Samsung เองมีหูฟังของตัวเองหลายรุ่นมาก และสำหรับ Galaxy Buds2 Pro ก็เปิดตัวมาเพื่อคู่กับ Galaxy Z Fold4 และ Galaxy Z Flip4 โดยเฉพาะเลยแหล่ะ แม้ว่าความจริงมันจะใช้กับรุ่นอื่นได้ด้วยก็ตาม แต่หลายคนก็นิยมซื้อเป็นชุดคู่กับสมาร์ตโฟนหรือสมาร์ทวอทช์ เพียงเพราะว่าสีและโทนมันดูไปทางทิศทางเดียวกันดี (ซึ่งผมเองก็คิดเช่นนั้น)
Galaxy Buds2 Pro
หูฟังรุ่นนี้มาพร้อมกับสี Bora Purple, White และ Graphite (ตัวที่รีวิว) โดยมีราคาอยู่ที่ 6,990 บาท พร้อมกับจุดเด่นคือรองรับเสียงระดับ Hi-Fi 24-bit (หูฟังทั่วไป 16-bit) และมีระบบตัดเสียง ANC ด้วยไมโครโฟนถึง 3 ชุด นอกจากนี้ยังเปิดประสบการณ์ 360 Audio ที่มีการเล่นเสียงแบบหลายทิศทางโดยตรง (5.1ch / 7.1ch) รองรับ Dolby Atmos และ Head Tracking ที่ล้ำหน้ากว่าเดิม สามารถระบุทิศทางของเสียงขณะที่ขยับศีรษะได้
ตัวหูฟังปรับจูนโดย AKG ซึ่งก็เป็นบริษัทเครื่องเสียงชื่อดังที่ทาง Samsung ซื้อมาอีกที แบตเตอรี่ตามสเปกคือสามารถใช้งานได้ 5-18 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับโหมดที่ใช้งาน) มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ สามารถกันน้ำได้ระดับ IPX7 ใส่ออกกำลังกายคู่กับ Galaxy Watch5 หรือสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นได้สบาย หรือจะเอาไว้ใช้งานในชีวิตประจำวันอันนี้ก็เหมาะเหมือนกัน
การใช้งานก็ไม่มีอะไรมาก หากคุณใช้สมาร์ตโฟน Samsung จะได้เปรียบเรื่องความสะดวก เพียงแค่เปิดเคสแล้วแตะหูฟัง ระบบจะเชื่อมต่อและโหลด Galaxy Buds2 Pro Manager มาให้เสร็จเรียบร้อย (แต่ถ้าใช้แบรนด์อื่นก็ได้เหมือนกัน) ดีไซน์ของเคสชาร์จจะขนาดเล็กน่ารัก สามารถพกพาไปไหนได้สะดวกด้วยขนาดประมาณ 50 x 50 มม. สามารถใช้คุณสมบัติ Auto Switch เพื่อสลับระหว่างอุปกรณ์ Samsung Galaxy ได้อย่างชาญฉลาด
ต่อเสร็จจากนั้นก็จะได้หน้าแอปพลิเคชัน Galaxy Wearable อันนี้ช่วยให้ควบคุมความสามารถของหูฟังได้ 100% ผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 สามารถตั้งค่าตัดเสียงรบกวนภายนอกหรือจะฟังเสียงรอบข้างก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถปรับ EQ เองได้อย่างอิสระ (หรือใครปรับไม่เก่งแบบผมก็มีชุดปรับให้) โดยรวมแล้วมีลูกเล่นให้ใช้งานเกี่ยวกับตัดเสียงรบกวนค่อนข้างเยอะ
เนื่องจากเป็นหูฟัง In-ear หลายคนอาจกังวลว่าจะเจ็บหูมั้ย ซึ่งตรงนี้มีเทคโนโลยีการไหลของอากาศที่พัฒนากว่าเดิม ช่วยลดแรงดันในช่องหูและลดเสียงรบกวนให้เหลือน้อยที่สุดได้ ส่วนตรงจุกยางที่ได้มาค่อนข้างนุ่ม สามารถเลือกเปลี่ยนได้ตามขนาดหู นอกจากนี้ยังมีระบบทดสอบว่าเราใส่แล้วพอดีมั้ย เพื่อที่จะให้คุณภาพเสียงที่ออกมานั้นดีที่สุด และเรื่องน้ำหนักไม่มีอะไรต้องห่วงเพราะมันเบามากเพียง 5.5 กรัม รวมถึงยังมีขนาดเล็กกว่ารุ่นเก่า 15%
เท่าที่ทดสอบกับตัวเองและนางแบบประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก็ให้ความรู้สึกสวมใส่ที่สบายไม่เจ็บหูอย่างที่คิด ความล้ำของมันคือรู้ว่าเวลาเราคุยกับใครมันจะลดเสี่ยงของดนตรีให้อัตโนมัติ (รวมถึงเปิดรับเสียงจากข้างนอกให้ด้วย) ทำให้เรารู้ความดังของเสียงตัวเองไม่ต้องตระโกนคุยกันให้ดังเกินความจำเป็น อารมณ์ประมาณว่า “ห๊ะ … อะไรนะ” จนต้องถอดหูฟังแบบนี้ไม่จำเป็นเลย
สำหรับคอเพลงคุณสามารถฟัง 24-bit Hi-Fi (แต่ส่วนตัวผมไม่ได้ใช้ขนาดนั้น) เพราะด้วยหูฟังลำโพง Coaxial 2-way (Tweeter + Woofer) ก็ถือว่าให้คุณภาพที่เกินพอแล้ว การฟังเพลงในย่านสูงหรือเบสให้ความหนักแน่นอนมาก แถมสายดูหนังและเล่นเกมยิ่งสะใจเข้าไปอีก เพราะสามารถเปิดประสบการณ์รอบทิศทาง 360 องศา ด้วยระบบของ Dolby Atmos ได้อีก ส่วนเรื่องการใช้งานพื้นฐานก็หายห่วงโทรดังฟังชัด ตัดเสียงลมและเสียงภายนอกได้มากถึง -33 เดซิเบล
โดยรวมแล้วค่อนข้างประทับใจ เพราะเป็นหูฟังไฮเทคที่มีลูกเล่นเยอะยังกับ Gadget ชิ้นหนึ่ง ส่วนการใช้งานของมันก็เกินตัว สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้สบาย หรือใครจะไปสายออกกำลังกายมันก็ทั้งเบาและกันน้ำอีก ดูหนังหรือใช้เล่นเกมก็เลิศ ฟังเพลงไปจะคุยกับคนอื่นก็ไม่สะดุดต้องคอยถอดบ่อย ๆ แถมยิ่งใช้กับอุปกรณ์ซัมซุงด้วยกัน ยิ่งเพิ่มความสะดวกมากขึ้นไปอีก
ข้อดี
- 24-bit Hi-Fi ลำโพง 2 ทิศทาง
- ANC (ระบบตัดเสียงรบกวน) ไมโครโฟน 3 ตัว
- รองรับการเล่นเสียง 360 Audio
- กันน้ำ IP7
ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างสูง (แนะนำซื้อตอนมีส่วนลด)
สรุป
เรียกว่าไม่มีไม่ได้กับ Galaxy Buds2 Pro โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้สมาร์ตโฟนหรือสมาร์ทวอทช์ (หรือก็ใช้มันให้หมดไปเลย) ทั้งสีและการออกแบบเข้าชุดกันอย่างอัศจรรย์ แถมในเรื่องของ Software ก็เพิ่มความสะดวกในการเชื่อมต่อหรือสลับอุปกรณ์เข้าไปอีก หากได้ลองแล้วจะหลงรักว่าทำไมมันเข้ากันดีขนาดนี้ ติดเพียงแค่เรื่องราคาอาจจะสูงไปนิด แต่ก็เหมือนทาง Samsung จะรู้ใจชอบจัดโปรโมชั่นขายคู่กันอยู่บ่อย