ทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยีไร้สาย on-the-go แบบใหม่ เทคโนโลยีการชาร์จไร้สาย (Qi) ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ แต่สำหรับอุปกรณ์อย่าง iPhone ที่ไม่รองรับสิ่งนี้แล้ว ถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าตื่นเต้นพอควร นอกจากความสะดวกในการใช้งานแล้วยังช่วยปกป้องสายชาร์จ iPhone ไม่ให้ขาดก่อนเวลาอันควรอีกด้วย

Review_Magnitech-N7 (1)

Magnitech N7 ราคาเฉพาะ Wireless Charging Transmitter อยู่ที่ 1,800 บาท แต่ถ้าหากต้องการซื้อเป็นชุดพร้อมเคสราคาก็จะแบ่งเป็นตามรุ่นดังนี้

  • Magnitech N7 + Wireless Charging Receiver for iPhone 5/5S (B/W) 2,600 บาท
  • Magnitech N7 + Wireless Charging Receiver for iPhone 4/4S (B/W) 2,550 บาท
  • Magnitech N7 + Wireless Charging Receiver for Samsung Galaxy S4 (Chipset) 2,450 บาท
  • Magnitech N7 + Wireless Charging Receiver for Samsung Galaxy S3 (Chipset) 1,900 บาท

สนใจสินค้าสามารถดูข้อมูลและสั่งซื้อได้ที่ www.mymagnitech.com และ www.facebook.com/MyMagnitech

Review_Magnitech-N7 (2)

โดยปกติแล้ว Magnitech N7 สามารถใช้งานกับสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่มีเทคโนโลยีชาร์จไร้สายได้เลย (หรือถ้าไม่มีก็เพียงแค่ใช้เคสเสริม) ในตลาดปกติเราจะหาที่ชาร์จไร้สาย (Wireless Charging) ได้ไม่ยาก แต่ถ้านับเฉพาะอันที่มีแบรนด์หรือมีบริษัทนำเข้าที่น่าเชื่อถือได้ ก็เหลือเพียงแค่ไม่กี่แบรนด์เท่านั้น

Review_Magnitech-N7 (3)

ปลอดภัยและเชื่อถือได้

อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับไฟฟ้ายังไงก็ต้องเลือกอันทีปลอดภัยไว้ก่อน Magnitech N7 มีการรับประกันอย่างเป็นทางการ (ไม่ใช่ประกันปากเปล่าเหมือนของจีนแดง) และอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยี Qi นี้ผ่านการรับรองมาตรฐานการชาร์จแบบไร้สายที่กำหนดโดย WPC รวมถึงชิปเซ็ตที่ชาร์จไร้สายนี้นำเข้าจาก Texas instrument ในสหรัฐอเมริกา ส่วนอแดปเตอร์ก็ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน CE/UL/FCC

Review_Magnitech-N7 (4)

อุปกรณ์ภายในกล่องมีมาตรฐานทุกชิ้น (ถ้ามาตรฐานเฉพาะที่ชาร์จไร้สาย แต่อแดปเตอร์ทำบ้านไฟไหม้นี่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน) เท่าที่ดูงานประกอบทุกอย่างก็ดูดีมีมาตรฐานดีครับ

Review_Magnitech-N7 (5)

อแดปเตอร์แนะนำให้ใช้ของมันโดยเฉพาะเนื่องจากมันจ่ายไฟ 1.5A (ปกติอแดปเตอร์มือถือทั่วไปจ่าย 1A)

Review_Magnitech-N7 (6)

ด้านท้ายของ Magnitech N7 เป็นพอร์ต Micro USB มาตรฐาน สามารถใช้ร่วมกับ Power Bank ได้ถ้าหาก Power Bank ของคุณจ่ายไฟได้ 1.5A หรือมากกว่า (ส่วนมากเราจะเจอ 1A และ 2A)

Review_Magnitech-N7 (7)

ตัวของ Magnitech N7 สามารถจ่ายไฟได้ 1A อัตราสูญเสียพลังงานค่อนข้างสูงเนื่องจากเป็นการส่งพลังงานผ่านอากาศ (รับมา 1.5A ปล่อยออก 1A) แต่ทั้งนี้ก็ไม่ต้องกังวลไปว่ามันจะทำให้ค่าไฟสูงขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วมันก็แค่ไฟ 5V เท่านั้นเอง

นอกจากนี้ Magnitech N7 Wireless Charging ยังสามารถใช้งานได้กับมือถือรุ่นอื่น ๆ ที่มีระบบ Qi เช่น Nokia Lumia 920, 1520, i-mobile IQ X OCTO, LG Optimus G Pro, Google Nexus 4, Nexus 5, Nexus 7 ซึ่งติดตั้งอุปกรณ์รับสัญญาณชาร์จไร้สาย Qi มาให้เป็นมาตรฐานแล้ว ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริม

Review_Magnitech-N7 (8)

iPhone ชาร์จไร้สายได้มั้ย?

เนื่องจาก iPhone ไม่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้เคสจาก Magnitech ในการเป็นตัวกลาง สำหรับชาร์จและส่งพลังงานอีกที (ตัวนี้รองรับทั้ง iPhone 5/5s ถ้าจะใช้กับ iPhone 4/4s ต้องซื้ออีกตัวหนึ่ง)

Review_Magnitech-N7 (9)

สำหรับตัวเคสเป็นพลาสติกที่มีความหนาเล็กน้อย เวลาใส่ก็สไลด์เข้าไปกับ iPhone ได้เลยครับ แต่ถ้าคุณใช้ Samsung Galaxy S3 , S4, S5 และ Note 3 ถึงแม้ว่ารุ่นเหล่านี้จะไม่รองรับการชาร์จไร้สาย แต่ Samsung ได้ออกแบบจุดเชื่อมต่อไว้ทางด้านหลังข้างแบตเตอร์รี่ การใช้งานเพียงแค่ติดตั้งอุปกรณ์รับสัญญาณชาร์จที่เป็นชิพเซ็ตแล้วใช้ฝาหลังเดิมปิดทับลงไป ก็สามารถใช้งานได้กับแท่นชาร์จไร้สายแล้ว (ส่วน iPhone ต้องผ่านเคสเท่านั้น)

Review_Magnitech-N7 (10)

ตัวเคสมีความยาวเพิ่มมาอีกเล็กน้อย ไม่ให้ความรู้สึกหนามากและเนื่องจาก iPhone 5/5s มีความบางอยู่แล้ว เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันหนาซักเท่าไหร่ เรียกว่ากระชับมือมากกว่าครับ

Review_Magnitech-N7 (11)

ตัวเคสมีความแข็งแรงสามารถใช้กันกระแทกได้ตามปกติ (ไม่ต้องถนอมมากนัก)

Review_Magnitech-N7 (12)

โดยรวมแล้วงานประกอบทำออกมาได้ค่อนข้างดี แถมตัวเคสยังมีความแข็งมาก ๆ ช่วยกันกระแทกไปในตัว

Review_Magnitech-N7 (13)

เวลาชาร์จนั้นเพียงแค่วาง iPhone ลงบน Magnitech N7 ไม่ต้องกดปุ่มอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น ก็จะทำกาศชาร์จผ่าน “อากาศ” ให้โดยอัตโนมัติ สามารถลดปัญหาความล้มเหลวเมื่อเชื่อมต่อกระแสไฟได้ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้วงจรการถ่ายโอนกระแสไฟฟ้ามีความสมบูรณ์ ช่วยให้การถ่ายโอนกระแสไฟฟ้ามีประสิทธิภาพเหมือนกระทำผ่านทางสายไฟ

ส่วนการชาร์จจะเป็นไปอย่างช้า ๆ ไม่เร็วเท่าชาร์จทางสายไฟผ่านอแดปเตอร์ปกติ (แต่ก็ยังเร็วกว่าชาร์จผ่านคอมฯ อยู่มาก) การชาร์จจะไม่เพิ่มความร้อนให้กับเครื่อง ที่สำคัญคือคุณจะได้รับความสะดวกสบายทุกครั้งที่วางโทรศัพท์ลงเพื่อชาร์จหรือยกหูโทรศัพท์คุยโดยไม่ต้องวุ่นวายกับสายชาร์จอีกด้วย

ระยะเวลาในการชาร์จ 1.5-2 ชม. จาก 0-100%

Review_Magnitech-N7 (14)

สำหรับการวางไม่จำเป็นต้องเล็งหัวหรือท้ายให้วุ่นวาย (วางขวาง ๆ แบบในรูปก็ยังได้) ส่วนข้อเสียจะมีอย่างเดียวคือถ้าเป็น iPhone จะไม่สามารถ Sync ข้อมูลกับ PC ได้ (แต่ถ้าเป็น Galaxy แค่เป็นชิปติดในฝาหลังได้เลย) แต่ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวนี้มีแอปฯ หลายตัวบน iPhone สามารถส่งรูปไปยัง PC ในวง WiFi ได้ ส่วนตัว iTunes ก็มีความสามารถ Sync ผ่าน WiFi เช่นเดียวกัน

ข้อดี

  1. ใช้งานสะดวกและง่าย
  2. น้ำหนักเบา 104 กรัม เคลื่อนย้ายสะดวก
  3. สามารถใช้กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นได้
  4. มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง
  5. มีการรับประกันจากบริษัทถึง 2 ปี

ข้อเสีย

  1. ราคาค่อนข้างสูง

สรุป

เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้งานภายในบ้าน (โดยเฉพาะห้องนอนและห้องนั่งเล่น) หรือบนโต๊ะในร้านกาแฟและโต๊ะทำงาน สำหรับคนที่ต้องหยิบโทรศัพท์อยู่บ่อย ๆ หรือต้องรับสายอยู่บ่อย ๆ จะช่วยได้มากเลยทีเดียว ไม่ต้องเสียเวลาถอดหรือเสียบสายอยู่บ่อย ๆ ถือว่าเป็นการซื้อความสะดวกก็แล้วกันครับ กับสิ่งของที่ต้องใช้ทุกวันแบบนี้หารเฉลี่ยก็ตกวันละไม่กี่บาทเอง

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial

### กิจกรรมท้ายรีวิว ###

คำถามง่าย ๆ เพียงแค่ตอบว่า “คุณจะนำ Magnitech N7 ไปใช้กับสมาร์ทโฟนรุ่นอะไร?” (อย่าลืม Login ก่อนตอบคำถาม … เพื่อที่ว่าเราจะได้ติดต่อคุณได้ หากคุณได้รางวัล!) จากนั้นก็แชร์รีวิวนี้ผ่านทาง Facebook หรือ Twitter เพียงเท่านี้ก็จะมีสิทธิลุ้นรับ Magnitech N7 Wireless Charging Transmitter จำนวนถึง 5 รางวัล !!! อย่าลืมชวนเพื่อน ๆ มาร่วมสนุกด้วยกันประกาศผลผู้โชคดีวันที่ 7 กันยายนนี้ !!!