แบรนด์จีนในตลาดบ้านเราที่คุ้นหูยกให้กับแบรนด์ Huawei อ่านเป็นไทยว่า “ฮ๋วา – เว๋ย์” ดูปากนัชชานะคะ ฮ๋วา – เว๋ย์ ถึงชื่อจะชวนจิตตกไปหน่อยก็ตามแต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะเว็บเราไม่ได้มาสอนอ่านภาษาจีนแต่อย่างใด วันนี้เราจะหยิบฮ๋วาเว๋ย์รุ่นนึงมารีวิวนั่นก็คือ Huawei Ascend P7 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่มาพร้อมกับดีไซน์หรูหราและเบาบาง
Huawei Ascend P7 Specification
- CPU : HiSilicon Kirin 910T Quad-core 1.8 GHz Cotex-A9
- GPU : Mali-450MP4
- OS : Android OS, v4.4.2 (KitKat) ครอบด้วย Emotion UI 2.3
- Display : 5″ LTPS TFT capacitive touchscreen 1080 x 1920 pixels (~401 ppi pixel density)
- RAM : 2 GB
- ROM : 16GB (รองรับ micro SD)
- Camera (Back) : 13 MP, 4128 x 3096 pixels, autofocus, LED flash
- Camera (Front) : 8MP
- Battery : 2500 mAh
- Network : รองรับ 3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100 รองรับ 4G LTE 800 / 900 / 1800 / 2100 / 2600
- Sim : micro Sim
Design
การออกแบบตัวเครื่องของ Huawei Ascend P7 นั้นไม่ธรรมดา คอนเส็ปต์การออกแบบทาง Huawei เรียกว่า Double C
คล้ายๆการเอาตัว C สองตัวมาผสานกันจนได้ตัวเครื่องแบบ Unibody แน่นอนว่าไม่มีฝาหลังให้แกะเปลี่ยนแบต
หน้าจอขนาด 5 นิ้ว เทคโนโลยีหน้าจอ LTPS สีสดใส และมีมุมมองที่กว้าง ความละเอียด 1080 x 1920 pixels (~441 ppi) ขอบหน้าจอบางทำให้ตัวเครื่องเล็กลงจับถนัดมือ กระจกจอเป็น Corning Gorilla Glass 3 ป้องกันรอยขีดข่วนอย่างดี
ข้างบนหน้าจอมีลำโพงสนทนา กล้องหน้าให้มาเต็มที่ด้วยความละเอียดขนาด 8 ล้านพิกเซล
ด้านหลังมีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash ในส่วนค่อนไปทางด้านล้างซ้าย (ที่ถูกน้องแมวเอาหางปิดอยู่) จะมีลำโพงหลักของตัวเครื่อง เสียงดังใช้ได้เลย
ตัวเครื่องของ Ascend P7 บางมาก บางเพียง 6.5 มิล ไม่ห่อตัวไม่ซึมเปื้อน… ด้านข้างซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มอะไรเลย มองด้านข้างนี่หน้าตาคล้าย iPhone 5s อยู่นะเนี่ย แต่บางกว่าเยอะ
อีกด้านมีปุ่ม เพิ่ม/ลด เสียง , Power , และช่องใส่ micro Sim และ micro SD Card มีรูเล็กๆใช้เข็มเล็กๆแทงถาดจะเด้งออกมา ส่วนเข็มแทงชนวนมีให้ในกล่องด้วยนะ
ด้านบนมีชองเสียบหูฟังขนาด 3.5mm. และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา
ด้านล่างมีลักษณะโค้งนูนน่ารัก มีช่องเสียบ microUSB ตรงกลาง และไมโครโฟนสนทนา
[divider]
Camera
ฟีเจอร์เทพของ Ascend P7 ในเรื่องกล้อง คงหนีไม่พ้นซิปประมวลผลสัญญาณภาพ (ISP) ที่ใช้เป็นระดับเดียวกับกล้องดิจิทัล SLR
กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมโหมดกล้อง 10 โหมด
แสดงผล Filter แบบ Realtime นั่นหมายความว่าเราจะเห็นภาพที่ผ่าน Filter แล้วก่อนจะกดชัดเตอร์เสียอีก
กล้องสามารถปรับแต่งได้อย่างละเอียด ทั้ง ISO, WB, Brightness, Contrast, Exposure
ตัวอย่างรูปภาพจากล้อง Huawei Ascend P7
การ Panorama ของกล้องหลังช่วงรอยต่อยังทำได้ไม่ดีเลย อันนี้แอบผิดหวัง
Panorama นอกจากจะใช้กับกล้องหลังได้แล้ว ยังสามารถใช้กล้องหน้าถ่ายแบบพาโนได้ด้วย เอาไว้ Selfie เป็นกลุ่มใหญ่ๆ ซึ่งผลที่ได้ก็คือ….
…มันใช้ได้ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะลองถ่ายใหม่อีกกี่ครั้งไม่ว่าจะเป็น
การลดจำนวนคนลง แบบนี้…
หรือลดลงอีก แบบนี้… เอาเป็นว่าถ่ายคนเดียวน่าจะได้เรื่องกว่า
[divider]
User Interface & Experience
หน้าตา UI ของ Ascend P7 จะครอบด้วย Emotion UI ออกแนวคล้ายๆ MIUI หรือของ Lenovo คือไม่มี App Drawer (อีกแล้ว) เพราะฉะนั้น ทุกแอพจะไปกองรวมกันในหน้า Home หมด แต่เราสามารถจัดหมวดหมู่ได้ จับใส่ Folder ได้
ในหน้า Lock Screen สามารถกดตรง icon กล้องแล้วปาดขึ้นเป็นทางลัดเข้ากล้องอีกแบบนึง (คุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน) และมี Theme ให้เลือกเปลี่ยนมากมาย สามารถ mix Theme ได้ด้วย เอาของตัวนู้นมาใส่ตัวนี้
แบรนด์นอกต่างๆ มี ชื่อเรียก UI ของตัวเอง ทาง Huawei ไม่น้อยหน้า มี UI ของตัวเองเหมือนกันเรียกว่า Emotion UI พร้อมรองรับการ Update แบบ OTA หรือใช้เป็นไฟล์ Zip ไม่ก็ต่อ USB เอาได้
ขณะที่เราอ่านหรือกำลังทำอะไรอยู่ หากมีข้อความเข้า จะเด้งเป็นหน้าต่างเล็กๆลอยขึ้นมาให้เราอ่านข้อความทั้งหมดแล้วเลือกได้ว่าจะ ลบทิ้ง ปิด หรือ ตอบกลับ
ในส่วนของ Smart Assistance มี
- Notification panel สามารถปรับแต่ง Notification ที่เป็น Quick Setting ได้ตามใจชอบ
- Suspend button นี่คล้ายๆกับปุ่มวิญญาณใน iOS แต่มีลูกเล่น mini apps ด้วย
- Motion control สามารถสั่งการได้ด้วยการเคลื่อนไหวตัวโทรศัพท์ไม่จำเป็นต้องแตะจอ
- Gloves mode สามารถใช้ถุงมือในการทัขสกรีนจอได้
แอพที่ใช้แบตเตอรี่มากเกินควร ก็จะมีการแจ้งเตือนแล้วให้เราเลือกว่าจะปิดมันทิ้งไปเลยดีมั้ย หรือจะปล่อยให้รันต่อไป แถมยังดูทีละแอพได้เลยว่า แต่ละแอพใช้งานแบตเตอรี่ไปมากน้อยแค่ไหน เป็นฟีเจอร์ในการดูแลการใช้งานแบตเตอรี่ที่น่าสนใจทีเดียว
การแจ้งเตือนต่างๆบน Notification ก็ยังให้เลือกว่าการแจ้งเตือนของแอพนี้สมควรจะขึ้นมาบน Notification หรือไม่ ฟีเจอร์นี้คงช่วยแก้ปัญหา Notification ไร้ประโยชน์หรือโฆษณาได้ดีทีเดียว
Ultra Power Saving Mode จะเตือนให้เราเปิด เมื่อเราใช้งานแบตเตอรี่จนเหลือต่ำกว่า 8% โหมดนี้จะช่วยปิดการทำงานทุกอย่างหลือไว้แค่ โทรเข้าโทรออกรับสาย และส่งข้อความ (จอไม่เป็นขาว-ดำนะ เน็ตก็เล่นไม่ได้ด้วย) จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ในการใช้งานได้เพิ่มขึ้นประมาณครึ่งชม.
ในส่วนของ Gallery จะแยกเป็น Folder ชัดเจน แล้วมีเครื่องมือในการศัลยกรรมหน้าครบถ้วนไม่ต้องผ่านมีดหมอ
การใช้งานโดนรวมลื่นติดมือดี แต่ในบางครั้งมีอาการหน่วงๆให้เห็นเป็นระยะ การขอ Permission และ Security ต่างๆเยอะเกินไปหน่อย จนบางแอพไม่สามารถแสดงได้ครบ (เช่น Facebook Messenger)
[divider]
Benchmark
Antutu Benckmark ได้คะแนนไป 24617 คะแนน
3D Mark Ice Storm Unlimited ได้คะแนนไป 33736 คะแนน
Vellamo โหมด Multicore ได้ 1259 คะแนน ส่วนโหมด Metal ได้ 894 คะแนน
จุดด้อยสุดของ Ascend P7 คือ Browser ที่แย่มากในการใช้งานจริง และผลเทสที่ออกมาก็แค่ 960 คะแนน
[divider]
ข้อดี
1. ตัวเครื่อวบาง เบา
2. จอสวย คม สู้แดดดี
3. กล้องหน้าและกล้องหลังคุณภาพดีมากๆ
4. ดีไซน์ตัวเครื่องได้งดงาม
5. รองรับ LTE
ข้อเสีย
1. FW มีอาการหน่วงอยู่บ่อยๆ
2. เรียกขอ Permission มากเกินไป
3. แบตเตอรี่ให้มาน้อยไปหน่อย ชีวิตไม่ยืนยาว
4. การถ่ายพาโนราม่ากล้องหน้าใช้งานไม่ได้ดีเท่าที่ควร…กล้องหลังก็เช่นกัน
สรุป
เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจับตามอง หลังจากที่เข้ามาตีตลาดในไทยการพัฒนาต่างๆก็ดีขึ้นเรื่อยๆในแต่ละรุ่น ที่เด็ดที่สุดคือราคาที่ไม่แพงจนเกินไป สำหรับตัว Ascend P7 นี้สำหรับคนชอบถ่ายรูปคงถูกใจไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้าหรือกล้องหลัง (ยกเว้นโหมดพาโนราม่า 5555) ตัวเครื่องดีไซน์หรู เป็นกระจกทั้งสองด้าน ซึ่งถ้าตกก็แตกทั้งสองด้านเหมือนกัน จอสวย ตัว Software ยังมีปัญหาเล็กน้อย บางทียังหน่วงๆ แต่ลูกเล่นเยอะดี ไม่มีเบื่อ เอาเป็นว่า ใครชอบถ่ายรูป ไม่ชอบมือถือหนาๆกล้องนูนๆ จอไม่ใหญ่มาก ตัวเครื่องขนาดกำลังดี เด็ดสุดคือราคาที่กำลังดีน่าจะทำให้กระเป๋าสั่นได้เลย