Canon EOS M50 เป็นหนึ่งในกล้องมิเรอร์เลสรุ่นใหม่ในปี 2018 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อ Beginner ที่เริ่มหัดถ่ายภาพและวิดีโอจริงจัง แต่ยังไม่ถึงขนาดเป็น Pro หรือใช้ในอาชีพ โดยการออกแบบเริ่มต้นด้วยความง่ายในการใช้งาน สามารถซื้อเป็นกล้องตัวแรกได้เลย แต่ก็ยังคงมีสเปคเพียงพอสำหรับใช้พัฒนาฝีมือหรืออัปเกรดเลนส์ในอนาคต

Canon EOS M50
Canon EOS M50

Canon EOS M50

รีวิวฉบับนี้จะเน้นความเป็นมือสมัครเล่นเป็นหลัก โดยตั้งโจทย์จากการใช้งานของคนที่ไม่เคยใช้กล้องมิเรอร์เลสมาก่อน และทั้งชีวิตถ่ายแต่กล้องจาก iPhone รวมถึงรีวิวนี้จะใช้เพียงแค่เลนส์ติดกล้อง 15-45 มม. ที่แถมมาเท่านั้น โดยจะไม่มีการกล่าวถึงศัพท์เทคนิคยาก ๆ เพื่อให้สับสนแต่อย่างใด ส่วนใครอยากเห็นภาพอย่างเต็มประสิทธิภาพจากมืออาชีพแนะนำรีวิวของ TechXcite หรือคุณ tamrong ก็ถ่ายออกมาได้สวยมากครับ

ก่อนหน้านี้เราเคยได้รีวิว Canon EOS M3 และพาไปเปิดตัว Canon EOS M10 x Rilakkuma ซึ่งในรุ่นที่เราจะมีรีวิวนี้ถือว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากครับ เริ่มจากดีไซน์ที่ดูมืออาชีพมากยิ่งขึ้น และสเปคกล้องที่ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าเดิม ดูภาพตัวอย่าง

สเปคกล้อง Canon EOS M50
สเปคกล้อง Canon EOS M50

สเปคกล้อง Canon EOS M50

สรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับสเปคแบบไม่ใช้ศัพท์ยุ่งยากก็คือ M50 เป็นกล้องมือใหม่ที่สเปคจัดเต็ม มาพร้อมความละเอียด 24.1 MP (ให้ภาพชัดและละเอียดกว่ากล้องมือถือ 99% บนโลกใบนี้) สามารถกดถ่ายรัวได้ 10 ภาพ/วินาที แล้วก็มีชิปรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง DIGIC 8 ที่ตอบสนองได้ไวและคุณภาพสูงมากขึ้นรองรับ 4K สามารถโอนถ่ายภาพผ่าน App สมาร์ทโฟนได้ มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ปรับหมุนได้ และแต่งภาพคุมโทนได้ผ่าน Creative Assist

  • APS-C 24.1MP
  • DIGIC 8
  • Dual Pixel
  • Eye Detection AF
  • 10 FPS (af-s), 7.4 FPS (survo af)
  • Touch and Drag Autofocus
  • RAW CR3
  • VDO 4K, 1080/120P
  • Silent Mode

จะเห็นได้ว่ามันออกแบบมาเพื่อ Blogger และ YouTuber อย่างแท้จริง และเป็นมิเรอร์เลสตัวแรกของ Canon ที่มาสามารถถ่าย 4K แถมยังมีช่องต่อไมค์เพิ่มเติมเพื่อทำ Vlog อย่างมืออาชีพ (มือใหม่คงยังไม่ใช้ แต่ถึงวันหนึ่งได้ใช้แน่นอน) แถมยังโอนถ่ายผ่าน Wi-Fi, NFC, Bluetooth โดดเด่นด้วยคุณสมบัติ Auto Transferring Image โอนภาพไปยังสมาร์ทโฟนแบบเรียลไทม์ทุกครั้งที่ลั่นชัตเตอร์ ไม่ต้องมานั่งเปิดปิด App คอยส่งรูปให้วุ่นวาย

โดยรวมแล้วก็เป็นกล้องขนาดเล็กกระทัดรัดมาก ๆ ตัวหนึ่ง คล้ายกับ DSLR ย่อส่วนเพื่อให้ดูถ่ายรูปจริงจังขึ้นมาอีกนิด และลดความสับสนด้วยการเอาปุ่ม Dial ออกไปรวมถึงสลับตำแหน่งบางส่วน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังสามารถจับถ่ายได้อย่างถนัดมือ สามารถหมุนพับหน้าจอได้อย่างสะดวกทั้งมุมบนและมุมล่าง หรือจะพับไปถ่ายเซลฟี่ก็ยังได้

ข้อดีก็คือถึงแม้ว่าจะขนาดเล็กกว่า DSLR แต่ก็ยังใช้เซ็นเซอร์ APS-C ไม่ต่างกัน แถมยังสามารถยืมเลนส์ DSLR มาใส่ได้ด้วยผ่านตัวแปลง Adapter EF-M อันนี้สะดวกต่อการอัปเกรดในอนาคตมากครับ เผื่อถ่ายไปแล้วไม่ตอบโจทย์ก็สามารถเปลี่ยน (หรือยืม) เลนส์อื่นมาใส่ได้ เพราะอนาคตใช้ไปสักพักเลนส์ติดกล้อง ไม่มีทางเพียงพออย่างแน่นอนครับ

เนื่องจากนางแบบที่ทดลองรีวิวกล้อง Canon EOS M50 ของเราไม่มีประสบการณ์ถ่ายภาพมาก่อน แต่การปรับโทนสี, ความอิ่มตัวของสี, ความสว่าง, คอนทราสต์, ฯลฯ สามารถปรับได้จากหน้าจอสัมผัสของกล้อง และเห็นผลลัพธ์เดี๋ยวนั้นเลย คล้ายกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน จึงไม่จำเป็นต้องเรียนรู้อะไรมากมายนัก

การใช้งานโดยรวมก็ง่ายไม่ต้องฝึกอะไรมากนัก (ยกเว้นพื้นฐานถ่ายภาพเบื้องต้น) ซึ่งสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้เยอะกว่าข้อจำกัดของเลนส์บนสมาร์ทโฟน

โอนถ่ายรูปผ่านสมาร์ทโฟน

การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi, NFC, Bluetooth โอนถ่ายง่ายผ่านทางแอปพลิเคชัน และด้วยความที่กล้องเป็น Bluetooth 4.1 ที่ประหยัดพลังงานมาก จึงสามารถเปิดค้างทิ้งไว้ได้เลย นอกจากนี้ยังมีความสามารถสุดเจ๋งอย่าง Auto Transferring Image ที่สามารถโอนถ่ายได้ทันทีหลังกดชัตเตอร์ เหมาะกับชาว Social เป็นอย่างยิ่ง

ถ่ายรูปเซลฟี่

และถึงแม้จะเป็นเลนส์ Kit แต่ก็สามารถใช้ถ่ายเซลฟี่ได้เป็นอย่างดี แต่หากใครเน้นทำ Vlog ลองหาเลนส์ 11-22 มม. มาเพิ่มเติมจะได้ภาพวิวที่มากยิ่งขึ้น แต่ในเรื่องของ Eye Detection AF อันนี้โฟกัสได้ไวและแม่นมากครับ

การใช้งานในชีวิตประจำวัน

ต่อให้กล้องดีขนาดไหน คงไม่มีประโยชน์หากมันหนักจนแทบไม่อยากเอาออกไปไหน M50 มีน้ำหนักรวมแบตเตอรี่และการ์ดอยู่ที่ 387 กรัม (ไม่รวมเลนส์) ส่วนเลนส์ก็แล้วแต่เราจะเลือกใช้งาน แต่หากเป็นเลนส์ที่แถมมา EF-M15-45mm f/3.5-6.3 IS STM ก็จะมีน้ำหนักเพียงแค่ 130 กรัม เหมาะกับการพกพาไปใช้งานในทุกวัน

โดยรวมแล้วเป็นกล้องที่ถ่ายง่ายมาก โดยภาพทั้งหมดเป็นภาพที่สลับกันถ่ายระหว่างน้องผู้หญิงและผู้เขียนรีวิว และที่สำคัญคือทุกภาพไม่ได้ตั้งค่าอะไรทั้งสิ้น (ไม่อาศัยความรู้เรื่องและทักษะในเรื่องกล้อง) โดยปล่อยให้กล้องทำงานเองผ่านโหมด Auto รวมถึงโหมดมาตรฐานที่มีให้เลือกซึ่งส่วนมากจะเป็น Portrait และ Selfie ซึ่งหากใครเริ่มถ่ายรูปเป็นจะสามารถดึงประสิทธิภาพของกล้องออกมาได้อีกมาก

ข้อดี

  1. โฟกัสไว (มาก) ทั้งวิดีโอและภาพถ่ายผ่าน Dual Pixel
  2. หน้าจอสัมผัสหมุนก้มเงยหรือใช้ถ่าย Selfie
  3. มีช่องมองภาพ (ดูโปร) และรองรับการต่อไมค์
  4. ใช้งานง่าย ปรับแต่งผ่านกล้องได้ โอนไฟล์สะดวก
  5. ใช้เลนส์อื่นของ DSLR (Canon) ได้ผ่าน Adpater

ข้อเสีย

  1. แบตเตอรี่ไม่ค่อยอึด อาจต้องมีเผื่อสำรองไว้บ้าง
  2. วิดีโอ 4K ต้องเผื่อระยะ Crop ไว้อีกจำนวนหนึ่ง
  3. ปุ่มไม่เยอะอาจไม่คล่องมือสำหรับคนชินกล้องใหญ่

สรุป

โดยรวมแล้วประทับใจกับราคารวมเลนส์ 25,990 บาท นับเป็นกล้องที่ถูกที่สุดสำหรับ Series M ที่มีช่องมองภาพ การใช้งานโดยรวมถือว่าง่ายต่อการเรียนรู้ และจะยิ่งถ่ายสวยขึ้นไปอีกหากคุณมีพื้นฐานถ่ายภาพอยู่บ้าง หากใครอยากได้กล้องสำหรับใช้ในรีวิวทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ M50 เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่ครับ

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial