เดี๋ยวนี้มือถือดี ๆ จอสวย ๆ ราคาไม่แรงออกมาให้เราเลือกเยอะแยะเต็มไปหมดแต่จะมีสักกี่ยี่ห้อที่ผลิตมือถือออกมาแล้วคุณภาพกับราคาน่าคบหากับสีสันของตัวฝาหลังที่ชวนให้เราอยากสัมผัสอยากเป็นเจ้าของในราคาครึ่งหมื่นบาทนี่ก็เช่นกันกับ DooGee (ดูจี) รุ่นใหม่ Valecia 2 Y100 รุ่นน้องเล็กที่ออกมาพร้อมกับ Valencia 2 Y100 Pro สำหรับ DooGee Valencia 2 Y 100 รุ่นจิ๋วนี้จะบอกว่า Spec กับราคาเป็นอะไรที่น่าทึ่งทีเดียวไม่รอช้าไปแกะกล่องดูสเปคกันดีกว่าครับ
[divider]
Full Specification
- Dual SIM รองรับ เครือข่าย GSM 850/900/1800/1900 MHz, WCDMA 850/900/1900/2100 MHz
- จอแสดงผล SHARP พร้อมกระจก Corning Gorilla Glass 3
- ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล กว้าง 5 นิ้ว ผลิตด้วยเทคโนโลยี OGS (One-Glass-Solution)
- ระบบปฏิบัติการ Doogee OS บนพื้นฐาน Android 4.4 KitKat
- หน่วยประมวลผล MediaTek MT6592, 1.4 GHz Octa Core
- หน่วยความจำ RAM 1 GB + ROM 8 GB
- สนับสนุนการ์ดหน่วยความจำ microSD สูงสุด 64 GB
- กล้องด้านหลัง 13 ล้านพิกเซล (ใช้เซ็นเซอร์รับภาพจาก Sony) รูรับแสง f/2.0 แฟลช LED ระบบออโต้โฟกัส – โหมดถ่ายภาพบิวตี้
กล้องด้านหน้า 8 ล้านพิกเซล - การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.0, Micro USB (USB 2.0), USB OTG
- ระบบนำทาง GPS/A-GPS
- เครื่องเล่นวิทยุ ในระบบ FM
- ขนาด 142.5 x 71.4 x 8.25 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 148 กรัม
- แบตเตอรี่ 2200 mAh
- โหมดชาร์จเร็ว ชาร์จ 30 นาที ได้พลังงานถึง 70%
Current Price : 4,990 Bath
เรื่องการการจัดสรรพื้นที่จัดเก็บข้อมูล Partition ที่แบ่งมาใน DooGee Valencia 2 Y100
จะเป็นแบบ 2 ส่วนคือ 1.ส่วนจัดเก็บระบบแบ่งไป 2GB 2.พื้นที่จัดเก็บแอป ข้อมูลไฟล์รูปภาพ / เพลง / วีดีโอ อื่น ๆ ที่เราทำการก๊อปปี้และติดตั้งแอปลงในตัวเครื่องครับ
[divider]
Unboxing
กล่องของ DooGee Valencia 2 Y100 มาด้วยสีสันขอตัวกล่องบ่งบอกอย่างเป็นเอกลักษณ์ของ DooGee เอง
เมื่อแกะกล่องของ DooGee Valencia 2 Y100 มาเราจะได้พบกับอุปกรณ์ที่ให้มาเรียกว่าครบครั้นมาตรฐานแบบฉบับของทาง DooGee
[divider]
Design and Body
งานออกแบบของ DooGee Valencia 2 Y100 ที่ออกแบบที่ประเทศฮ่องกง อยากบอกครับว่างานออกแบบทำได้ดีและดูเรียบง่ายการใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก
ด้านบนตัวเครื่องจะดูเหมือนเป็นมาตรฐานของ Smart Phone Android ทั่วไปคือมีกล้องหน้ากับลำโพงแล้วก็จุดเซนเซอร์จับความเคลื่อนไหวของร่างกาย
ด้านบนสุดของตัวเครื่องมีช่องเสียบสายชาร์จแบ็ตเตอร์รี่และช่องเสียบชุดหูฟัง Head Set
ด้านล่างตัวปุ่มควบคุมการทำงานเป็นแบบ Hardware Key เสียดายว่าไม่มีไฟ LED ตรงปุ่มครับเราต้องอาศัยการจดจำและความเคยชินเอาเองก็นะเครื่องราคาไม่ถึง 5 พันบาท มีถอนดีไซน์สวยสีสันน่ารักน่าชังก็หยวน ๆ ครับอิอิ สิ่งนึงที่เหมือนเป็นตัวเด่นทดแทนมาคือปุ่มเมนูขวาสุดถ้าเรากดจิ้มแช่ไว้จะมีเมนูควบคุมการทำงานของตัวเครื่องเลื่อนขึ้นมานับว่าเป็นข้อดีสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องเลื่อนปั่นหน้าจอจากด้านบนเป็น Mini ชุดควบคุมการทำงานของตัวเครื่องแบบทางลัดที่แสนง่าย
อีกจุดเด่นของ DooGee Valencia 2 Y100 ที่เรียกได้ว่าดึงดูดผู้ใช้ได้ดีมาก ๆ คือไฟแสดงสถานะด้านซ้ายของตัวเครื่องที่เป็นไอเดียดีสุด ๆ เลยคือปกติเราจะเป็นไฟแสดงผลบอกสถานะการทำงานต่าง ๆ ของตัวเครื่องมือถือจะอยู่ด้านบนหรือล่างแต่นี่ DooGee จับไปไว้ด้านข้างครับแล้วก็ใส่เคสครอบอีกทีทำให้ไฟแสดงผลดูนวล ๆ ตาเป็นไอเดียที่แจ๋วมาก ๆ ที่นำมาใช้กับ DooGee Valencia 2 Y100
ด้านซ้ายการออกแบบปุ่มมีจุดเด่นไปตามเคสแต่ล่ะสีครับไม่ได้เป็นสีเงินจะว่าไป DooGee Valencia 2 Y100 ออกแบบมาเน้นหนักไปสไตล์ Sport Fashion และกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่มีงบประมาณในการซื้อ Smart Phone ไม่สูงนักแต่มีลูกเล่นและสีสันดึงดูดใจอย่างเป็นที่สุด
ท้ายเครื่องมีรูเล็ก ๆ 1 รู เป็นรูไมค์ครับ
ด้าน หลังตัวเครื่องจุดเด่นของ DooGee Valencia 2 Y100 คือฝาหลังที่มีสีและลายให้เราสามารถจับได้ไม่ลื่นมือรวมไปถึง Back touch panel เดี๋ยวจะมีคลิปวีดีโอสาธิตการใช้งานให้ดูครับ แล้วก็กล้องหลังพร้อมแฟลช LED 1 ดวง
ด้านล่างของข้างหลังตัวเครื่องเป็นจุดวางลำโพงครับคุณภาพเสียงคือดีทีเดียวล่ะ
เปิดฝาออกมาก็เจอแบ็ตเตอร์รี่ขนาดความจุ 2,200 มิลิแอมป์
ซึ่งเพียงพอใช้งานได้เกือบ 1 วัน เต็มครับ
ถอดฝาหลังดู Layout กัน มีจุดนึงที่เป็นจุดที่ต่างจาก Smart Phone อื่นๆ เป็นอย่างมากครับสำหรับ DooGee Valencia 2 Y100 คือ ด้านบนคุณจะเห็นว่ามี Connector Pin ที่เอาไว้เชื่อมต่อกับ Back Case ซึ่งเอาไว้เชื่อมต่อกับระบบ Back Panel Control นั่นเอง และจุดใส่ Sim Card จะแยกเป็น 2 แบบคือ Full Sim และ Micro Sim รองรับ WCDMA ย่านความถี่ 3G ที่ 850MHz / 1900MHz / 2100MHz และ 2G แบบ GSM / GPRS / EDGE ที่ย่านความถี่ 900MHz / 1800MHz / 1900MHz ครับ ซึ่งมันรองรับทุกย่านความถี่ของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยอยู่แล้ว
ให้ดูกันชัด ๆ กับงานออกแบบการจัดวางช่องใส่ Micro SD Card , Micro SIM , Full SIM (ซึ่งบางทีเราอาจจะต้องใช้ตัวแปลง SIM Card จาก Micro SIM to Full SIM)
ในด้านอื่น ๆ ตามภาพตัวกล้องนะจะนูนปูดออกมาคือกล้องหลังความละเอียด 8MP พร้อมไฟแฟลช LED
งานออกแบบค่อนข้างใส่ใจมากในการประกอบตัวเครื่องคือค่อนข้างหายห่วงครับและผมคิดว่าถ้าเกิดปัญหาแล้วซ่อมก็แกะซ่อมไม่ยากด้วย
ด้านล่างจุดของลำโพงถ้าสังเกตฝาหลังดี ๆ ล่ะกันเราคงนึกว่าตัวลำโพงจะเป็นแถบยาวแต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ เป็นเพียงลำโพงตัวเดียวสีเหลี่ยมเทา ๆ นั้นแหละครับ
ส่วนด้านข้างขวาตัวเครื่องที่เป็นปุ่มกดครับ
[divider]
User Interface
ด้าน User Interface ส่วนตัวติดของผู้ใช้เองพวก Theme หรือ ลูกเล่นออกจะหวาน ๆ และเหมือนเอา Theme Launcher จาก MIUI มาครอบใส่ทับลงอีกทีนึงทำให้ผู้ที่คุ้นเคยกับ MIUI Theme มาก่อนไม่ต้องเรียนรู้มากมายนักแต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเคยจับอาจจะงงสักหน่อยต้องค่อย ๆ เล่นจนชินมือครับ
[divider]
Benchmark and Performance
ผลเทส Benchmark คือน้ำจิ้มแต่ก็ต้องเทส เพราะ CPU Octa Core 8 หัวที่สามารถรันกราฟิกเล่นเกมได้ลื่น ๆ บน Smart Phone ราคาประหยัดเริ่มมีในตลาดมากขึ้นดูคลิปนะครับจะมี 2 ช่วงเทสไว้ถ้าเบื่อก็หยุดดูได้ครับอิอิ
[divider]
Sample Gallery
Photo from Camera
กล้องหน้า
คุณภาพกล้องหน้าของ DooGee Valencia 2 Y100 ความละเอียด 8MP ถ่ายออกมาแล้วถือว่าไม่เลวร้ายครับค่อนข้างชัดแต่โทนสีออกมาค่อนข้างจะออกม่วงนิด ๆ และออกไปชมพูหน่อย ๆ
กล้องหลัง
กล้องหลังถ่ายภาพออกมาได้ค่อนข้างดีในที่แสงน้อยแต่บางคนบอกว่าแย่เอ่อก็น่าจะแย่อยู่นะคือมันไม่ได้คมหรือชัดเป๊ะเว่อร์ภาพออกมามันไปโทนนวล ๆ ตาเสียมากกว่าแต่ไม่ถึงกับระดับที่เลวร้ายสุดขีดเอาน๊าสมกับราคาค่าตัวกล้องระดับ 13MP ที่มี Effective จริงแค่ 8MP ดีกว่าถ่ายออกมาแล้วภาพแตกเละหรือมืดจนดูไม่ออกเลยว่าไปจริง ๆ เหมือนกล้อง Web Cam ที่ดีกว่ากล้อง Web Cam บางยี่ห้อบ้างรุ่นล่ะกัน
[divider]
Experience
ประสบการณ์การใช้งานตลอดเวลาในการใช้งานจริงสิ่งแรกเลยที่บอกในใจนิด ๆ ว่าไม่ชอบและเป็นข้อติส่วนตัวสำหรับ DooGee Valencia 2 Y100 คือเรื่องความลำบากน้อยนิดในเรื่องการใช้งาน Sim Card ที่วุ่นวายเอาการเพราะต้องหาตัวแปลง Convert ตัว Sim Card แบบ Micro ไปแบบ Full แถมถ้าใส่ผิดช่องเอา SIM True หรือ my By CAT ที่วิ่งในย่านความถี่ 850MHz นี่แถบจะใช้งาน 3G ไม่ได้อีกเหง้อแต่ก็เอาเหอะมันก็เป็นเรื่องที่ให้เราคิดว่าเป็นเรื่องปกติไปล่ะกันสำหรับงานออกแบบจาก DooGee ที่บังคับให้ผู้ใช้ต้องใช้แบบนี้เพราะมันออกแบบมาสำหรับคนใช้ 3G ย่านความถี่ WCDMA นั่นเองครับ อีกข้อดีของเรื่องงานออกแบบฝาหลังที่ทำให้ผมชอบจริง ๆ สำหรับไอเดีย Back touch panel เป็นลูกเล่นฮิป ๆ ที่โดนใจวัยรุ่นซะจริง ๆ ลองมองดูมือถือรุ่นอื่น ๆ ในระดับเดียวกันราคาเดียวกันครับว่ามี Feature ที่ใช้ฝาหลังควบคุมการทำงานของมือถือหรือใช้กดชัตเตอร์เพื่อถ่ายภาพได้หรือไม่ผมตอบได้เลยว่ามีแต่น้อยมาก ๆ ที่จะเจอได้ง่ายแต่นี่คือความพิเศษที่มีใน DooGee Valencia 2 Y100 แล้วเรื่องภาพถ่ายที่ได้จากกล้องหลังก็นับว่าตามราคาเขาล่ะไม่ได้โดดเด่นที่สุดแต่ก็ไม่แย่นะ
เพราะทาง DooGee เล่นใส่ Processor Image CMOS ของ Sony IMX219 Xmor R มาให้โดยตัวกล้องมีขนาดรูรับแสง aperture of f/2.0 (อ้างอิงจากเว็บ devicespecifications.com)
แต่มีอยู่สิ่งนึงผมก็เริ่มสงสัยที่ลองเปิดไฟล์ภาพและเปิด EXIF Info ดูภาพแล้วทำไมจึงได้ f/1.8 ล่ะและบ่งบอกว่าเป็น MediaTek แทนอืมงงมั๊ยครับ? คำตอบน่าจะอยู่ที่ทาง MediaTek ได้เอา Image Sensor ของ Sony ยัดเป็นชิ้นส่วนประกอบไปเป็นของตัวเองก็เป็นได้แต่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหม่หรือใหญ่อะไรเพราะเราหวังผลของการใช้ Image Sensor ของ Sony ที่ทำให้เราจับภาพในที่แสงน้อยได้ดีและเป็นที่น่าพอใจถึงแม้นว่าเจ้า Image Processor รุ่นนี้จาก Sony จะไม่ได้ดีที่สุดก็ตามและมี Effect Pixel จริงที่ 8MP เท่านั้น เรื่องคุณภาพเสียงถึงเป็นลำโพงเดียวแต่ก็เสียงดังพอสมควร จะดูหนัง เล่นเกม ฟังเพลงหายห่วงล่ะ แถมปรับ EQ ได้จบในตัวเลย แล้วชุด Head-Set ที่แถมมาให้ก็คุณภาพเสียงดีพอประมาณเสียด้วยเสียงไม่แบนเลยหน้า Stage เสียง Vocal คนร้องเด่นออกมาเสียงไม่ได้แน่นนะแต่เน้นไปทางใส ๆ มากกว่าแต่ให้ดีตอนฟังเปิด EQ สักหน่อยตามที่เราชอบจะแจ๋วมาก แล้วก็เรื่องการเล่นเกมนี่หายห่วงครับลื่นดีจริง ๆ คงเพราะ Chip CPU แบบ 8 Core (OCTA-Core) ที่เข้ามาช่วยเรื่องประมวลผลแล้ว ROM กับ UI ที่ทำมาได้ดีอ่อตัว UI เนี่ยคล้าย ๆ กับ MIUI 3 เลยล่ะคนที่คุ้นเคยหรือเคยใช้ MIUI