JBL และ Harman Kardon แบรนด์หูฟังและลำโพงที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยล่าสุดทาง บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าสองแบรนด์นี้ให้เกียรติเชิญทีมงาน iReview.in.th ไปร่วมงานเปิดตัวสินค้าสินค้าและนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของปี 2016 ในชื่อ “Surrender Your Life to Sound” โดยยกทั้งขบวนทัพของ JBL และ Harman Kardon มาโชว์กันในงานเลยทีเดียว

mahajak (4)

มหาจักรนำเสนอ JBL และ Harman Kardon

โดยสินค้าของ JBL จะเน้นในเรื่องของพลังเสียงที่คมชัด และสามารถกันน้ำได้ เพื่อให้รับกับไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบัน ที่หันมาใส่ใจสุขภาพและการเดินทางกันมากขึ้น ที่พัฒนาจากแนวคิด Smart Audio ในหลากหลายรุ่น อาทิ รุ่น Clip+, Flip 3, Xtreme, Pulse 2, Charge 2+ โดยแต่ละรุ่นให้เสียงที่คมชัด

mahajak (5)

สินค้าตัว TOP ของ JBL จะเป็นรุ่น Xtreme (ล่าสุดเว็บไซต์ iphone-droid พึ่งรีวิวไป) ที่เน้นสำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือออกกำลังกาย เพราะให้เสียงที่ดังและคมชัดมากมาพร้อมกับ Bass Radistor และแบตเตอรี่ภายในขนาดใหญ่ถึง 10,000 mAh (สามารถใช้ชาร์จมือถือหรืออุปกรณ์พกพาได้ด้วย) และที่สำคัญสามารถกันน้ำด้วยมาตรฐาน IPX5 ได้ด้วย

mahajak (1)

สำหรับสินค้าของ Harman Kardon นอกจากพลังเสียงที่มีคุณภาพแล้ว ยังเน้นในเรื่องของดีไซน์ที่สวยหรูและดูทันสมัย เช่น Onyx Studio 2, Esquire 2 ที่มีขนาดเล็กแต่ยังให้เสียงชั้นยอด และพิเศษไปกว่านั้นคือสามารถเชื่อมต่อหลายตัวเข้าด้วยกันเพื่อเสียงดนตรีจากลำโพงในทุกมุมห้อง

mahajak (12)

แต่สำหรับคนที่ใช้กับลำโพงรุ่นเก่าที่ไม่มีระบบเชื่อมต่อไร้สาย สามารถเลือกซื้ออุปกรณ์ที่มีชื่อว่า “Adapt” มาเพื่อเสริมฟีเจอร์ไร้สายตรงนี้ ได้ทำให้สามารถเล่นเพลงพร้อมกันได้ในทุกเครื่องเสียง

mahajak (3)

สินค้าตัว TOP ของ Harman Kardon จะเป็น Onyx Studio 2 ซึ่งพัฒนามาจาก Onyx Studio 1 ซึ่งแน่นอนว่ามีพลังเสียงที่มีคุณภาพ ให้พลัง Bass ที่ทรงพลัง หนักแน่น และยังมีดีไซน์ที่สวยงาม

mahajak (8)

เปิดงานด้วยโชว์ออเครสตร้าสุดพิเศษ ที่ใช้ลำโพงมากมายประสานเสียงแทนนักดนตรีออเครสตร้า พร้อมวาทยากรระดับโลกอย่างคุณ ทฤษฎี ณ พัทลุง มาบรรเลงให้ฟังสุดยอดมากจริง ๆ

mahajak (9)mahajak (10)

คุณ พงษ์สุข หิรัญพฤกษ์ พิธีกรรายการทีวีไอทีชั้นนำในเมืองไทย มาร่วมเล่าและเปิดร่วมกับผู้บริหาร ที่มาช่วยแนะนำสินค้าแต่ละชิ้น และร่วมทดสอบ/สาธิตการใช้งานสินค้า อย่างที่เห็นในภาพซึ่งกำลังทดสอบการกันน้ำขณะที่เปิดเพลงไปด้วย (โดยที่คุณภาพเสียงยังไม่ลดลง)

mahajak (11)

ปิดท้ายด้วยการถ่ายภาพร่วมกันของคณะผู้บริหารจากทางบริษัทมหาจักรดีเวลอปเมนท์ JBL และ Harman Kardon

mahajak (6)mahajak (7)

สำหรับสินค้าแต่ละตัวที่นำมาโชว์ในวันนี้ก็มีสินค้าที่น่าสนใจและเหมาะแก่การใช้งานแต่ต่างกันไป ซึ่งหากสนใจสินค้าตัวไหนก็สามารถไปเลือกชมดูได้ที่เว็บไซต์ mahajakLife และในวันนี้ทีมงาน iReview.in.th ก็ได้สินค้ามารีวิวอีก 1 ตัว ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบออกกำลังกายอย่างมาก

JBL Reflect Mini BT (1)

JBL Reflect Mini BT

ช่วงนี้เทรนด์สุขภาพมาแรง ไม่ว่าคุณจะนิยมปั่นจักรยานหรือวิ่งออกกำลังกาย คงต้องหาหูฟังไร้สายดี ๆ สักตัว JBL Reflect Mini BT ตัวนี้จึงเกิดมาเพื่อคนเล่นกีฬาโดยเฉพาะ ใครหนอใครกันที่ว่าหูฟังออกกำลังกายจะต้องเสียงแย่เสมอไป!

JBL Reflect Mini BT (2)

สเปค | JBL Reflect Mini BT

สำหรับสเปคไดรเวอร์ขนาด 5.8 มม. ความถี่ 10Hz – 22 KHz

  • เล่นเพลงต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง
  • น้ำหนักเบา
  • ไมโครโฟน
  • กันเหงื่อ
  • เกี่ยวหูตามหลักสรีระศาสตร์
  • สายสะท้อนแสง

ราคา 3,990 บาท

JBL Reflect Mini BT (3)

ภายในประกอบไปด้วยจุกหูฟังจำนวน 2 ขนาด และจุกหูฟังตามหลักสรีระศาสตร์จำนวน 2 ขนาด (เผื่อใครเล่นกีฬาที่มันหักโหมจะได้ไม่หลุด)

JBL Reflect Mini BT (4)

อุปกรณ์ภายในแถมสายชาร์จมาให้จำนวน 1 เส้น ส่วนที่ชาร์จก็สามารถใช้ได้กับทุกอย่างที่เป็น USB และไม่เพียงแค่สมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ยังสามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้กับทุกอุปกรณ์ เช่น แท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์

JBL Reflect Mini BT (5)

สำหรับหูฟังมีน้ำหนักเบาอย่างเหลือเชื่อ เหมาะกับคนที่รักการออกกำลังกาย โดยไม่จำเป็นต้องเสียบสายระโยงระยางให้เกะกะอีกต่อไป หากใครไม่เคยใช้ของให้ลองครับแล้วจะชอบ

JBL Reflect Mini BT (6)

และเนื่องด้วยสายของมันค่อนข้างสั้นมาก จึงไม่มีปัญหาเรื่องสายพันกัน สามารถขยำแล้วเก็บใส่กระเป๋าได้เลย ส่วนเรื่องความทนทานนั้นมากเป็นพิเศษ สายที่ผลิตออกมามีความเหนียวเป็นพิเศษไม่ขาดง่าย

JBL Reflect Mini BT (7)

มีปุ่มสำหรับปรับเสียง (รวมถึงไมค์) แยกออกมาเป็นพิเศษ และสามารถใช้รับโทรศัพท์ได้เลยกรณีที่มีคนโทรเข้ามา เพราะเดี๋ยวนี้หลายคนคงเลือกที่จะฟังเพลงผ่านสมาร์ทโฟนกันหมดแล้ว

JBL Reflect Mini BT (8)

ส่วนจุกหูฟังตามหลักสรีระศาสตร์ขนาด M (คิดว่าคนไทยส่วนใหญ่คงเหมาะกับขนาดนี้ที่สุด) ตอนแรกคิดว่าใส่แล้วจะอึดอัดหรือเจ็บหู แต่พอใช้งานจริงแล้วสบายตัวกว่าที่คิด ทดสอบวิ่งฟังเพลงไปประมาณ 10 กม. ก็ยังไม่เจออาการปวดหู ส่วนเสียงที่เล็ดลอดเข้ามามีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

JBL Reflect Mini BT (9)

เมื่อใส่จุกหูฟังตามหลักสรีระศาสตร์จะเป็นดังภาพด้านบน แต่ตามคู่มือแนะนำบอกให้หมุนทวนเข็มนาฬิกา ตัวล็อคจะเกี่ยวเข้ากับใบหูพอดี ทำให้แน่นยิ่งขึ้นไปอีก

JBL Reflect Mini BT (10)

สำหรับสายสะท้อนแสงด้านหลัง จะมีผลเฉพาะเมื่อเราวิ่งในเวลา “กลางคืน” แล้วมีรถขับเปิดไฟมาด้านหลังจะเห็นเราชัดขึ้น (นิดนึง) ซึ่งตรงนี้เป็นการช่วยส่วนหนึ่งเท่านั้น ควรใช้ร่วมกับเสื้อผ้าหรือรองเท้าที่สะท้อนแสงด้วย จะปลอดภัยมากกว่า

JBL Reflect Mini BT (11)

นอกจากนี้หากจะวิ่งให้ครบสูตรควรมีสายรัดแขน (Armband) เพื่อใส่สมาร์ทโฟน หรือเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกายเข้าไปอีกด้วยนาฬิกาอัจฉริยะ (SmartWatch) เพื่อวัดระยะทาง, อัตราการเต้นของหัวใจ, หรือแม้กระทั่งดูการแจ้งเตือน ฯลฯ

สรุป

หูฟังไร้สาย JBL Reflect Mini BT ราคา 3,990 บาท ให้คุณภาพที่ไม่ผิดหวังกับไดรเวอร์ขนาด 5.8 มม. ที่ถึงจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่แลกมากับน้ำหนักเบาสุดขั้ว ย่านเสียงที่ได้ครบทุกช่วงไม่ว่าจะเป็นดนตรีหรือนักร้อง ส่วนเบสถึงแม้จะอ่อนไปนิดก็ตาม แต่โดยรวมทำออกมาได้ค่อนข้าง “กลมกล่อม” เมื่อเทียบกับหูฟัง Apple In-Ear Headphones ที่มีราคาใกล้เคียงกัน JBL ทำได้ดีกว่า “มาก” โดยไม่ต้องสงสัย

ดูสินค้าอื่นเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.mahajaklife.com