ได้มาก็ต้องพรีวิวยั่วแล้วกับ Vivo Y72 5G มือถือรุ่นแรกในตระกูล Y Series ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี 5G ยกระดับความเร็วของ 4G ขึ้นไปอีกครั้ง และนี่อาจเป็นสัญญาณที่บอกได้ว่าในปี 2021 มาตรฐานมือถือใหม่ควรรองรับ 5G เป็นอย่างน้อย ส่วนสเปกโดยรวมของเครื่องก็มาพร้อมกับหน้าจอ Halo Fullview Display FHD+ และกล้องหลังอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ให้ความละเอียดสูงสุดถึง 64 MP พร้อมกล้องหน้า 16 MP ส่วนจะดีงามยังไง น่าสนใจขนาดไหนเรามาแกะกล่องพรีวิวกันเลย
Vivo Y72 5G
เรื่องราคาคงต้องขออุบเอาไว้ก่อน (เพราะผู้เขียนเองก็ไม่รู้เหมือนกัน) แต่จากประสบการณ์ตระกูล Y Series ไม่เคยทำให้ผิดหวัง และเป็นหนึ่งในตระกูลที่ขายดีที่สุด มีความเข้าถึงง่ายในราคาที่ไม่แพง และยิ่งสำหรับ Vivo Y72 5G รองรับ 5G ด้วยยิ่งทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายเข้าไปใหญ่ สุดท้ายอาจกลายเป็นมาตรฐานขั้นต่ำของสมาร์ตโฟนในยุคปี 2021 ถ้าไม่มี 5G ก็จะกลายเป็นของตกรุ่นไปทันใด
ตัวเครื่องมาพร้อมกับกล่องที่เรียบง่ายเหมือนเดิม หน้ากล่องระบุสเปกเป็น RAM 8 GB และ ROM 128 GB ก็ถือว่าเป็นมาตรฐานปัจจุบันของสมาร์ตโฟนยุคนี้ (ค่อนข้างไปทางดีเลยด้วยซ้ำ) และสีก็มีให้เลือกตั้งแต่ Dream Glow และ Graphite Black และอุปกรณ์โดยรวมก็มีให้ครบตามสไตล์ของวีโว่ ส่วนใครอยากทราบสเปกและราคาทั้งหมดต้องรอวันที่ 22 มีนาคมนี้ แต่รับรองเลยว่าเด็ดแน่นอน!
การออกแบบของ Vivo Y72 5G มีการเลือกใช้วัสดุที่ดูดีมีราคา และแม้จะเป็นเครื่องสี Graphite Black (ตัวที่รีวิว) แต่ก็ไม่ได้เป็นสีดำแบบเรียบทื่อ มีการไล่ระดับสีต่างกันดูบางมุมแล้วออกม่วงหรือน้ำเงินนิด ๆ มีการใช้เทคนิคเคลือบซิลเวอร์ ดูไปแล้วให้ความสบายตาไม่มีเบื่อ ส่วนความหนาก็อยู่เพียงแค่ 8.5 มม. ขนาดกำลังพอดีไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน
ถึงจะเป็นรุ่นเล็กแต่ก็ไม่หวงเรื่องดีไซน์ วีโว่มีการปรับกล้องหลังใหม่ ให้ความรู้สึกสมมาตรและลงตัวโดยเป็น AI Triple Camera ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 64 MP (F/1.79) ถัดมาเป็นกล้องมุมกว้าง Super Wide-Angle ความละเอียด 8 MP (F/2.2) ให้มุมกว้างถึง 120 องศา และสุดท้ายก็คือกล้อง Super Macro ความละเอียด 2 MP (F/2.4) ถ่ายได้ที่ระยะใกล้สุด 4 ซม.
หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ Halo Fullview Display ให้พื้นที่การแสดงผลเกือบเต็มหน้าจอ เหมาะกับทั้งการเล่นเกมและดูหนัง ได้พื้นที่การแสดงผลขนาด 6.58″ ส่วนสีสันก็อยู่ในระดับที่สมราคา ได้ความละเอียด FHD+ ที่มีความคมชัดเป็นมาตรฐานของสมาร์ตโฟนยุคนี้ ส่วนกล้องหน้ามีเลนส์, ลำโพงและเซ็นเซอร์ถูกแอบไว้อย่างแนบเนียน เรียกได้ว่าสเปกที่ให้มาก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรเลยทีเดียว
เป็นถึงสมาร์ตโฟน 5G แต่ถ้าบอกไม่รองรับ 5G ก็คงแปลก (ฮา) โดยรองรับทั้ง 2 โหมด NSA/SA ส่วนตัวผู้เขียนรีบมากตอนได้มาพรีวิว เสียบเข้ากับซิมการ์ด AIS ก็ขึ้นสัญญาณ 5G รวดเร็วดี และคาดว่ากับเครือข่ายอื่นก็คงให้ผลไม่แตกต่างกัน 5G ไม่เพียงแค่ได้ในเรื่องของความเร็วเท่านั้น แต่สำหรับคนเล่นเกมจะได้ค่าดีเลย์ที่ต่ำลงด้วย และเวลาคนอยู่รวมกันเยอะก็รับสัญญาณได้ดีกว่า
ส่วนรายละเอียดอื่นที่น่าสนใจก็คือซิมการ์ด ตัวถาดเป็นแบบ Hybrid สามารถเลือกได้ว่าจะใส่เป็นซิมการ์ดใบที่สองหรือ microSD นอกจากนี้วีโว่ยังเลือกทิ้งช่องหูฟัง 3.5 มม. เอาไว้ให้เผื่อใครอยากใช้กับหูฟังแบบเดิม ส่วนระบบการชาร์จแบตเตอรี่เป็นแบบ USB-C รองรับการชาร์จเร็ว 18W Vivo FlashCharge ให้มาครบจบสมบูรณ์ในเครื่องเดียว และเราเชื่อว่าต้องเป็นหนึ่งในเครื่องขายดี
ระบบปฎิบัติการมาพต้อมกับ Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 11.1 ช่วยให้การทำงานไหลลื่นไม่มีสะดุด พวกลูกเล่นกล้องต่าง ๆ ยังอยู่ครบ เช่น โหมดหน้าสวย, โหมดกลางคืน, ถ่ายภาพคนแบบละลายหลัง, ฯลฯ สามารถใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ถือว่าทางวีโว่ทำการบ้านมาค่อนข้างดี เพราะโดยปกติการใช้ 5G จะค่อนข้างกินแบตเตอรี่พอสมควร
สรุปโดยรวมแล้วเครื่อง Vivo Y72 5G ทำออกมาแล้วสัมผัสแรกคือ “ประทับใจมาก” ไม่คิดว่าการมาถึงของ 5G จะมาเร็วขนาดนี้ จากเดิมที่มักจะมีอยู่เพียงแค่ในรุ่นเรือธงราคาแพงทั้งหลาย ส่วนสเปกที่ให้มาก็ไม่ถึงกับขี้เหร่ สามารถเอามาใช้งานได้แบบไม่อึดอัด เล่นเกมที่โหลดหนักได้ (แถมโหลดเร็วด้วย) เอามาถ่ายรูปก็ได้กล้องคุณภาพสูง มีแบตเตอรี่อึดและชาร์จเร็วมาครบจบในเครื่องเดียว