มาก่อนจะไม่ค่อยงงนักแต่สำหรับคนที่ไม่เคยจับคงต้องใช้เวลาทำความเข้าใจสักเล็กน้อยแถมด้วย การใส่ความเร็วแรงในการประมวลผลของ CPU 8 Core , GPU ARM Mali T720 MP และถึงแม้นว่าจะให้ Ram มาเพียง 1 GB ฟังดูน้อยแต่ถ้าขยันเคลียร์แรมก็พอไหวล่ะ แถมอีกตัวคือจุดเด่นสุด ๆ ที่ DooGee เล่นใช้จอ Panel Display LCD IPS IGZO เทคโนโลยีจอภาพจาก Sharp ที่ให้สีสันสวยสดใสแถมโทนสีเวลาดูหนังเนี่ยผมบอกได้เลยว่านึกว่าดูละครซี่รี่ส์ญี่ปุ่น เพราะโทนสีแสดงผลออกไปทางฟิมล์ภาพยนตร์จากญี่ปุ่นชัด ๆ แถมพอจะสู้แสงแดดกลางแจ้งแสดงผลพอเห็นนะแต่ก็ไม่ได้ดีสดในเวลาเจอแดดจ้า ๆ แล้วก็ตัวจอแบบ corning gorilla glass 3 นับว่าทาง DooGee ใส่มาเต็มที่มากใน DooGee Valencia 2 Y100 ข้อติหน่อยนึงเรื่องการจับสัญญาณ GPS ผมรู้สึกว่าจับได้ค่อนข้างช้าอยู่นะกว่าจะจับได้ครบจากโปรแกรม GPS Test ก็ใช้เวลาพอสมควรแต่ถ้าเจอก็เต็มพรึ่บแต่การใช้งาน Google Eart เพื่อดูตำแหน่งของเราค่อนข้างทำได้แม่นยำและดีพอที่ช่วยให้เราเปิดแผนที่ขับรถดูเส้นทางได้ไม่หลงก็มีเป็นข้อดีและข้อเสียในตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ หมดแล้วครับประสบการณ์จากการใช้งานจริงจาก DooGee Valencia 2 Y100
[divider]
Special Feature Test
จุดพิเศษทั้งหลายของ DooGee Valencia 2 Y100 หลัก ๆ มี 2 จุด ที่ผมได้ลองทดสอบมาให้ดูคือ 1. เรื่องไฟแสดงสถานะ LED ที่แปลกแตกต่างจาก Smart Phone Android รุ่นอื่น ๆ ที่เคยเจอมา
คือเอาไว้ด้านข้างและมี 3 ดวง คือ ไฟสีฟ้าบอกสถานะของการทำงานพวก Notification แจ้งเตือนข้อความเข้าจากแอปต่าง ๆ , ไฟสีเขียวแจ้งเตือนข้อความยังไม่ได้อ่าน , ไฟสีแดงแจ้งสถานะการชาร์จแบ็ตเตอร์รี่
เรื่องหน้าจออย่างที่เล่าไปแล้วกับประสบการณ์การใช้งานปิดไฟห้องแล้วเปิดแสงแสดงผลให้สดจอคมชัดมากสีสันสดใส
ดูคลิปประกอบได้เลยอย่างที่ผมบอกจอแสดงผลของ Sharp ที่ DooGee นำมาใช้เนื้อโทนสีแสดงผลนี่ออกไปทางฟิมล์ดราม่าญี่ปุ่นเลยคือโทนสีจะไม่จัดจ้านแต่ออกไปทางนุ่น ๆ สบายตาหวาน ๆ เสียมากกว่า
หลายคนห่วงว่า Smart Phone Android ที่ตัวเองซื้อไปจะโดนแพ บอกได้ว่าหายห่วงกับ DooGee นี่ขนาดเพิ่งเปิดเครื่องมาตอนเทสก็มีอัพเดตแล้วแถมต่อไปตัว Valencia 2 Y100 “อาจจะ” ได้รับการอัพเดต Version ใหม่ ๆ ในอนาคตด้วยครับ
ลองนึกดูรุ่น DG280 Leo ครับได้รับการอัพเดตจาก Kitkat ไป Android L เรียบร้อยแล้ว ณ ปัจจุบัน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมรุ่นอื่น ๆ ที่รองรับการอัพเดต Android L จาก DooGee ได้ที่ : http://www.doogee.cc/news_detail/newsId=216.html
ทดสอบ Feature พระเอกเลยคือเรื่อง Back touch panel ทำคลิปตัวอย่างให้ชมกันว่าเวลาใช้งานเป็นเช่นไรที่บอกเล่าประสบการณ์การใช้จริงว่ามีปัญหาคือมันทัชยากอยู่นะ Smart Phone แต่ล่ะยี่ห้อแต่ล่ะรุ่นเขาก็มีจุดดีจุดด้อยกันไปครับ ไม่ได้ดีที่สุดแต่เวลาเราซื้อมาใช้เองเนี่ย “มันคือความชอบส่วนตัวล้วน ๆ ” มีอยู่ Feature นึงที่ผมไม่ได้เทสและรีบคืนเครื่องไปก่อนนั้นคือเทคโนโลยี Xender 2.0 น่าเสียดายมาก
[divider]
ข้อดี
- CPU และ GPU แรงพอสำหรับเล่นเกม 3D ได้อย่างสบาย ๆ
- Back Panel Control ของ DooGee Valencia 2 Y100 เป็นอะไรที่ฮิปมาก
- ดีไซน์สวยเก๋โดยเฉพาะฝาหลังและไอเดียดี ๆ ที่เอาไฟ LED แสดงสถานะการทำงานไปอยู่ด้านข้างซ้าย
- จอคมชัดมากให้สีสันสดใสแน่นอนเป็นการเลือกจอแสดงผลที่ DooGee ใส่ใจมาตลอดเกือบทุกรุ่นโดยใช้ Display Panel จาก Sharp
- แบ็ตเตอร์รี่ค่อนข้างอยู่ได้ยาวนานเกือบตลอดจบวัน เกือบๆ 5 ชั่วโมง หรือ 8 ชั่วโมงถ้าชาร์จเต็มตั้งแต่เช้า 7 โมงยันเลิกงาน 5 โมง แบบ Stanby รอสาย ก็จะอยู่ได้นานกว่านี้และถ้าเล่นใช้งานทั่วไปครึ่งวันก็หมดไวเป็นปกติ
ข้อเสีย
- หน้าจอไม่สู้แสงแดดดีนักเมื่ออยู่กลางแจ้ง
- ทัชหน้าจอบางครั้งไวเกินไปและทัชไม่ค่อยติด
- Ram และพื้นที่ Rom น้อยไปแต่ก็พอเหมาะกับราคาที่จ่ายไม่ถึง 5 พันบาท
- จุดของฝาหลังตำแหน่ง Back Panel Control เวลาจับจริง ๆ ให้นิ้วอยู่ในตำแหน่งแล้วสไลด์นิ้วบางทีไม่ติดหรือติดบ้างไม่ติดบ้าง
[divider]
สรุป
การมองหา Smart Phone Android ที่มี Feature ล้ำ ๆ ราคาเบา ๆ พอใช้งานได้ในปัจจุบันมีตัวเลือกให้เยอะมากขึ้น ๆ และ DooGee เองก็ใส่ใจเรื่อง Feature ที่ล้ำ ๆ มาตลอดกับราคาที่ไม่ให้โดดเกินไปเพื่อให้ผู้ซื้อสามารถจ่ายได้ในงบที่ตัวเองมีและตั้งใจไว้ส่วนตรงสรุปนี้คงไม่กล่าวอะไรมากมายเพราะเล่าไปหมดเปลือกแล้วในหัวข้อประสบการณ์การใช้งานดังนั้นอ่านตรงนั้นแล้วก็อยู่ที่คุณตัดสินใจล่ะครับว่าเหมาะกับคุณแค่ไหนสำหรับ DooGee Valencia 2 Y100 ค่าตัวย่อม ๆ แต่ให้ Spec ล้ำ ๆ โดนใจวัยรุ่นแบบนี้หายากยิ่งนักก็คงสรุปสั้น ๆ เท่านี้ที่เหลือคุณต้องไปพิสูจน์และสัมผัสกับ DooGee Valencia 2 Y100 ด้วยตัวคุณเองตามร้านใกล้บ้านหรือตาม Shop ชั้นนำที่เป็นตัวแทนจำหน่าย DooGee ครับ สำหรับรีวิวนี้จบเพียงเท่านี้ขอขอบคุณ DooGee Thailand เอื้อเฟื้ออุปกรณ์รีวิวทดสอบครั้งนี้ สวัสดีครับ