Xiaomi (เสี่ยวหมี่) ที่หลายคนรอการมาของ Mi 5 ภาคต่อจาก Mi 4 ที่หลายคนเคยได้สัมผัสมาก่อน ผ่านเครื่องศูนย์ไทยอย่าง Truemove H หรือจะเป็นการผ่านร้านหิ้วมาขายก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เราได้เรียนรู้จากการใช้ผลิตภัณฑ์ Xiaomi ก็คือการใช้งานง่าย มีสเปคดี ในราคาที่ไม่แพง
จากงานเมื่อวันที่ 24 ซึ่งเป็นงานเปิดตัวของทาง Xiaomi และมีการถ่ายทอดสดจากงาน MWC 2016 (Mobile World Congress) ซึ่งสมาร์ทโฟน Xiaomi Mi 5 นั้นมีความน่าสนใจน่าใช้ยิ่งนัก อย่างน้อยเราก็เห็นสิ่งที่แตกต่างจากผู้ผลิต Smart Phone Device รายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Rom และ UI/UX อันโดดเด่นผ่าน MIUI 7 ที่ลื่นมากสวยและใช้งานง่าย จนบางทีลืมไปเลยว่ามันคือ Android
กล่วงช่วงเริ่มงาน
โดยงานเปิดตัวนี้ Hugo Barra ประธานบริหาร Xiaomi ขึ้นกล่าวบนเวลาต้อนรับผู้เข้าชมงานเปิดตัว Mi 5 พร้อมแสดงวิสัยทัศน์และเทคโนโลยีของบริษัท
รวมไปถึงรับฟังผลิตภัณฑ์ของ Xiaomi หลาย ๆ ตัวแบบน่าสนใจมากจนหลายคนพูดว่า
ไม่คิดว่า Xiaomi จะทำออกมาขาย
ที่เราได้สัมผัสกันและคุ้นตาในบ้านเราก็จะมี Mi Band, Yi Action Camera, Mi Power Bank เป็นต้น
และตัวสมาร์ทโฟนที่ Xiaomi เพิ่งวางขายไปก่อนหน้านี้ไม่นานนักด้วย มีทั้ง Xiaomi Mi4c, Mi Note, Red Mi Note 3 และบางรุ่นยังได้ตีตลาดอเมริกา
และภาพรวมของบริษัทตั้งแต่อดีตก่อตั้งมาจนปัจจุบัน
ถัดมากล่างถึง Qualcomm Snapdragon ว่าเป็น CPU ที่ยอดเยี่ยม และเราได้เชิญผู้บริหารมาร่วมงานเปิดตัวครั้งนี้
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่นึกว่าจะเกิดขึ้นในงานมาก่อนเป็น Guest คนเดียวในงานเลย Derek K. Aberle ประธานบริหารบริษัท Qualcomm Incoporated ขึ้นเวทีมาบอกเล่าถึงเทคโนโลยี CPU ของ Qualcomm Snapdragon ให้ผู้ร่วมงานได้ฟังกัน ภาพที่เห็นที่ผมคิดคือปกติแล้วผู้ผลิต CPU หรือ Chip จะไม่ค่อยได้ขึ้นเวทีแต่นี้คือสิ่งสำคัญที่ทำให้เราเห็นว่า Xiaomi กับ Qualcomm เป็นพันธมิตรกันแน่นแฟ้นมาก
Xiaomi Market
Hugo Barra บอกกับเราว่าปีที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายเฉพาะตัวมือถือได้ถึง 70 ล้านเครื่อง
โดยเฉพาะผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Android ผ่าน Operator ผู้ให้บริการ Tencent ในประเทศจีน เทียบเป็นกราฟบ่งบอกว่ามีผู้ใช้ Xiaomi Phone แต่ล่ะรุ่นอยู่กี่เปอร์เซ็นต์
และ Mi4 เรือธงของทาง Xiaomi นั้นอยู่อันดับ 3 จากจำนวนผู้ใช้ Android Phone ทั้งหมดในประเทศจีน
โดย Mi4 นั้นได้เปิดตัวในช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2014 ถ้านับรวม ๆ มาถึงช่วงปีนี้ก็ร่วมเกือบ 2 ปีแล้ว
และชาร์ตบอกถึงส่วนแบ่งทางการตลาดทั่งโลก โดยนับจาก 5 แบรนด์ที่ขายทั่วโลก Xiaomi อยู่ที่ 4.9% ดูน้อยนะครับถ้าวัดระดับโลกเนี่ย
แต่ในทางกลับกันในบ้านเขาเอง Xiaomi คืออันดับ 1 ในประเทศบ้านเกิดอย่างประเทศจีน นั้นคือทั้งหมดที่ Hugo Barra มาบอกเล่าถึงยอดขายและสิ่งที่เกิดขึ้น ในตลาดสมาร์ทโฟนทั้งระดับโลกและเฉพาะในประเทศจีน
MIUI
มาถึง MIUI – สำหรับ MIUI นั้นเป็น Graphic User Interface ที่นักพัฒนาจากหลาย ๆ ประเทศ มาร่วมกันพัฒนา UI ผ่านชุมชนนักพัฒนา MIUI โดยสร้างครอบลงใน ระบบปฎิบัติการ Android ทำให้เกิดความหลากหลายรวมไปถึงความสวยงานใช้งานง่าย เสถียรและมีผู้ใช้เยอะมาก
Hugo Barra บอกว่าตัว MIUI นั้นไม่ใช่แค่รองรับ Xiaomi เท่านั้นแต่ยังรองรับสมาร์ทโฟน Android มากถึง 96 แบรนด์ และมากกว่า 347 รุ่น! เยอะมากทีเดียว
เฉลี่ยแล้ว MIUI นั้นอายุ 5.5 ปีและมีการอัพเดตตลอดเวลาถึง 275 สัปดาห์
(เท่าที่ผมใช้งานอยู่บน Mi4 โดยส่วนตัวยังไม่หยุดพัฒนาครับยังมีอัพเดตเรื่อย ๆ และจะมี Feature ใหม่หรือแก้ Bug มาตลอด)
สำหรับผู้ใช้ MIUI ทั่วโลกนั้นนับว่ามีเยอะมากถึง 170 ล้าน User ที่ Active ใช้งาน MIUI
และตอนนี้ในปัจจุบัน Version ของ MIUI เดินทางมาถึงรุ่น 7 แล้ว
Mi 5 Hardware
CPU and Memory
Slide ชุดนี้บอกถึงการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี CPU Qualcomm Snapdragon และการที่ Mi 5 นำ Snapdragon 820 มาใช้นั้นมันจะทำให้ Mi 5 ทำงานเร็วขึ้นถึง 100% มากกว่า 810 อย่างชัดเจนและ Graphic Chip ก็จะเร็วกว่าเดิม 40% เลยทีเดียว คะแนนเทสผ่าน Aututu 6.0.4 ได้ถึง 142,048 เลยเชียว
โดย CPU Code Name Kyro หรือ Snapdragon 820 นั้นเป็น CPU แบบ Quad-Cores CPU แบบ 64bit ทำงานด้วย Clock Speed ที่ 2.2GHz หน่วยการผลิตที่ 14 นาโนเมตรและมี GPU Adreno 530 ฝั่งมาพร้อมกับรองรับ Quick Charge 3.0 และรองรับเครือข่าย 4 LTE CAT 12
ส่วนด้าน Memory หรือ Ram นั้นจะเป็นแบบ eMMC UFS 2.0 และ Ram ที่ใช้เป็นแบบ LDDR4 ขนาด 4GB ที่มีความเร็วในการอ่านเขียนสูงโดย Xiaomi จะใส่มาให้ใน Mi 5 ถึง 128GB เท่าที่ดูถ่ายทอดสดไม่มีบอกรุ่นที่ต่ำกว่า 128GB เลย นั้นคือข่าวดีของผู้ที่ซื้อไปใช้ครับได้หน่วยความจำ Rom เพิ่มขึ้นส่วนข่าวร้ายสำหรับบางคนคือไม่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้
Networking
ในด้านช่องทางการสื่อสารนั้น Xiaomi ก็เน้นเรื่อง 4G+ บนเครือข่าย LTE Cat 12 โดยความเร็วของ Cat 12 อยู่ที่ 600Mbps ซึ่งแน่นอนว่ามันเร็วกว่า Cat 9 มาก (Cat 9 อยู่ที่ 450Mbps) แล้วมันก็ถูกใส่ให้รองรับใน Mi 5 พร้อมกับรองรับ VoLT อีกต่างหากแจ่มแบบ 5 ดาวจริง ๆ
Body and Design
สำหรับ Body และ Design ตัวเครื่องของ Mi 5 นั้นต้องบอกว่าเฟี้ยวมาก เฟี้ยวตรงที่กล้าจะนำเอา Design ขอบโค้งมลทาง Xiaomi เรียกการออกแบบ Body ของตัวเองว่า “3D ceramic body” ที่ชวนให้ดูสวยกว่า Mi4 แบบฉีกทิ้งไปเลย โดยตัวเครื่องนั้นก็ยังเป็นขอบโลหะเช่นเดิม
และสีของตัวเครื่องนั้นทำออกมาขายถึง 3 สีคือ สีดำ สีเงินและสีทอง พร้อมด้วยเป็นครั้งแรกของ Xiaomi ที่ใส่ปุ่ม Home แบบกดปุ่มเดียวจบและปุ่มนี้ก็เป็น Scan ลายนิ้วมือในตัวด้วยครับ
ส่วน Battery และน้ำหนักเครื่องนั้นเรียกได้ว่าตบงานออกแบบของแบรนด์อื่นซะจริงเมื่อลองดูความจุของ Battery ไล่ ๆ กันหรือเท่ากันแต่ Mi 5 น้ำหนักเบากว่ามากหนักเพียง 129 กรัมเท่านั้น
Camera
เป็นอีกหนึ่งในเรื่องที่แข่งขันกันสุดฤทธิ์มากในตลาด Smart Phone และ Xiaomi ก็ตอบโจทย์ผู้ใช้ดีมาตลอดครับอย่าง Xiaomi Mi4 ก็เป็นอีกตัวอย่างนึงที่หลาย ๆ คนยอมรับเรื่องกล้องหลังด้วย Sensors ที่ Xiaomi เลือกใช้คือ Sony
พอมาเป็น Mi 5 ก็ยังคงเลือกใช้ Sensors จากทาง Sony เป็นรุ่น IMX298 (Exmor RS Sensors) ที่มีขนาด 1/2.8 นิ้ว F Stop Aperture : F/2.0 ขนาด Image Pixel Size 1.12 µm pixel มี OIS ป้องกันการสั่นไหวขณะถ่ายภาพโดยมีระบบกันสั่นถึง 4 แกน เพื่อช่วยลดการสั่นไหวขณะถ่ายภาพ แถมด้วยยังรองรับการถ่ายภาพ Video 4K อีกด้วยครับโอย Video 4K Recorder จะผ่าน Sensors Qualcomm Spectra Camera ISP
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายโดย Xiaomi Mi 5
ภาพนี้ที่ถ่ายโดย Xiaomi Mi5 เมื่อถูก Zoom เข้าไปดูความละเอียดจะเห็นได้ว่ารายละเอียดของตัวภาพนั้นตัวกล้องเก็บรายละเอียดได้ดีมาก
เปิด EXIF Data ขึ้นมาให้เราดูด้วย จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าขนาดไฟล์ภาพนั้นอยู่ที่ 3,456×4,608 Pixel ที่ ISO 100 , F Stop 2.0 , Exposure 1/324
กล้องหน้า
กล้องหน้าของ Xiaomi นั้นทำได้ดีมาตลอดครับอันนี้ผมยอมรับเองเลยนะถ้าถ่ายในสภาพแสงดี ๆ นี่ชัดมากและการพัฒนากล้องหน้าของ Xiaomi Mi 5 ก็ยังคงเป็นเช่นที่เป็นครับ ถ้าเปิดโหมดสวยขึ้นมานี่หน้าผ่อง ๆ กันเลย
ที่เพิ่มเติมเรียกเสียงฮือฮาคือแอป Video Call ที่สามารถแทรกระหว่างที่เราเล่นเกมหรือทำอย่างอื่นได้
รวมไปถึงมี Effect เก๋ ๆ มาให้ใช้ด้วยถึง 6 แบบด้วยกัน
Display
เรื่องหน้าจอภาพทาง Xiaomi เลือกใช้ขนาดหน้าจอ 5.15 นิ้วแบบ FHD หน้าจอแบบ OLED 16M Color ชนิด Sunlight Display ที่สู้แสงแดดกลางแจ้งได้ดีและมีความสว่างสูงถึง 600 Nits และขอบจอที่กว้างขึนทำให้การออกแบบขอบตัวเครื่องบางลง
Connectivity
การเชื่อมต่อนั้น Xiaomi ได้เพิ่มเติม NFC ลงใน Mi 5 ทำให้การใช้งานในยุคนี้ที่ NFC มีบทบาทต่อโลกและชีวิตประจำวันของคนเรามากขึ้นก็ตอบโจทย์ส่วนนี้ได้เลย
Quick Charge 3.0
แน่นอนว่าเมื่อใช้ CPU Qualcomm สิ่งที่จะได้ติดมาคือเทคโนโลยีการชาร์จแบบเร็วซึ่ง Snapdragon 820 นั้นมีเทคโนโลยีรุ่น 3.0 ของ Quick Charge มาให้ Mi 5 เลยกลายเป็น Smart Phone ที่ชาร์จไวเพียง 1 ชั่วโมง เกือบเต็มเร็วกว่า Quick Charge 2.0 ถึง 20%
Android OS
ตัว Mi 5 จะถูกติดตั้งระบบปฎิบัติการ Android 6.0 Marshmallow มาให้เลยพร้อมกับธีมส์สวย ๆ จาก MIUI ถึง 5 แบบด้วยกัน
สรุป Spec และ ราคา
นอกจากนี้ที่ทำให้ตะลึงนิด ๆ ในงานนี้คือเผยตัว Mi 5 Pro มาด้วย
ดังนั้นสรุปกันได้แบบหายงง เลยครับว่าทาง Xiaomi ทำการเปิดตัว Mi 5 และ Mi 5 Pro ตัดออกมาเป็น 2 Spec คือ ตัว Pro ท๊อป 128GB และรองท๊อป 64GB พร้อมราคาดังนี้ (คิดค่าเงินเป็นหยวน 5.46 บาท ต่อ 1 หยวน)
- Mi 5 Pro 3D Ceramic Back Cover (Rom 128GB) ราคา 2,699 หยวน คิดเป็นเงินไทย = 14,725.52 บาท
- Mi 5 Pro 3D Glass Back Cover (Rom 64GB) ราคา 2,299 หยวน คิดเป็นเงินไทย = 12,543.15 บาท
- Mi 5 3D Glass Back Cover (Rom 32GB) ราคา 1,999 หยวน คิดเป็นเงินไทย = 10,906.38 บาท
กำหนดเริ่มวางขาย
กำหนดขายในวันที่ 1 มีนาคม 2016 นี้ โดยขายทางเว็บไซต์ mi.com และในบ้านของตัวเองก่อนคือประเทศจีนแต่สำหรับบ้านเราต้องบอกว่าต้องรอร้านหิ้วมาขายเท่านั้นและต้องดูด้วยว่ารุ่นที่ขายนั้นจะรองรับกับเครือข่าย 4G บ้านเราได้ด้วยหรือไม่ครับเพราะจีนกับไทยเครือข่ายค่อนข้างต่างกันพอสมควร