MITZ xBridge เป็นอุปกรณ์ Lightning SD Card Reader ที่ช่วยส่งรูปจากกล้องเข้าไอโฟน โดยไม่จำเป็นต้องใช้ WiFi หรือกล้องรุ่นใหม่ เพียงแค่เสียบ SD Card หรือ microSD เข้ากับอุปกรณ์ iOS โดยตรง (iPhone/iPad/iPod Touch) ก็สามารถโอนถ่ายได้ทั้งรูปแบบและวิดีโอ รองรับไฟล์ RAW ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที ไม่ต้องเสียเวลาในการ Pair อุปกรณ์ผ่านทาง WiFi หรือ Bluetooth ให้ยุ่งยากและเสียเวลา เพียงแค่เสียบก็สามารถใช้งานได้เลย ไม่ต้องโหลดหรือติดตั้งแอปพลิเคชันใด ๆ

MITZ xBridge

สำหรับแบรนด์ MITZ ก็ผลิตอุปกรณ์เสริมไว้มากมาย ซึ่งในวันนี้ที่เราจะมารีวิวกันก็คือ MITZ xBridge เป็นอุปกรณ์แบบเดียวกับของ Apple (Lightning to SD Card Camera Reader) มีการใช้ชิปแท้หายห่วงว่าอัปเดต iOS แล้วจะใช้งานไม่ได้ เท่ากับว่าเหมือนเราซื้ออุปกรณ์เดียวกันในราคาที่ถูกกว่า หากใครเป็นคนซื้อสินค้า Apple บ่อยจะรู้ว่าแบรนด์นี้ขายอุปกรณ์เสริมค่อนข้างแพง ไม่ว่าจะเป็นสายชาร์จ, เคส, อะแดปเตอร์ แถมล่าสุดมี ชุดคิทล้อสำหรับ Apple Mac Pro ชุดละสองหมื่นกว่าบาท ให้ตายสิแพงไปไหน!

ทำไมไม่ซื้อของ Apple

ประการแรกคือ สินค้าตัวนี้ ราคาถูกกว่าราว 20% สามารถใช้งานได้เหมือนกันทุกประการ (จ่ายแพงกว่าทำไม) นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่ “ดีกว่า” เพราะของ Apple รองรับเพียงแค่ SD Card แต่สำหรับ MITZ xBridge รองรับทั้ง SD Card และ microSD เท่ากับว่าหากคุณมีกล้องบางรุ่นที่ใส่การ์ดขนาดเล็ก กล้อง GoPro หรือ Drone ก็สามารถเสียบโดยตรงได้ทันที ไม่จำเป็นต้องผ่านอะแดปเตอร์แปลง Micro SD เป็น SD Card อะไรให้วุ่นวาย แถมยังช่วยให้เราสามารถรับรูปจากเพื่อนที่ใช้ Android ได้อีกด้วย

แกะกล่องมาตัวอุปกรณ์งานประกอบค่อนข้างดี สายมีความแข็งแรงดูไม่บอบบางเหมือนพวกสายชาร์จถูก ๆ ที่วางขายกันทั่วไป ตัวอุปกรณ์เป็นสีขาวแบบหินอ่อน ให้ความรู้สึกหรูหราและดูสวยไปอีกแบบ ส่วนขนาดก็ไม่ได้เล็กหรือใหญ่กว่าของ Apple (เสียดายไม่มีภาพเทียบให้ดู) ยังคงสามารถพกพาง่ายใส่กระเป๋า อันนี้เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมนอกจากแบตเตอรี่กล้องถ่ายรูป ที่ผมมักจะพกเอาไว้ติดกระเป๋ากล้องเลย เวลาส่งรูปให้เพื่อนหรือต้องการอัปโหลดรูปลง Social สะดวกดี จะให้ลูกค้าดูรูปผ่าน iPad ก็ง่ายไปอีกแบบ

ซื้อทำไมกล้องก็โอนถ่ายรูปได้

ด้านล่างเป็นช่องสำหรับเสียบ SD Card และด้านบนเป็นช่องสำหรับเสียบ microSD มาตรงนี้บางคนอาจพึ่งคิดได้ว่ากล้อง Fuji, Panasonic, Olympus, Canon, Nikon, Sony ของฉันก็มี WiFi โอนรูปได้เหมือนกันแล้วจะซื้อไปทำไม ? คำตอบก็คือความสะดวกในการใช้งานต่างกัน เพราะต้องโหลดแอปพลิเคชัน ไหนจะต้องทำการเชื่อมต่อ (Pair) พอเปลี่ยนเครื่องก็ต้องทำใหม่ กว่าจะเลือกรูป กว่าจะโหลดรูปขึ้น ค่อนข้างใช้เวลานานแถมบางครั้งก็สะดุดติดขัดใช้ไม่ได้บ้าง ดังนั้นการเอาเสียบตรงตัวแบบแฟลชไดร์ฟสะดวกสุด

นอกจากนี้ความเร็วก็เป็นสิ่งสำคัญ โอนถ่ายรูปผ่านระบบไร้สายถ้านับขั้นตอนทุกอย่างคือกินเวลาหลักนาที และเวลาส่งรูปนึงหากเป็นไฟล์ต้นฉบับหรือไฟล์ RAW ก็อาจใช้เวลาประมาณ 10 วินาที หากส่งสิบรูปก็กินเวลาไปเกือบสองนาที เทียบกับการเสียบเมมตรงกับเครื่องใช้เวลาไม่เกิน 10 วินาทีก็โอนเสร็จเป็นสิบรูป ที่สำคัญคือไม่ต้องเปลืองแบตเตอรี่ของกล้องด้วย ลองจินตนาการภาพดูคือไปเที่ยวญี่ปุ่นกับเพื่อน ผลัดกันส่งรูปหาแต่ละคนแบตหมดไม่ต้องถ่ายกันพอดี สู้ส่งเมมให้เพื่อนพร้อม MITZ xBridge เร็วกว่าเยอะ

ไม่เพียงแค่รับรูปเข้าเครื่อง อีกประโยชน์ก็คือหากไอโฟนใครเมมเต็มหรือต้องการแชร์รูปให้เพื่อน (กรณีเป็นวิดีโอยาว ๆ ส่งผ่าน 4G มันจะเปลืองเน็ต) ก็สามารถส่งออกมายัง SD Card หรือ microSD ได้เช่นกัน บางครั้งเวลาฉุกเฉินอันนี้ช่วยได้เยอะครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้บ่อยครั้งก็ตาม ส่วนเรื่องการส่งไฟล์อื่น ๆ อันนี้ต้องดูอีกทีว่าติดข้อจำกัดของ iOS เองด้วยหรือไม่ แต่รับประกันได้อย่างคือถ้าเป็นเรื่องรูปภาพหรือวิดีโออันนี้ iOS รองรับอยู่แล้ว สามารถเปิดผ่าน Photos หรือสำรองข้อมูลเชื่อมต่อกับ iCloud ได้เลย

รีวิวใช้งานจริง

สะดวกง่ายไม่ต้องดาวน์โหลดหรือติดตั้งแอปพลิเคชัน Photos ที่อยู่ใน iOS สามารถจัดการได้อยู่แล้ว เพียงแค่เสียบเมนูก็จะเด้งขึ้นมาทันที พร้อมกับรูปทั้งหมดที่อยู่ในการ์ดจะโหลดขึ้นมาพร้อมดูแบบไม่ต้องรอ (เร็วจนต้องสงสัยว่ารูปมันอยู่ในการ์ดหรืออยู่ในเครื่องกันแน่) วิธีการใช้งานก็ง่ายไม่ต้องสอนเลยด้วยซ้ำ จะเป็นเด็กหรือผู้สูงอายุหากใช้ไอโฟนเป็นก็ต้องโอนรูปเป็นอย่างแน่นอน เพียงแค่แตะเลือกรูปที่ต้องการหรือจะปาดนิ้วเลือกที่ละหลายรูป โดยจะมีการแยกประเภทตามชื่อรูปและวันเวลาให้เรียบร้อย iOS ทำออกมาสะดวกดี

จะเลือกน้ำเข้าทีละรูปหรือนำเข้าทั้งหมดก็ได้ ไม่ต้องมานั่งจำว่าจะ Cut หรือ Copy เพราะหลังนำเข้า (Import) รูปเสร็จระบบจะถามว่า “ลบ” หรือ “เก็บ” รูปเดิมที่อยู่ในการ์ด อันนี้สะดวกใช้งานดีถือว่าเป็นการเพิ่มความจุการ์ดไปในตัว เพราะบางครั้งเราไปเที่ยวแล้วอาจเกิดเหตุการณ์เมมเต็ม หรือไปเที่ยวหลายคนให้เพื่อนเลือกแต่รูปตัวเอง จะได้ไม่ต้องมีรูปค้างอยู่ในการ์ดมากเกินไป จบทริปแล้วถือว่าเป็นการเคลียร์การ์ดไปในตัว สามารถนำเข้าได้ทั้งรูปแบบและวิดีโอตามมาตรฐาน Apple ได้แก่ JPEG, RAW, H.264 และ MPEG-4

เบื้องต้นผู้เขียนรีวิวลองเอาไฟล์ที่โอนถ่ายเข้าไอโฟน มาตรวจสอบคุณภาพบนคอมพิวเตอร์ก็พบว่าเป็นไฟล์ “ต้นฉบับ” ที่มีความละเอียดสูง พร้อมกับข้อมูลพื้นฐานว่าถ่ายจากกล้อง Canon EOS M50 ทำให้สามารถเอาไปแต่งต่อได้เนียนมากยิ่งขึ้น บางคนอาจประยุกต์ใช้กับการขายของออนไลน์ ซึ่งบางครั้งหากใช้กล้องไอโฟนถ่ายขึ้น Instagram แล้วมันความละเอียดไม่ชัดพอ จะอัปโหลดรูปผ่านคอมพิวเตอร์ก็ไม่สะดวก ก็ใช้วิธีนี้แหล่ะในการโอนถ่ายรูปจาก DSLR หรือ Mirrorless แล้วค่อยไปจัดการอัปโหลดผ่านไอโฟนอีกที

การใช้งานโดยรวมประทับใจมากในความเร็ว สามารถเอาไฟล์ต้นฉบับหรือไฟล์ RAW ไปแต่งต่อบนไอโฟนได้เลย และเดี๋ยวนี้หลายแอปพลิเคชันแต่งภาพก็ดีขึ้นเยอะ การได้ไฟล์ที่ดีไปแต่งต่อช่วยให้ได้ภาพที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น ส่วนตัวผมเคยเห็น Blogger และ YouTuber หลายคนใช้ถ่าย Vlog ผ่านกล้อง DSLR หรือ Mirrorless จากนั้นโอนถ่ายวิดีโอเอาไปตัดต่อด้วย iPad อีกทีนึง ได้ทั้งเรื่องความเร็วและความสะดวกโดยไม่จำเป็นต้องเปิดคอมพิวเตอร์ อันนี้ก็เป็นอีกข้อดีอย่างหนึ่งที่ทำให้ MITZ xBridge น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น

ข้อดี

  1. รองรับ SD Card และ micro SD ในตัวเดียว
  2. ใช้งานง่าย ไม่ต้องโหลดแอปพลิเคชัน
  3. โอนถ่ายรูปเร็วไม่ต้องรอโหลด
  4. พกพาสะดวกไม่เกะกะ

ข้อเสีย

  1. ใช้ได้เฉพาะอุปกรณ์ iOS (iPhone/iPad/iPod Touch)
  2. ไม่มีสีอื่นให้เลือก

สรุป

วิธีส่งรูปจากกล้องเข้าไอโฟน Lightning SD Card Reader ง่ายและเร็วที่สุด MITZ xBridge คือคำตอบ เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ควรซื้อติดกระเป๋าไว้ หากคุณชอบถ่ายรูปด้วยกล้อง DSLR หรือ Mirrorless (และใช้อุปกรณ์ iOS) ช่วยให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แถมยังยืดหยุ่นกว่าเพราะรองรับทั้ง SD Card และ microSD รับไฟล์จากกล้อง GoPro, Drone หรือ Android เครื่องอื่นได้สบาย แล้วก็ไม่ต้องห่วงว่าใช้งานไปแล้วจะมีปัญหา เพราะผู้ผลิตยืนยันว่าใช้ชิปแท้แบบเดียวกับของ Apple นั่นเอง

สั่งซื้อได้ที่ไหน ?

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial