ทางทีมงาน iReview.in.th ได้มีโอกาสไปร่วมสัมผัสกับแนวคิดและได้เรียนรู้โซลูชั่นเจ๋ง ๆ หลายอย่างจากทางทรูคอร์ปฯ ที่ได้สร้างและนำนวัตกรรมใหม่ ๆ หลายอย่างมาช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้นตั้งแต่ระบบเมือง ความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินรวมไปถึงการแก้ปัญหาที่แสนยุ่งยากในการทำงานหรือแม้นแต่การดำเนินชีวิตให้ดูสนุกขึ้นสะดวกสบายมากขึ้นโดยมีโซลูชั่น 5 แบบให้คุณเลือกนำไปใช้อย่างลงตัวกับ Life Style และสำหรับธุรกิจเราไปทำความรู้จักกันว่า True Smart Life City คืออะไรมีอะไรบ้างใน 5 อย่างกันครับ
[divider]
รู้จักกับ True Smart Life , Smart City
นิยามของ True Smart Life City ที่กลุ่มทรูคอร์ปวางแนวคิด “Together, Smarter ใช้ชีวิตสมาร์ทขึ้น ใกล้ชิดกันมากขึ้น” จากที่ทางทีมงานฟังบรรยายแล้วสรุปออกมาได้คือทางกลุ่มทรูคอร์ปฯ ต้องการนำเสนอการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองในด้านต่าง ๆ โดยอาศัยงานด้าน Information Technology หรือด้านไอทีเข้ามาช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งชีวิตการทำงาน การประกอบกิจการธุรกิจ การทำธุระกรรม การใช้ชีวิตการพักผ่อนรวมไปถึงระบบรักษาความปลอดภัยของเมือง
โดยอาศัยเทคโนโลยีที่มีอยู่เข้ามาสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ กับการใช้แนวคิดด้านเทคโนโลยี 2 ประการคือ Big Data & Data Analytics กับ Internet Of Things นำมาผสานกับสิ่งที่ทางทรูคอร์ปฯ มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้งานและผลลัพธ์คือได้โซลูชั่นออกมาถึง 5 โซลูชั่นให้เราเลือกใช้กันคือ
1.Smart LIFE
คือการที่คนเราในปัจจุบันพึ่งพาอุปกรณ์ Gadget อย่างสมาร์ทดีไวซ์สต่าง ๆ เช่น สมาร์ทวอทช์ สปอร์ตวอทช์ อุปกรณ์สื่อสารไร้สายประเภทฝังตัวที่สามารถพกพาได้ช่วยให้เราแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ยกตัวอย่างเช่น
อุปกรณ์ที่ช่วยทำให้เราหาของที่หาไม่เจอแล้วติดไว้กับสิ่งของอันนี้มีประโยชน์สำหรับคนขี้ลืมเป็นอย่างมากเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับ Smart Phone ที่จะคอยแจ้งเตือนหากเราลืมของไว้ที่ใดที่นึงหรือลืมมันทิ้งไว้ก็จะมีเสียงเตือนดังขึ้นเราก็สามารถหาเจอได้ไม่ยาก
อุปกรณ์สำหรับเด็ก ๆ หรือลูก ๆ หลาน ๆ อย่าง Smart Watch สำหรับเด็กเจ้าตัวนี้โทรออกรับสายได้และกดเสียงเตือนผู้ปกครองได้หากเด็ก ๆ หลงทาง
อีกอุปกรณ์ที่ทางทรูคอร์ปฯ นำมาแสดงให้เราดูคือ Auto Wheel เป็นพาหนะไฟฟ้าที่ทำให้เราเคลื่อนตัวได้ไวกว่าการเดินเหมาะสำหรับใช้งานในออฟฟิสที่มีพื้นที่กว้าง ๆ ใหญ่ ๆ ดูไปแล้วเหมาะกับอาชีพตำแหน่งเด็กส่งเอกสารในออฟฟิสอยู่ไม่น้อย 🙂
2.Smart HOME
เป็นแนวคิดที่เจ๋งและคูลมากสำหรับคนที่ต้องการและโหยหาความอัจฉริยะของการใช้ชีวิตในบ้านเพราะมันสามารถตอบโจทย์ของเราได้อย่างแท้จริงในยุคดิจิทัลเช่นนี้ โดยทางทรูคอร์ปฯ ได้นำนวัตกรรมอย่างการสั่งเปิด-ปิด ไฟในบ้านแบบไร้สาย
แผนผังของ Smart Home โดยจำลองห้องนั่งเล่นที่สามารถควบคุมด้วยแอปบน Smart Phone และ Tablet ให้เปิด-ปิดไฟได้เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ซึ่งช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น การสั่งเปิด-ปิดไฟในห้องแบบตั้งเวลาล่วงหน้าผ่านระบบอินเทอร์เน็ตจาก Smart Phone หรือ Tablet โดยอาศัยการควบคุมคำสั่งผ่านอินเทอร์เน็ตและตัวแอปให้เปิดหรือปิดไฟจากข้าง นอกหรือตอนเราไปทำงานอย่างตอนเย็นเรากำลังจะกลับบ้านแต่กำลังมืดค่ำก็สั่งให้ไฟทั้งบ้านหรือห้องใดห้องนึงเปิดไฟทิ้งไว้ก่อนได้หรือ
แม้นแต่ควบคุมการทำงานอื่น ๆ ของอุปกรณ์ในห้องนั่งเล่นอย่างสั่งเปิด-ปิดทีวี เครื่องปรับอากาศหรือแม้นแต่เตาอบไมโครเวฟผ่านแอป สั่งเปลี่ยนช่องหนัง หรือสลับไปฟังเพลงหรือหากมีกล้องวงจรปิดก็สามารถสั่งสลับไปดูได้ไม่พอสามารถดูกล้องวงจรปิดผ่านแอปได้โดยการบันทึกภาพนี้จะถูกอัพโหลดผ่าน Cloud Service ด้วยในตัวทำให้ผู้ใช้สามารถ Play Back จากที่ใดก็ได้หรือดู Monitor ผ่าน Smart Phone จากกล้องที่ติดไว้ในบ้านได้กรณีอยู่นอกบ้าน
อีกด้านหนึ่งใน True Smart Home คือความบันเทิงอย่างการเล่นเกมผ่าน Cloud Service โดยอาศัยอุปกรณ์อย่าง TrueMAXX HDMI Stick ที่คุณสามารถนำไปต่อกับ TV LED ผ่าน Port HDMI แล้วสามารถเล่นเกมผ่านการดาวน์โหลดเกมผ่าน Cloud Service ได้เลย
อยู่บ้านนั่งเล่นเกมกับเพื่อน ๆ ผ่าน TrueMAXX HDMI Stick ในห้องนั่งเล่นแถมโดยต่อ Joy Stick แบบไร้สายเล่นเกมกับตัวทีวีได้ทันที (ท่านใดอยากลองไปลอง TrueMAXX HDMI Stick ตัวนี้เพื่อเล่นเกมไปลองได้ที่ True Coffee ชั้น 3 ของ EmQuatier เปิดบริการให้ลองทุกวันครับ)
มีเกมให้เลือกเยอะมากโดยเริ่มต้นที่ 40 เกมแต่ละเกมจะมีทั้งแบบให้ทดลองเล่นฟรี 30 นาทีแรกและแบบจ่ายเงิน
โดยมีอัตราเสียค่าบริการตามในภาพประกอบครับดูแล้วก็เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้มานั่งเล่นเกมตลอดเวลาแต่อยากจัดปาร์ตี้ที่บ้านในห้องนั่งเล่นกับเพื่อนในช่วงสั้น ๆ เท่านั้นส่วนการเชื่อมต่อนั้นจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสัก 30Mbps กำลังดีอันนี้ทางเจ้าหน้าที่ของทรูแนะนำบอกมาครับเห็นราคาแบบนี้ถ้าเป็นเกมที่เราชอบจริง ๆ ก็สามารถรอซื้อขาดติดตั้งได้ส่วนการจัดเก็บเกมทั้งหมดจะเก็บในระบบ Cloud Service ของทางทรูโดยหากเราไปบ้านเพื่อนแล้วเขามี TrueMAXX HDMI Stick เราก็สามารถ Access เข้าไปใน ID ของเราแล้วโหลดเกมที่มีหรือจ่ายเงินซื้อไว้แล้วมาเล่นได้เลยนี่คือส่วนที่น่าสนใจของความ Smart Home ซึ่งทุกวันนี้เราโหยหาอยากอยู่บ้านที่มีความบันเทิงครบครันมากขึ้นและมีเทคโนโลยีฉานฉลาดเจ๋ง ๆ เข้ามาช่วยให้เราอยากอยู่บ้านกับครอบครัวมากขึ้น
3.Smart BUILDING
ความทันสมัยและความอัจฉริยะที่ผสานกับเทคโนโลยีในยุคใหม่ที่ทำให้เรารู้สึกสะดวกและปลอดภัยมากขึ้นจากการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับอาคารสถานที่ในส่วนของ Smart Building นี้ทางทรูคอร์ปฯ ได้แสดงโซลูชั่นที่น่าสนใจ 3 อย่างด้วยกันคือ ระบบไม้กั้นเข้าออกลานจอดรถอัจฉริยะ , ระบบ Scan บัตรเข้าจอดรถหรือเข้าอาคาร
และระบบ Cloud CCTV ที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่ภายในอาคารสามารถตรวจตราความปลอดภัยในอาคารได้จากหลาย ๆ จุดผ่านระบบ Cloud และจากแอปบน Mobile Device ได้ทันที
อีกหนึ่งเทคโนโลยีใน Smart Building คือระบบตรวจและสร้างระบบบันทึก ID Card สำหรับผู้ที่เข้าออกตัวอาคารอยู่บ่อย ๆ ปกติแล้วเราต้องแลกบัตรเพื่อเข้าจอดรถหรือเดินเข้าอาคารใช่รึเปล่าครับแต่ด้วยเทคโนโลยี ID & Passport Recognition ระบบการพิสูจน์ตัวตนด้วยเลขที่บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางก่อนเข้าอาคารที่ใช้วิธีการ Scan บัตรแล้วสร้างประวัติของเจ้าของบัตรไว้ในระบบของงานอาคาร
เพียงยื่นบัตรประชาชนหรือ Passport ครั้งแรกเท่านั้นครั้งต่อไปยื่นบัตรแล้ว Scan ผ่านได้เลยเพราะในระบบมีรายชื่อของเราอยู่แล้วเราก็สามารถผ่านเข้าอาคารที่มีเทคโนโลยี ID & Passport Recognition นี้ได้เลยทำให้ประหยัดเวลาคิดง่าย ๆ ก็คงเหมือนระบบ Scan ลายนิ้วมือตอกบัตรนั้นเองครับ
อีกโซลูชั่นสำหรับอาคารหรือหมู่บ้านคือที่กั้นทางเข้าออกหมู่บ้านหรืออาคารนั้นเองโดยระบบนี้จะอาศัยการอ่านป้ายทะเบียนรถโดยมี
ซอฟท์แวร์เป็นตัวตรวจจับลักษณะแผ่นป้ายทะเบียนรถว่าตรงกับในฐานข้อมูลหรือไม่ถ้ามีตรงกันแผงกั้นจะเปิดเองโดยอัตโนมัติดู ๆ ไปก็คล้าย ๆ กับกับระบบ RFID ที่ใช้ในระบบของการทางพิเศษก็คือ Easy Pass ดี ๆ นี่เองแต่อันนี้เจ๋งกว่า
4.Smart BUSINESS
โซลูชั่นที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตการทำงานและแก้ปัญหาในการทำงานด้วยการนำเทคโนโลยีไอทีเข้ามาช่วยแก้ไขให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างสะดวกและมีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพงซึ่งจุดนี้ทางทรูคอร์ปฯ
ได้นำเสนอ Smart Business เป็นโซลูชั่นที่ช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดภาระค่าใช้จ่ายด้าน Service และการลงทุนด้านอุปกรณ์ไปได้มากทีเดียวโดยจะมีโซลูชั่นสำหรับผู้ประกอบการและต้องการเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์เข้ามาใช้งานในออฟฟิสถึง 3 อย่างรวมไปถึงร้านค้าที่มองหาโซลูชั่นที่ช่วยแก้ปัญหาด้านงานบริการโดยแบ่งย่อยเป็น Smart Office, Smart Restaurant และ Smart Transport
ส่วนหนึ่งใน Smart Business จากทางทรูคือ Smart Conference หรือระบบประชุมทางไกลผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงช่วยให้สามารถประชุมระหว่างสาขาได้อย่างราบรื่น Smart Office ที่นำเทคโนโลยี Cloud Service ผนวกกับ Device อย่าง Google Chrome Book ซึ่งพนักงานสามารถทำงานเอกสารหรือส่งอีเมลผ่านระบบ Cloud Service โดยบางครั้งพนักงานไม่จำเป็นต้องทำงานที่ออฟฟิสแต่นั่งทำจากส่วนใดก็ได้จากภายนอกอาคารหรือจากที่บ้านก็สามารถแชร์งานผ่านระบบ Cloud หรือส่งงานกันได้โดยง่าย
Smart Transport อีกหนึ่งโซลูชั่นสำหรับงานขนส่งสินค้าหรือ Logistic ที่จะมาช่วยให้งานด้าน Logistic สะดวกขึ้นและสามารถควบคุมต้นทุนด้านการขนส่งได้เป็นอย่างดีผ่านแอปพลิเคชั่นและอุปกรณ์
GPS Tracking ที่จะระบุตำแหน่งตัวรถ / ความเร็วในการขับขี่ / คำนวณเส้นทางระยะทางในการขนส่งโดยข้อมูลทั้งหมดจะวิ่งผ่าน Cloud และส่งมายัง Monitor หรือ Mobile Device
ที่ติดตั้งตัวอุปกรณ์แบบในภาพเข้ากับตัวรถขนส่งสินค้าโดยการส่งข้อมูลจะใช้การส่งผ่านโครงข่าย 3G/4G ของทรู
อีกตัวที่เกริ่นไปในหัวข้อของ Smart Business คือ Smart Restaurant ที่จำเทคโนโลยี 3 อย่างมาช่วยให้เจ้าของร้านอาหารสามารถให้บริการกับลูกค้าที่่ต้องการใช้งาน Wi-Fi และแชร์ภาพของตนเข้าสู่ Social Media ผ่าน “Social Wi-Fi” และช่วยให้ร้านปลอดภัยด้วยการใช้ “Cloud CCTV” ที่บันทึกภาพเหตุการณ์ภายในร้านอัพโหลดเข้าสู่ Cloud Server และ Play Back ได้เมื่อต้องการ และรวมไปถึงอีกเทคโนโลยีที่น่าสนใจคือ Digital Signage หรือป้ายโฆษณาอัจฉริยะที่สามารถเผยแพร่โปรโมชั่นของทางร้านผ่านระบบอินเทอร์เน็ตไปยังป้ายแสดงผลได้ทันทีไม่ว่าจะติดตั้งป้ายไว้ที่ใดภาพโปรโมชั่นและกิจกรรมก็จะปรากฎบนป้ายทันที
5.Smart CITY
Smart CITY ก็คือระบบอัจฉริยะของการใช้ชีวิตแบบวิถีคนเมืองที่นำเอาเทคโนโลยีหลาย ๆ ด้านเข้ามาช่วยให้การดำเนินชีวิตง่ายขึ้นปลอดภัยขึ้นและสะดวกสบายมากขึ้นซึ่งในส่วนของ Smart CITY นี้จะมีเทคโลยีที่น่าสนใจเป็นตัวหลัก ๆ เลยคือระบบ CCTV ที่สามารถตรวจจับความผิดปกติของวัตถุหรือผู้คนที่ผิดสังเกต หรือเฝ้าระวังอุบัติเหตุหากเกิดอุบัติเหตุใด ๆ จะมี Drone ที่สามารถส่งชุดรักษาพยาบาลไปยังจุดเกิดเหตุให้กับเจ้าหน้าที่ได้อย่างทันทวงที โดยมีศูนย์บัญชาการ (Command Center) ที่คอยมอนิเตอร์เฝ้าสังเกตุการณ์อยู่ใน Wall Room
ภาพจำลองห้องปฎิบัติการ Wall Room
ตัวกล้องวงจรปิดที่ใช้ติตดั้งในเมืองและควบุคมผ่าน Wall Room
โดรนตัวนี้นี่แหละครับที่จะใช้พากล่องปฐมพยาบาลไปส่งให้ถึงมือทีมกู้ชีพ
ในภาพจะแสดงอัตราการไฟกำลังไฟฟ้าของทั้งเมืองแบบ Real Time
อีกหนึ่งในเทคโนโลยีที่ทางทรูคอร์ปฯ นำมาเสนอคือ Car Connect โดยเป็นการร่วมมือกับบริษัทผลิตรถยนต์อย่าง MG ที่ทำการติดตั้งระบบ 3G ไว้ในตัวรถยนต์แบบฝังตัวเลยเผื่อช่วยให้เจ้าของรถสามารถรับรู้สถานะการทำงาน ของรถได้
ผ่านแอปพลิเคชั่นบน Smart Phone อย่างเช่นจุดใดในตัวรถผิดปกติ หรือหากเวลาเดินทางสามารถขอความช่วยเหลือได้จาก Call Center ของทาง MG ได้ทันทีผ่านแอปบนมือถือรวมไปถึงเก็บสถิติการขับขี่ส่งขึ้นระบบ Cloud Service เป็นหนึ่งในคอนเซปส์ Big DATA และ Internet of Things ที่นำมาใช้กับรถยนต์
มองในภาพรวมของ True Smart Life
ถ้าจะกล่าวแบบโดยรวมของโซลูชั่น Smart Life จากทางทรูคอร์ปฯ ก็คงเห็นได้ชัดว่าทางทรูมีเป้าหมายเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยให้เท่าทันเทคโนโลยีใหม่ ๆ เสมอและนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาใหม่ ๆ เพื่อให้ชีวิตทั้งการทำงาน การใช้วิถีชีวิตเดิม ๆ เริ่มเปลี่ยนไปมากขึ้น ๆ จนบางครั้งตัวเราเองหรือแม้นแต่กระทั่งตัวผมกว่าจะรู้ตัวก็โดนกระแสของเทคโนโลยีใหม่ ๆ นำพาขึ้นไปสู่ยุคที่เรียกว่า Digital Life ที่นับว่าเราพี่งพาอาศัยทั้งเทคโนโลยีด้านไอทีมากขึ้น ๆ และนั้นทำให้เราพอรู้ตัวอีกทีนึงก็ต้องอาศัยเทคโนโลยีอันฉานฉลาดที่เกิดขึ้นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ และผมมองว่าทรูคอร์ปฯ ก็คงมีแนวคิดการการนำเทคโนโลยีทั้งใหม่และเก่าในมือนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดภายในทรัพยากรที่จำกัดและเป็นส่วนนึงที่ช่วยพลักดันทั้งด้านสังคม วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เราผูกติดกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากขึ้นนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นและนำมาสู่คำว่า “Digital Economics” ที่ผสมผสานด้านต่าง ๆ เข้ามาสู่ชีวิตความเป็นอยู่ สังคม วัฒนธรรม การเมืองการปกครองและเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้นเป็นส่วนนึงของฟันเฟืองที่อยู่ข้างหลังคอยพลักดันสังคมไทยด้วยแนวคิด Smart Life นั้นเอง
อยากเยี่ยมชมกิจกรรมและเทคโนโลยี True Smart Life , Smart CITY ไปได้ที่ใด?
ตอนนี้ทางทรูคอร์ปกำลังจัดงาน True Smart Life อยู่ที่ EmQuartier ระหว่างวันที่ 24-30 สิงหาคมนี้การเดินทางนั่งรถไฟฟ้า BTS ไปลงสถานีพร้อมพงษ์และเดินเข้าห้าง EmQuartier ฝั่งลานด้านหน้า
โดยตรงหน้าลานจะมี Photo Booth ให้เราถ่ายภาพร่วมสนุกกันด้วย
เอ้า 3 2 1 แชะกันสนุก ๆ
และถ่ายเสร็จแล้วภาพจะไปปรากฎบน LED Display Wall ท่านใดสนใจก็ลองไปเล่นดูได้ครับ
พร้อมกันเดินชมตามบูธต่าง ๆ ภายในกิจกรรมที่จัดโดยทางทรูคอร์ปฯ ขอขอบคุณ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่เชิญทีมงาน iReview.in.th ร่วมสัมผัสประสบการณ์ Smart Life , Smart City ในครั้งนี้สวัสดีครับ