หุ่นยนต์เช็ดกระจก Mister Robot Air Walker ถึงแม้จะมีลักษณะคล้ายกับ Robot Vacuum แต่ก็มีจุดแตกต่างกันตรงที่ ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง โดยใช้วิธีดูดแบบสูญญากาศเพื่อทำความสะอาดตามกระจกหรือผนัง เหมาะกับชีวิตคนเมืองในปัจจุบันที่อยู่บ้านหรือคอนโด และไม่สามารถเช็ดกระจกระเบียงภายนอกได้

Mister Robot Air Walker
Mister Robot Air Walker

Mister Robot Air Walker

Mister Robot หุ่นยนต์เช็ดกระจก รุ่น Air Walker ราคา 12,900 บาท สามารถหาซื้อได้ที่ HomePro, Power Buy, Central, Robinson, The Mall, Mega Bangna หรือ สั่งซื้อออนไลน์ พร้อมบริการหลังการขายมีอะไหล่ขายแยก

สำหรับชื่อแบรนด์ Mister Robot หลายคนคงคุ้นเคยกันดีสำหรับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น แต่สำหรับ “หุ่นยนต์เช็ดกระจก” เขาก็มีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาเช่นเดียวกัน ด้วยจุดเด่นเรื่องราคาประสิทธิภาพในราคาถูก และที่สำคัญมีอะไหล่ขายแยกเวลามีปัญหาก็มีศูนย์บริการคอยช่วยเหลือ ซึ่งมันดีกว่าหลายยี่ห้อที่ขายครั้งเดียวแล้วจบกัน

อุปกรณ์ในกล่อง

ถ้าแถมน้อยต้องไม่ใช่ Mister Robot อย่างแน่นอน งานนี้จึงมาพร้อมกับอุปกรณ์จัดเต็มดังนี้

  • หุ่นยนต์เช็ดกระจก Mister Robot Air Walker
  • ผ้าเช็ดกระจกแบบแห้ง (สีเหลือง) จำนวน 2 ผืน
  • ผ้าเช็ดกระจกแบบเปียก (สีเทา) จำนวน 2 ผืน
  • น้ำยาทำความสะอาดกระจก
  • อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ
  • สายไฟต่อพ่วง
  • เชือกนิรภัย
  • รีโมท
  • คู่มือ

และอุปกรณ์เสริมทั้งหมดนี้ หากใครใช้ไม่พอหรืออยากสั่งเพิ่มก็มีขายแยกครับ

ตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กควบคุมง่าย และเนื่องจากกระจกส่วนใหญ่เป็นสี่เหลี่ยม ตัวเครื่องจึงออกแบบมาไม่เหมือนกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่เป็นวงกลม แต่หุ่นยนต์เช็ดกระจกเป็นสี่เหลี่ยมทำให้เข้าซอกมุมได้ดีกว่า ความสูงตัวเครื่องอยู่เพียง 8.5 เซนติเมตร ให้แรงดูดขนาด 5600Pa ในขณะที่มีเสียงเงียบเพียง 65dB เบากว่าเครื่องดูดฝุ่นทั่วไปที่อยู่ 100dB

การใช้งานไม่ยุ่งยากเพียงแค่กดปุ่มเดียวเพื่อเริ่มและหยุด สามารถใช้ให้แม่บ้านทำความสะอาดเองได้โดยที่ไม่ต้องเรียนรู้อะไรมากนัก แต่หากใครต้องการควบคุมแบบสมบูรณ์แบบ ก็สามารถใช้ผ่านรีโมทหรือแอปพลิเคชันได้เช่นกัน

ตัวเครื่องจะมีมอเตอร์ขนาดใหญ่อยู่ด้านล่าง สองข้างจะเป็นตีนตะขาบแบบรถถัง ส่วนมุมทั้งสี่ด้านจะเป็นเซ็นเซอร์สำหรับการเคลื่อนไหว (ควรทำความสะอาดและไม่มีสิ่งใดบัง) นอกจากนี้ก็จะเป็นตีนตุ๊กแกโดยรอบ เพื่อเอาไว้ติดผ้าเช็ดกระจกที่แถมมา

ผ้าเช็ดกระจกสีเหลือง เหมาะสำหรับการทำความสะอาดแบบแห้ง (ไม่ใช้น้ำยา) เอาไว้สำหรับเช็ดกระจกหรือถูเอาพวกฝุ่นผงขนาดใหญ่ออกไป ก่อนที่จะเริ่มทำความสะอาด อันนี้แถมมาให้ทั้งหมด 2 ผืนด้วยกัน

ผ้าเช็ดกระจกสีเทา เหมาะสำหรับการทำความสะอาดแบบแห้ง (ฉีดน้ำยาลงผ้าได้เลย) เอาไว้สำหรับเช็ดกระจกหรือถูในขั้นตอนสุดท้ายของการทำความสะอาด อันนี้แถมมาให้ทั้งหมด 2 ผืนด้วยกัน

ควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน

หุ่นยนต์เช็ดกระจกตัวนี้ สามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน แต่การทำงานไม่เหมือนกับ Mister Robot Duo WiFi เนื่องจากตั้วนี้จะใช้เทคนิคเป็น Bluetooth เพราะมันไม่เหมาะกับการควบคุมจากนอกบ้านนั่นเอง ส่วนแอปพลิเคชันมีชื่อว่า “WinCleaner” มีทั้งบน App Store (iOS) และ Play Store (Android)

ควบคุมผ่านรีโมท
ควบคุมผ่านรีโมท

แต่หากใครต้องการลดความซับซ้อนลงไปหน่อย อยากใช้วิธีแบบพื้น ๆ ก็สามารถเลือกควบคุมผ่านรีโมทได้เช่นกัน (แต่ต้องชี้ไปที่เครื่องเหมือนตอนเราใช้รีโมททีวี) ส่วนการควบคุมก็ไม่มีอะไรยาก ดูเพียงครั้งแรกก็เข้าใจได้เลย

รีวิวทดสอบใช้งานจริง

โดยส่วนตัวแล้วผมอาศัยอยู่คอนโด ห้องชั้นไม่สูงและหันหน้าเข้าทางด่วน (ฝุ่นเยอะ) ซึ่งกระจกระเบียงอยู่ด้านนอกไม่สามารถทำความสะอาดได้ โดยตั้งแต่ซื้อมาเกือบสิบปีแทบไม่เคยได้เช็ดอะไรเลย และในวันนี้จะมารีวิวทดสอบกันว่า Mister Robot Air Walker จะช่วยผมทำความสะอาดได้มากน้อยแค่ไหน

เริ่มต้นการใช้งานครั้งแรก คือการต่ออะแดปเตอร์ชาร์จไฟเข้ากับสายไฟต่อพ่วง ซึ่งตัวพ่วงก็มีลักษณะพิเศษ คือ เป็น เกลียวหมุน ๆ ทำให้มั่นใจว่าสายพ่วงจะไม่หลุดออกจากกันอย่างง่ายดายซึ่งมีความยาวรวมแล้วประมาณ 6 เมตรจากปลั๊กไฟเลยทีเดียว

สายชาร์จและตัวพ่วงแบบเกลียวหมุน
สายชาร์จและตัวพ่วงแบบเกลียวหมุน
สายต่อและสายนิรภัย
สายต่อและสายนิรภัย

การใช้งานควรเสียบปลั๊กตลอดเวลา แต่ถึงอย่างไรก็มีแบตเตอรี่ภายในเอาไว้ฉุกเฉิน เผื่อไฟตกหรือไฟกระชาก ตัวเครื่องก็จะไม่ร่วงหล่นลงมาเพราะมีแบตเตอรี่อยู่อีก 20 นาที หลังจากนั้นก็ผูกเชือกนิรภัยเข้ากับตัวเครื่องเพื่อความปลอดภัย

สภาพกระจกที่ไม่เคยเช็ด (ด้านนอก) มาเกือบ 10 ปี

ตามคำแนะนำคือให้ใช้ผ้าเช็ดกระจกแบบแห้ง (สีเหลือง) ไปก่อนซึ่งสภาพออกมาดำมากกกก บอกตามตรงว่ากลัวหุ่นยนต์จะดูดกระจกไม่ติดเหมือนกัน เพราะคราบสกปรกติดแน่นจนกระจกเรียบ ๆ เริ่มรู้สึกมีผิวสากไปด้วยฝุ่น

หลังจากนั้นก็เช็ดด้วยผ้าเช็ดกระจกแบบเปียก (สีเทา) พร้อมกับฉีดน้ำยาทำความสะอาดกระจกลงไปนิดหน่อย ซึ่งอันนี้ก็บอกตามตรงว่ามันใสกว่าเดิมเยอะ แต่ถ้าจะเอาให้เอี่ยมคงต้องทำอีกประมาณสัก 3-5 รอบ (ของผมมันสกปรกมาก) แต่ถ้าเทียบกับ Before & After สามารถดูได้จากภาพด้านบน ซึ่งฝั่งซ้ายจะเป็นด้านที่ยังไม่ได้ทำนั่นเอง

กระจกหลังทำความสะอาด
กระจกหลังทำความสะอาด
กระจกก่อนทำความสะอาด
กระจกก่อนทำความสะอาด

จะเห็นได้ว่ากระจกของผมค่อนข้างสกปรก นอกจากเหตุผลที่ว่าไม่เคยทำความสะอาดแล้ว ส่วนหนึ่งเกิดจากฝุ่นมหาศาลบริเวณทางด่วน บวกกับพวกไอน้ำมันจากการทำอาหารด้วย เลยทำให้กระจกค่อนข้างสกปรกกว่าที่ควรเป็น เพราะหากเป็นกระจกตามบ้านทั่วไปจะไม่ขนาดนี้

เช็ดวัสดุอื่น

ไม่เพียงแค่กระจกใสเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้กับพวกกระจกเงาได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น พื้นไม้เรียบ, โต๊ะกินข้าว, หินอ่อน, ฯลฯ และหากเทียบกับทำความสะอาดด้วยมือจะช้ากว่า แต่หุ่นยนต์มีข้อได้เปรียบตรงที่ “แรงดูด” ที่เหมือนกับการที่เราใช้แรงกดลงไปเพื่อเช็ด จึงทำให้สามารถทำความสะอาดได้ล้ำลึกกว่า

หากใครมีฉากกั้นอาบน้ำก็สามารถทำความสะอาดได้เช่นกัน แต่ต้องระมัดระวังเรื่องน้ำนิดนึง เพราะตัวหุ่นยนต์เองไม่กั้นน้ำ แต่ถ้าเป็นแค่ผิวน้ำบริเวณใต้เครื่องนิดหน่อยก็ไม่เป็นไรครับ ส่วนพวกกระเบื้องผนังห้องน้ำอันนี้ก็สบายมาก ขอเพียงแค่มีพื้นผิวเรียบก็พอครับ

ข้อดี

  1. แถมอุปกรณ์ให้มาครบเครื่อง
  2. ทำงานเงียบ เสียงไม่ดังมาก
  3. สายไฟยาว (มาก) ใช้กับกระจกบานใหญ่ใด้
  4. ใช้งานง่ายเพียงปุ่มเดียว มีรีโมทและแอปฯ
  5. แบตเตอรี่สำรองฉุกเฉินนานถึง 20 นาที

ข้อเสีย

  1. ข้อจำกัดเฉพาะพื้นผิวเรียบ
  2. ราคาค่อนข้างสูงไปนิด แต่เทียบกับคุณสมบัติการใช้งาน ก็โอเคเลยครับ

สรุป

ถึงแม้จะบอกว่าราคาค่อนข้างสูง แต่หากเทียบราคายี่ห้ออื่นในท้องตลาดก็หลักหมื่นเหมือนกัน สำหรับคนที่อยู่บ้านหลังเล็กไม่มีกระจกอะไรมาก อาจไม่ค่อยคุ้มกับเงินเท่าไหร่ แต่สำหรับคนอยู่คอนโดหรือสำนักงานที่มีกระจกขนาดใหญ่ ถือว่าเป็นสิ่งของจำเป็นที่หาอะไรมาชดเชยไม่ได้เลย

ติดตามข่าวสารได้ที่ Website และ Fanpage

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial