True เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่เปิดให้ใช้ซิม 4G แบบเติมเงิน ที่นอกจากจะมีจุดเด่นที่ความเร็วแล้ว ยังครอบคลุมกว่า 77 จังหวัดทั่วไทย ครอบคลุมประชากรกว่า 80% ของทั้งประเทศ เพียงแค่ 79 บาทก็สามารถเริ่มใช้งานได้แล้ว ซึ่งในวันนี้เราจะมารีวิวกันครับ
4G คืออะไร
4G เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อยอดมาจาก 3G เพื่อให้มีความสามารถรับ-ส่งข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น (แต่ผู้ให้บริการรวมถึงอุปกรณ์ของเราก็ต้องรองรับด้วย) โดยหากเปรียบเทียบกับตารางด้านบน จะเห็นได้ดาวน์โหลดหนัง (4.7 GB ~ DVD) ใช้เวลาเพียง 12.42 นาทีเท่านั้น เมื่อเทียบกับ 3G ที่ต้องใช้เวลาถึงเกือบสองชั่วโมง !!!
สำหรับ 4G LTE ของ True ทำงานบนความถี่ 2100 MHz หากใครซื้อสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตมาจากต่างประเทศ แนะนำให้ตรวจสอบเรื่องความถี่ 4G ให้ชัวร์ก่อนนะครับ
พื้นที่ให้บริการ 4G
สำหรับพื้นที่ให้บริการตอนนี้ True ครอบคลุมมากที่สุด ดูจากภาพด้านบนจุดดีแดงจะเป็นพื้นที่ให้บริการ 4G ส่วนสีส้มคือ 3G นอกนั้นที่เขียว ๆ ก็จะเป็นป่าและภูเขาบ้าง ครอบคลุมประชากรกว่า 80% ของทั้งประเทศ เรียกได้ว่าหากสุ่มคนทั้งประเทศมาซัก 10 คน จะมีเพียงแค่ 2 คน ที่อยู่นอกพื้นที่ให้บริการ
เริ่มใช้งาน 4G
ซิม 4G เติมเงินอันนี้ผมซื้อมาจาก True Shop ในราคา 79 บาท จุดสังเกตคือหน้ากล่องจะเขียนว่า 4G แบบเติมเงิน แกะมาแล้วทำการลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน (ไม่เกี่ยวกับจดทะเบียนรายเดือนนะครับ) เพราะอันนี้เป็นไปตามกฎของ กสทช.
ประสบการณ์ใช้งานกับ True ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจมาก อย่างของผมเลือกใช้งานกับ iPad Air ตามปกติแล้วต้องกดดอกจันทร์อะไรวุ่นวายไปหมด (iPad ไม่มีปุ่มให้กดเหมือน iPhone) แต่อันนี้เสียบซิมปุ๊บใช้งานได้เลย ขึ้นสัญญาณ 4G เป็นที่เรียบร้อย
กล่าวสั้น ๆ ก็คือสำหรับคนใช้สมาร์ทโฟนทั่วไปอาจไม่รู้สึก แต่สำหรับคนใช้แท็บเล็ตจะรู้สึกว่ามันดีมาก เพียงแค่เข้า hlife.truecorp.co.th ก็สามารถซื้อแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตได้เลย
นอกจากนี้แล้วยังสามารถใช้ดูเบอร์ตัวเองได้ ดูวันหมดอายุ หรือแม้กระทั่งปริมาณแพ็กเกจหลัก และแพ็กเกจเสริมที่เหลืออยู่ (สะดวกมาก) อย่างของผมพึ่ง เปิดใช้งานจะได้ 3G/4G ฟรี 500 MB ระยะเวลา 30 วัน และหากเติมเงินสะสมครบทุก 200 บาท ภายในระยะเวลา 30 วัน ก็จะได้เพิ่มอีก 500 MB (ใช้งานได้ 7 วัน)
ข้อดีของซิม 4G แบบเติมเงิน
- หากเน็ตหมดยังใช้ได้ต่อแบบ Non-Stop ด้วยค่าบริการเพียง MB ละ 0.20 บาท (ถูกที่สุด)
- สามารถสมัครแพ็คเกจเสริม เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานได้
หากคิดเป็น GB ตกเพียง 200 บาท ข้อดีคือไม่ต้องเหมาแพ็คเกจก็ยังคุ้มอยู่ ใช้เพียงแค่ปริมาณเท่าที่ต้องการก็ไม่แพง แล้วก็ยังไม่ต้องกังวลเรื่องค่าบริการ เพราะเป็นซิมแบบเติมเงิน เหมาะกับผู้ใช้ Tablet หรือ iPad เป็นอย่างยิ่ง
ความเร็ว 4G
4G ให้บริการความเร็วสูงสุด 100 Mbps แต่เมื่อใช้งานจริงข้อจำกัดมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระยะทาง จำนวนคนใช้งาน ฯลฯ ซึ่งปกติผมทดสอบ 3G ได้เพียงแค่ 6-7 Mbps เท่านั้น (เห็นบางพื้นที่มีคนทดสอบให้ดู 4G ความเร็วสูงถึง 30 Mbps) อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างจริง ๆ ครับ
ความเชื่อที่ผิดเกียวกับ 4G บางคนเข้าใจว่ามันกินแบตเตอรี่มากกว่า 3G หากเทียบข้อมูลจาก Apple แล้วจะพบว่า iPhone 6 ใช้งานบน 3G ได้นาน 10 ชั่วโมง ใช้งานบน LTE (4G) ก็ได้ 10 ชั่วโมง แต่หากใช้งานบน WiFi จะได้ 11 ชั่วโมง ดังนั้นความเชื่อนี้ล้วนไม่เป็นความจริงในทางเทคนิค
นอกจากนี้แล้วเติมเงินยังจะได้โบนัสอีกด้วย สำหรับรายละเอียดสามารถตรวจสอบได้ที่ แพ็กเกจเสริม 4G FastNet ราคาเท่านี้ถือว่าคุ้มค่ามากครับ ได้ทั้ง 4G/3G แถมยังมีโบนัสให้อีกด้วย
หากใครยังไม่เคยใช้งานสามารถซื้อ 4G เน็ตซิมได้ที่ True Shop/True Partner และร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ แต่หากใคร (ซื้อแล้วเปิดใช้งานได้เลย)
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ทรูมูฟ เอช 4G เน็ตซิม
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial