Huawei Mate X กับ Samsung Galaxy Fold เปรียบเทียบหน้าจอพับได้กลุ่มแรกของโลก

Huawei Mate X กับ Samsung Galaxy Fold เป็นสมาร์ตโฟนที่จะเปลี่ยนนวัตกรรมการใช้งานใหม่ ด้วยรูปแบบหน้าจอแบบพับได้ และการพับหน้าจอมันได้มันดียังไง ? สรุปก็คือการที่มีจอแบบพับได้ ช่วยให้คุณสามารถมีอุปกรณ์ 2 อย่างในเวลาเดียวกันทั้ง Smartphone และ Tablet แถมยังพกพาได้ง่าย ๆ ในกระเป๋ากางเกง แต่ในฐานะผู้นำทั้ง 2 แบรนด์ (Huawei, Samsung) ถึงจะมีหน้าจอพับได้เหมือนกัน แต่ก็มีจุดเด่นหลายอย่างที่แตกต่างกันดังนี้

รายละเอียดหน้าจอและรูปแบบการพับ

Huawei Mate X มีใช้ดีไซน์ที่เรียกว่า Falcon Wing ซึ่งเป็นการออกแบบขอบบานพับที่ยืดหยุ่น มีความมั่นคงและทนทานทำให้หน้าจอไม่ยืดจนเกินไปขณะพับหรือนูน เมื่อกางเครื่องออกมาจะมีขนาดหน้าจอขยายใหญ่เป็น 8 นิ้วโดยมีความละเอียด 2480 x 2200 พิกเซล และมีอัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 8:7.1 ดีไซน์หน้าจอจะเป็นแบบไร้ขอบทำให้การแสดงผลได้อย่างเต็มพื้นที่ ด้านข้างจะมีขอบบานพับเครื่องที่จะติดตั้งกล้อง Leica 3 เลนส์และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ เอาไว้

สำหรับการพับจะเป็นการพับหน้าจอเข้าหาขอบด้านข้างเป็นตัวยึดทำให้ เมื่อพับเข้ามาแล้วจะกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอถึง 2 ฝั่งแบ่งเป็นหน้าจอด้านหน้ารูปแบบ OLED ขนาด 6.6 นิ้วความละเอียด 2480 x 1148 พิกเซล และหน้าจอด้านหลังรูปแบบ OLED ขนาด 6.38 นิ้ว ความละเอียด 2480 x 892 พิกเซล

Samsung Galaxy Fold มีหน้าจอแบ่งเป็น 2 ส่วนคือหน้าจอด้านในของสมาร์ทโฟนรูปแบบ Super AMOLED ขนาด 4.6 นิ้ว ความละเอียด HD + และอัตราส่วน 21:9 พร้อมกล้องหน้าตรงส่วนบนหน้าจอ สำหรับการพับ จะเป็นการพับหน้าจอเข้าหากันเมื่อต้องการใช้งานเป็นสมาร์ตโฟน และจะมีส่วนหน้าจอและส่วนด้านหลังที่มีกล้อง 3 เลนส์

หากต้องการใช้งานแท็บเล็ทก็กางหน้าจอออกมา เมื่อกางออกมาจะมีขนาดหน้าจอด้านในอีกจอนึงขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล และอัตราส่วน 4.2:3 พร้อมกล้องเซลฟี่อีก 2 เลนส์ เมื่อใช้งานเป็นแท็บเล็ท ส่วนของหน้าจอและกล้องที่ใช้งานเมื่อเป็นสมาร์ทโฟนจะกลายเป็นด้านหลังของแท็บเล็ต

ประสิทธิภาพของเครื่อง

สำหรับประสิทธิภาพการใช้งานเครื่องทั้ง 2 รุ่น ต่างก็ใช้สเปคที่ดีที่สุดในวงการของตอนนี้ทั้งคู่

• Huawei Mate X ใช้หน่วยประมวลผล HiSilicon Kirin 980 ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 7 นาโนเมตร ความเร็ว : 2.6 GHz หน่วยความจำ ROM 512 GB/RAM 8 GB สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำ NM card ได้สูงสุด 256 GB
• Samsung Galaxy Fold ใช้หน่วยประมวล Snapdragon 855 ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 7 นาโนเมตร ความเร็ว : 2.84 GHz หน่วยความจำ ROM 512 GB/RAM 12 GB

ส่วนการเชื่อมต่อ Huawei Mate X มีโมเด็ม Balong 5000 ที่รองรับการเชื่อต่อเครือข่าย 5G มีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงถึง 4.6 Gbps สามารถโหลดไฟล์ 1 GB ในเวลา 3 วินาที และสำหรับ Samsung Galaxy Fold นั้นยังไม่มีการยืนยันว่าใช้งาน 5G หรือไม่ แต่ก็มีความเร็วในการดาวน์โหลดที่ 2.3 Gbps

ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่

เมื่อมีเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงก็ต้องมีแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่คู่กันไปด้วยโดย Samsung Galaxy Fold จะใส่แบตเตอรี่ 2 ก้อนความจุรวม 4380mAh ส่วน Huawei Mate X มีแบตเตอรี่ขนาด 4500mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ Huawei SuperCharge 55W สามารถชาร์จไฟเครื่องได้ 85% ในเพียงเวลา 30 นาที และยังถือเป็น

สมาร์ตโฟนที่ชาร์จแบตเตอรี่เร็วที่สุดในโลก

ประสิทธิภาพของกล้อง

ในส่วนกล้อง Huawei ได้เลือกการจัดเรียงกล้อง 3 เลนส์ที่เป็นพัฒนาร่วมกับ Leica ซึ่งการันตีได้ว่าจะเป็นกล้องที่ยอดเยี่ยมระดับต้นๆ ของวงการ โดยตำแหน่งของกล้องจะอยู่ที่ขอบด้านข้างของเครื่อง แบ่งออกเป็น

1. กล้องหลักความละเอียด 48MP
2. กล้องเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8MP
3. กล้องเลนส์มุมกว้างแบบ Ultra Wide ความละเอียด 16MP

พร้อมความพิเศษด้วยโหมด Mirror Shooting เมื่อเข้าโหมดกล้องจะทำการแสดงการตัวอย่างของภาพก่อนการถ่ายบนหน้าจอทั้ง 2 ฝั่ง กล้อง Leica ที่มีอยู่จะสามารถใช้งานเป็นได้ทั้งกล้องหลักและกล้องเซลฟี่

แต่สำหรับ Samsung Galaxy Fold มาพร้อมกับกล้องมากถึง 6 เลนส์ แบ่งออกเป็นกล้องด้านหลังที่มีกล้อง 3 เลนส์ ได้แก่

1. กล้องหลักความละเอียด 12MP
2. กล้องเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12MP
3. กล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษแบบ Ultra Wide ความละเอียด 12MP

เมื่อพับเครื่องสมาร์ตโฟนจะมีกล้องเซลฟี่ขนาด 10 ล้านพิกเซล แต่หากกางเครื่องออกเป็นแท็บเล็ทจะมีกล้องเซลฟี่คู่ความละเอียด 10 + 8MP กล้องด้านหลังที่มีกล้อง 3 เลนส์ ได้แก่กล้องหลักความละเอียด 12MP, กล้องเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12MP และกล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษแบบ Ultra Wide ความละเอียด 12 MP เมื่อพับเครื่องจะมีกล้องเซลฟี่ขนาด 10 ล้านพิกเซล หากกางเครื่องออกเป็นแท็บเล็ทจะมีกล้องเซลฟี่คู่ ความละเอียด 10 + 8MP

โดยคาดว่าอนาคตอันใกล้นี้ สมาร์ตโฟนแบบหน้าจอพับได้จะเป็นการปฎิวัติการอีกครั้ง เพราะผู้ใช้งานก็จะได้อุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เป็นได้ทั้งสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตในเครื่องเดียวกัน แต่ยังพกพาได้สะดวกสบาย แต่อนาคตนั้นก็ยังเป็นสิ่งไม่แน่นอนอาจจะมีนวัตกรรมอะไรใหม่ก็ได้ ซึ่งตอนนี้เราต้องมาคอยดูกัน