการใช้งานทั่วไปแล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอุบัติเหตุอย่างน้ำหกใส่หรือแม้กระทั่งตากฝน ทุกวันนี้ผมสวมใส่ SmartBand อยู่ตลอดเวลาไม่จำเป็นต้องถอดแม้กระทั่งอาบน้ำ
สเปค : Sony Xperia™ Z2
- ระบบปฏิบัติการ : Android 4.4.2 Kitkat
- หน้าจอ : IPS 5.2″ ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล (424 ppi)
- หน่วยประมวลผล : Snapdragon 801 Quad-core 2.3 GHz Krait 400, Adreno 330
- แรม : 3 GB
- หน่วยความจำ : 16 GB รองรับ Micro SD สูงสุด 128 GB
- กล้องหลัง : 20.7 MP รองรับการถ่าย VDO ความละเอียด 4K, 1080P 60fps
- รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K
- กล้องหน้า : 2.2 MP รองรับการถ่าย VDO ความละเอียด 1080P 30fps
- รองรับเครือข่าย : 3G (850/900/1700/1900/2100), 4G lte (700/800/850/900/1700/1800/1900/2100/2600)
- ไร้สาย : WiFi (a/b/g/n/ac), Bluetooth 4.0, NFC
- แบตเตอรี่ : 3,200 mAh
- ขนาด : 146.8 x 73.3 x 8.2 มม.
- อื่น ๆ : กันน้ำมาตรฐาน IP58
สำหรับสเปคก็ถือว่าอยู่ระดับ TOP เช่นเดียวกับแบรนด์อื่น จะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นพิเศษเหมือนจะเป็น RAM 3 GB ที่ทำให้เราสามารถเปิด App ทิ้งไว้ได้เยอะขึ้น
นอกจากนี้ Xperia™ Z2 ยังมีเอกลักษณ์หลายประการที่ถือว่าเป็นที่สุดของโลกอย่าง
- กล้องถ่ายภาพและวีดีโอที่ดีที่สุดในโลกประเภทสมาร์ทโฟนกันน้ำ
- กล้องที่มีความละเอียดสูงสุดในโลกของ Android
- จอแสดงผลแบบ Live Colour LED ตัวแรกในโลกของสมาร์ทโฟน
- เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบ Digital ตัวแรกในโลกของสมาร์ทโฟน (เหมาะกับหูหัง Sony DNC)
วัสดุด้านหลังเป็นเหมือนกับพลาสติกใสหรือกระจกอันนี้ผมไม่ค่อยมั่นใจ แต่มันให้ความรู้สึกที่ดีเป็นอย่างมากดูทนทานและทำความสะอาดง่าย
ด้านข้างเป็นปุ่มที่เป็นเอกลักษณ์ของ Sony กดง่ายด้วยนิ้วโป้งไม่ต้องยืดนิ้วชี้ให้ลำบากอีกต่อไป เป็นการออกแบบที่เหมาะสมมาก ๆ สำหรับสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอขนาดใหญ่
ด้านข้างอีกฝั่งมีช่องสำหรับเสียบ Dock (ขายแยก) รวมถึงช่องใน Micro SD, Micro SIM, Micro USB โดยช่องปิดจะเป็นซีลยางเพื่อกันน้ำซึ่งตรงนี้ต้องระมัดระวังนิดนึงครับ
ด้านบนเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ตรงนี้ไม่ต้องเอาอะไรปิดเพราะมันกันน้ำได้อยู่แล้ว (พอดีไปถามช่างมา)
มาอีกฟีเจอร์หนึ่งที่อยากจะแนะนำคือ “กล้อง” ที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างฟีเจอร์ Background defocus ที่ช่วยละลายฉากหลังได้อย่างมืออาชีพ จนดูด้วยตาแล้วแทบไม่เชื่อเลยว่าเป็นกล้องมือถือ ใครชอบแชร์ลง Social Network แนะนำลองเอาไปใช้ดูครับ หลักการคือ Xperia™ Z2 จะถ่ายทั้งหมด 3 รูปแล้วเอามาประมวลผลจนได้ภาพที่เบลออย่างสุด ๆ ขนาดกล้อง Nikon 1 J2 ตัวที่ผมถ่ายอยู่นี้ยังละลายฉากหลังไม่ได้เท่าเลย
คราวนี้ลองเล่นเป็น AR effect ที่ไม่เหมือนใครสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ดี อธิบายเองคงลำบากแต่ว่าของแบบนี้คงต้องลองด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ฟีเจอร์เกี่ยวกับกล้องหากให้พูดถึงคงจะกล่าวไม่หมด
- Superior auto
- Manual
- 4K video
- Timeshift video
- Background defocus
- AR effect
- Creative effect
- Vine
- Info-eye
- Timeshift burst
- Social live
- Sweep Panorama
แค่นี้ก็รีวิวกันไม่หวาดไม่ไหวแล้วครับ ขอกล่าวเพียงแค่ส่วนหนึ่งก็แล้วกัน
ทั้งหมดนี้ทำได้ด้วยเลนส์ G 1/2.3 20.7 MP ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย (ฮา) ทีนี้เรามาดูภาพประกอบจากเลนส์ตัวนี้กันครับ ถ่ายด้วยโหมด Superior auto ซึ่งกล้องจะคำนวณการตั้งค่าที่เหมาะสมให้โดยอัตโนมัติ
สำหรับกล้องมีความละเอียดสูงและสามารถซูมได้โดยยังคงความละเอียดอยู่ ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีมากส่วนกล้องหน้าหากเปิดโหมด Superior auto ก็จะทำการปรับแต่งหน้าให้เนียนขึ้นนิด ๆ โดยไม่เวอร์จนเกินไป ดูภาพถ่ายผ่าน Google+
สำหรับ Background defocus ถึงแม้จะไม่สมบูรณ์แบบเหมือนเลนส์ DSLR แพง ๆ แต่ก็ทำออกมาได้เกินตัวสมาร์ทโฟน เอาไปแชร์ที่ไหนมีแต่คนถามว่าใช้อะไรถ่าย
สำหรับการถ่ายวีดีโอ 4K ก็สามารถทำได้ครับ แต่ขนาดไฟล์ค่อนข้างใหญ่มากซึ่งตัวอย่างผมถ่ายตอนกลางคืนเป็นเวลา 1 นาที ไฟล์มีขนาดใหญ่ถึง 400 MB เลยทีเดียว แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าหากต้องการเอาไปเก็บช่วงเวลาดี ๆ ที่สำคัญของชีวิต
SmartBand SWR10
สำหรับ Wearable gadget ถึงแม้ว่าค่าตัวจะไม่ค่อยถูกนักเนื่องจากมันคืออารยธรรม Sony ซึ่งผมขอให้คุณลืมไปเลยเรื่องนาฬิกาบอกว่า หรือแจ้งเตือน Notification ต่าง ๆ เพราะเจ้า SmartBand ตัวนี้ทำไม่ได้ซักอย่าง แต่สิ่งที่มันทำได้นั้นเหนือกว่านั้นคือการ “บันทึกวันดี ๆ ของคุณในทุกวัน”
อุปกรณ์ภายในแบ่งเป็นสายรัดข้อมือ 2 เส้น (เล็ก, ใหญ่) และตัว SmartBand รวมถึงสาย Micro USB สำหรับชาร์จที่ผมไม่ได้ถ่ายมาให้ดู (แต่ช่างเถอะมันไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร) น้ำหนักเพียงแค่ 21 กรัม มาพร้อมกับเทคโนโลยี Bluetooth 4.0 มีปุ่มให้สั่งการเพียงปุ่มเดียวส่วนการแสดงผลก็มีแค่ไฟ LED จำนวน 3 ดวง
SmartBand สามารถใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นได้ด้วยยกตัวอย่างเช่น LG Nexus 5, LG Nexus 4, Samsung Galaxy Note III, Samsung Galaxy S4, Samsung Galaxy S5, HTC One, HTC One M8 หรือรุ่นใด ๆ ก็ได้ขอเพียงแค่เป็น Android 4.4 Kitkat และรองรับ Bluetooth 4 Low Energy รวมถึงจำเป็นต้องติดตั้งแอปฯ Lifelog ในการใช้งาน (ดาวน์โหลดฟรี)
Lifelog คือแอปฯ ที่ต้องทำงานร่วมกับ SmartBand ที่ไม่จำเป็นต้องเสียบคอมพิวเตอร์เพื่อ Sync หรือตั้งค่าใด ๆ ให้วุ่นวาย ทำหน้าที่เปรียบเสมือนผู้ติดตามคุณไปในทุก ๆ ที่สามารถเช็คได้ว่าวันนี้คุณเดินไปกี่ก้าวแล้ว วิ่งไปกี่นาที ขับจักรยานหรือนั่งรถไปนานเท่าไหร่ ฟังเพลงหรือถ่ายรูปทั้งหมดกี่ครั้ง รวมถึงการนอนหลับพักผ่อนว่าเพียงพอหรือไม่
เท่านั้นยังไม่พอเราสามารถใส่ข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวเราลงไป (อายุ, เพศ, น้ำหนัก, ส่วนสูง) จากนั้นโปรแกรมจะคำนวณมาให้เราว่าควรเดินอย่างน้อยวันละกี่ก้าว ควรนอนให้ได้วันละกี่ชั่วโมง ฯลฯ
นอกจากนี้ SmartBand ยังสามารถใช้เป็นนาฬิกาปลุกในการสั่นปลุกทุกเช้า (ขอยืนยันว่ามันได้ผลยิ่งกว่าตั้งนาฬิกาปลุกเสียอีก) อีกทั้งยังใช้ควบคุมเพลงได้อีกด้วย
SmartBand หลัก ๆ ที่เป็นจุดขายก็จะเป็นการนับก้าวเดินให้อัตโนมัติ ทำให้เรารู้ตัวได้เลยว่าวันนี้เดินน้อยหรือว่าเดินมากไป (มีการกำหนดเป้าหมายในแต่ละวันด้วยว่าควรทำได้เท่าไหร่) ส่วนอีกเรื่องก็จะเป็นการวินิจฉัยการนอนของเรา อย่างของผมควรนอนให้ได้ 8 ชั่วโมงแต่กลับนอนได้แค่เกือบ 6 ชั่วโมง และตรงนี้ยังแบ่งออกเป็น Deep sleep และ Light sleep ให้ด้วย
ข้อดี
- ดีไซน์สวยและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
- สเปคสูงมากกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ในตลาด
- กล้องคุณภาพสูงพร้อมฟีเจอร์ที่หลากหลาย รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K
- หน้าจอ IPS ที่ให้สีสมจริงความละเอียดระดับ Full HD พร้อม X-Reality Engine
- ระบบเสียงลำโพงคู่ด้านหน้าพร้อม Clear Audio+, Sound Enhancements และ Dynamic Normaliser
- แบตเตอรี่อึด 3,200 mAh หากใช้งานปกติทั่วไปจะอยู่ได้เกินวัน
- กันน้ำมาตรฐาน IP68 แถมแบตเตอรี่ถอดไม่ได้ทำให้โอกาสเกิดอุบัติเหตุน้ำเข้าเครื่องต่ำมาก
ข้อเสีย
- ราคาสูง
- น้ำหนักเครื่องค่อนข้างมาก
- กล้องความละเอียด 20.7 MP ทำให้ไฟล์ที่ได้ค่อนข้างใหญ่
- จับลำบากและเครื่องลื่นหลุดมือหรือไหลตกโต๊ะง่ายหากไม่ระวัง
สรุป
เป็นสมาร์ทโฟนที่ครบและพร้อมในหลาย ๆ ด้านกลบข้อเสียของสมาร์ทโฟนในตลาดได้ดีไม่ว่าจะเป็นเรื่องกล้อง, เสียง, แบตเตอรี่, หน้าจอ, ฯลฯ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับคู่หูอย่าง SmartBand (ขายแยก) ที่เข้ากันดีอย่างไม่น่าเชื่อแถมยังกันน้ำเหมือน ๆ กันอีก ถึงแม้จะราคาสูงไปนิดแต่ถ้าซื้อแล้วไม่ผิดหวังมันก็คู่ควรสมกับราคามิใช่หรือ?
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial