มาตรฐาน USB-C เริ่มเป็นที่แพร่หลายในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีหลายอุปกรณ์ที่ใช้ USB-A ซึ่งการพกอะแดปเตอร์ทุกชนิดติดตัวจึงเป็นเรื่องลำบาก Innergie PowerJoy 30C จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ เพราะไม่เพียงแค่รวมแบบ 2-In-1 แต่ยังมีการออกแบบให้มีขนาดเล็กลง รวมทั้งหัวปลั๊กสามารถปรับหมุนได้ ทำให้สามารถปรับทิศทางปลั๊กชาร์จ และไม่บดบังช่องเสียบปลั๊กไฟอื่น

Innergie PowerJoy 30C
Innergie PowerJoy 30C

Innergie PowerJoy 30C

อะแดปเตอร์ USB-C+A Wall Charger รุ่นนี้มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1,490 บาท พร้อมการรับประกัน 3 ปี (แบรนด์อื่นส่วนใหญ่จะรับประกันอะแดปเตอร์เพียง 6-12 เดือน) แถมยังกล้ารับประกันความปลอดภัย ด้วยวงเงินสูงสุดถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา อาจดูเหมือนโม้แต่คือเรื่องจริงครับ

ตอนนี้มีจัดโปรโมชั่นนำหัวชาร์จเก่า ยี่ห้ออะไรก็ได้มาแลกส่วนลด 500 บาทในการซื้อ PowerJoy 30C ที่ iStudio by Coperpwired, iStudio by SPVi, dotlife ทุกสาขา จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้เท่านั้น

สเปค | Innergie PowerJoy 30C

  • USB-A
    • 5V/2.4A
  • USB-C
    • 5V/3A
    • 9V/3A
    • 12V/2.5A
    • 15V/2A
    • 20V/1.5A
  • USB-A + USB-C
    • 5V DC/5.4A (สูงสุด)
  • Output Power
    • 30W
  • ขนาด 56 x 56 x 28 มม.
  • น้ำหนัก 96 กรัม

การออกแบบอะแดปเตอร์รุ่นนี้คือซื้อตัวเดียวจบไม่วุ่นวาย รองรับกระแสไฟ AC ได้ทุกที่ทั่วโลกตั้งแต่ 110V – 240V ภายในกล่องมาพร้อมกับขาปลั๊กที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ถึง 3 แบบ สำหรับขาปลั๊กแบบ US, EU, UK สามารถใช้งานได้ทุกที่ทั่วโลกกว่า 150 ประเทศ ส่วนวิธีเปลี่ยนขาปลั๊กก็แค่หมุนแล้วก็จบ

ปรับเปลี่ยนทิศทางขาปลั๊กได้ 360 องศา

ปัญหาหลักของปลั๊กไฟบ้านเรารวมถึงปลั๊กไฟทั่วโลก ก็คือการเสียบใช้งานร่วมกันแล้วระยะห่างของปลั๊กแคบเกินไป และด้วยความที่อะแดปเตอร์ต่างแบรนด์ต่างผลิต ก็จะมีการหมุนเอียงคนละทิศทาง ทำให้ไปบังช่องเสียบปลั๊กไฟช่องอื่นบ้าง จะดึงออกจัดระเบียบใหม่ก็เกรงใจคนอื่นเขา (และบางครั้งมันก็ยากที่จะจัดระเบียบ) ทีนี้ทำไงดี

อันนี้เป็นเรื่องประทับใจพิเศษ เพราะด้วยนวัตกรรมการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของ Innergie ทำให้สามารถปรับทิศทางขาปลั๊กได้ถึง 360 องศา ช่วยให้เราเลือกปรับเปลี่ยนทิศทางได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแนวตั้งหรือแนวนอน เพียงเท่านี้ก็หมดปัญหาแล้วครับ

Innergie แบรนด์อะไรไม่เห็นรู้จัก

ตั้งแต่ต้นบทความผมพิมพ์คำว่า “Innergie” ไปทั้งหมด 5 ครั้ง หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อแบรนด์นี้สักเท่าไหร่ เพราะเขาไม่ได้ผลิตอุปกรณ์เสริมหลากหลาย และใกล้ตัวผู้ใช้เหมือนกับ Belkin หรือ Moshi ทำให้หลายคนอาจไม่ค่อยคุ้นหูกันสักเท่าไหร่นัก

Innergie ก่อตั้งในปี 2008 และเป็นหนึ่งในธุรกิจของ Delta ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในการจัดการพลังงาน และมีประสบการณ์ด้านเทคนิคขั้นสูงเป็นเวลากว่า 40 ปี มีสำนักงานขายทั่วโลก และโรงงานผลิตในประเทศไต้หวัน จีน สหรัฐอเมริกา ยุโรป ประเทศไทย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินเดีย เม็กซิโก และบราซิล

Delta เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตอะแดปเตอร์ โดยส่วนมากจะเน้นผลิตให้กับแบรนด์อื่น (OEM) และหากคุณสุ่มหยิบอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊คหรือสมาร์ทโฟนในบ้านมา ก็มีความเป็นไปได้สูงที่อะแดปเตอร์ชิ้นนั้นจะผลิตโดย Delta นั่นเองครับ

กลับเข้าสู่รีวิวกันต่อหากดูจากภาพด้านบนแล้วจะเห็นพอร์ตคู่ USB-A และ USB-C รองรับการชาร์จอุปกรณ์พกพา 99% บนโลกใบนี้ และสัญลักษณ์ PD ที่อยู่ตรง USB-C ย่อมาจาก Power Delivery ที่ปรับกระแสไฟขาออกอัตโนมัติ โดยหากคุณอ่านรีวิว iPhone X หรือ iPhone 8 จะค้นพบว่ามันรองรับความสามารถนี้ด้วย (แต่ต้องซื้อสาย USB-C to Lightning)

ด้วยขนาดที่ค่อนข้างเล็กบวกกับน้ำหนักเพียง 96 กรัม ทำให้เราสามารถพกพาไปให้ได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งยังมีขาปลั๊กให้เปลี่ยนถึง 3 แบบ จึงทำให้กลายเป็นอะแดปเตอร์สำหรับพกพาอย่างแท้จริง

ความหนาก็มากกว่าเหรียญบาทอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จะมีติเล็กน้อยก็ตรงที่ขาปลั๊กหากสามารถพับลงได้เหมือน Apple จะถูกใจกว่านี้มาก (สำหรับรุ่น PowerJoy Pro 24 จะเป็นแบบขาปลั๊กพับลงได้) แต่สำหรับรุ่น PowerJoy 30C เพิ่มฟังก์ชั่นปรับทิศทางของขาปลั๊ก และเปลี่ยนขาปลั๊กได้แทน อีกทั้งยังได้รับรางวัล Good Design Award 2017

5 ระบบความปลอดภัย

สาเหตุที่มีการกล้ารับประกันความปลอดภัย ด้วยวงเงินสูงสุดถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา นั่นก็เพราะทางผู้ผลิตได้พัฒนา 5 ระบบป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าภายในตัวเครื่องผ่านทาง InnerShield™ อันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ

  1. OCP: การป้องกันกระแสไฟเกิน
  2. OVP: การป้องกันแรงดันไฟฟ้าเกิน
  3. OTP: การป้องกันอุณหภูมิสูงเกิน
  4. OPP: การป้องกันพลังงานเกิน
  5. SCP: การป้องกันการลัดวงจร

นอกจากนี้ยังผสานกับเทคโนโลยี SmartBoost™ ผ่านระบบตรวจสอบการชาร์จอุปกรณ์ และระบบการชาร์จอย่างรวดเร็ว โดยจะมีการตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนการชาร์จ เพื่อให้ประสิทธิภาพตามที่แต่ละอุปกรณ์ต้องการอย่างสูงสุด

เปรียบเทียบขนาดระหว่าง Innergie PowerJoy 30C (ซ้าย), Apple 87W USB-C Power Adapter (กลาง), Apple 5W USB Power Adapter (ขวา) หากให้เทียบก็น่าจะพอกับขนาดที่ชาร์จ iPad

น่าเสียดายที่ iPhone 8, 8 Plus และ iPhone X แถมมาให้เพียง Apple 5W USB Power Adapter ซึ่งชาร์จได้ช้ามาก แต่ถึงอย่างไรหากคุณไม่ใช้ความสามารถของ USB-C (PD) และชาร์จผ่าน USB-A ก็ยังคงได้ความเร็วที่สูงกว่าอยู่ดี จากการทดสอบชาร์จ iPhone 7 Plus ประมาณ 1.8 ชั่วโมง จนแบตเตอรี่เต็ม 100% เทียบกับของ Apple 5W USB Power Adapter ซึ่งทำได้เพียง 60%

แต่หากคุณชาร์จด้วย USB-C (PD) กับสมาร์ทโฟน iPhone 8, 8 Plus และ iPhone X (หรือสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นที่รองรับ) จะได้ความเร็วของแรงดันไฟออก 9V ทำให้สามารถชาร์จ 50% ได้ภายในครึ่งชั่วโมง และเร็วกว่าการชาร์จปกติถึง 2.3 เท่า

ทดสอบใช้งานชาร์จ MacBook ร่วมกับ iPhone ตอนนี้ไม่ต้องพกอะแดปเตอร์สองตัว ตอนนี้ชีวิตมีความสุขมากครับ ลดภาระน้ำหนักในกระเป๋าลงได้เยอะ ส่วนอนาคตก็ไม่ต้องกังวลเพราะอุปกรณ์ฝั่ง Android ต่างก็ปรับเป็น USB-C กันแทบทั้งหมดแล้วสำหรับรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Galaxy Note 8, Galaxy S8 หรือ Google Pixel 2 เรียกได้ว่าซื้อครั้งเดียวใช้กันได้ยาว ๆ เลยครับ

ข้อดี

  1. ชาร์จได้ทั้ง USB-A และ USB-C (PD)
  2. หัวปลั๊กหมุนได้ 360 องศา
  3. ขาปลั๊กเปลี่ยนได้ 3 แบบ
  4. ระบบความปลอดภัย 5 ขั้นตอน
  5. การรับประกัน 3 ปี
  6. มีระบบ SmartBoost ตรวจจับการชาร์จอุปกรณ์ ทำให้ชาร์จได้เร็วกว่า รองรับ Fast Charge ของ iPhone X, 8, 8 Plus

ข้อเสีย

  1. ราคาเทียบกับ 5W Wireless Charger แต่ชาร์จได้เร็วกว่า ประหยัดเวลามากกว่า และชาร์จได้อุปกรณ์ที่หลากหลายกว่า
  2. มีขายสีขาวสีเดียว

สรุป

ตัวเดียวจบไม่ต้องการอะไรอีก ได้ทั้งพอร์ต USB-A และ USB-C รองรับการชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาได้อย่างหลากหลาย เหมาะกับยุคครึ่ง ๆ กลาง ๆ ในตอนนี้ที่หลายอุปกรณ์ยังจำเป็นต้องพึ่ง USB-A นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาปลั๊กชนกันด้วยหัวปลั๊กสามารถปรับหมุนได้ถึง 360 องศา และเปลี่ยนขาปลั๊กต่างประเทศได้ถึงสามแบบ เหมาะสำหรับคนที่เดินทางบ่อย

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial