สำหรับลำโพงไร้สายในปัจจุบันอาจมีตัวเลือกดี ๆ ให้ไม่มากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับงบประมาณที่จำกัดด้วย และในวันนี้เราจะมารีวิว Rapoo อุปกรณ์ไร้สายราคาย่อมเยาว์ (แต่ฝังแน่นไปด้วยคุณภาพ) อีกตัวหนึ่งกันครับ
Rapoo A500 เปิดตัวที่ราคา 2,790 บาท สามารถหาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์ไอทีชั้นนำทั่วไปหรือสั่งออนไลน์ได้ที่ tohome
สำหรับแบรนด์ Rapoo หลายคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการอาจจะไม่รู้จัก แต่แท้จริงแล้วเคยผลิต OEM ให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่มากมาย แต่พักหลังนี้ก็เริ่มหันมาทำตลาดด้วยตัวเองแล้วครับ แต่อย่าได้ดูถูกไปเชียวเพราะ Rapoo เป็นผู้พัฒนาอุปกรณ์ไร้สายความถี่ย่าน 5Ghz เป็นแบรนด์แรกอีกด้วย
ระวังของปลอม!
เพื่อความปลอดภัยอย่าลืมสังเกตสติกเกอร์ที่อยู่ข้างกล่องนะครับ ถ้าหากมีสติกเกอร์แบบนี้รับรองได้ว่าของแท้แน่นอน สามารถขูดเอารหัสเพื่อไปเช็คในเว็บไซต์และตรวจสอบได้ครับ
กล่องค่อนข้างที่จะหรูหราและมีราคา เหมาะอย่างยิ่งที่จะซื้อเป็นของฝากหรือของขวัญครับ Rapoo ทำออกมาได้ดีจริง ๆ ถ้าหากเป็นแบรนด์อื่นก็คงเป็นแค่กล่องกระดาษธรรมดา ส่วนจุดเด่นของ Rapoo A500 ก็จะเป็น
- เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 4.0 รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันถึง 2 อุปกรณ์
- รองรับ NFC ในการช่วย Pair Bluetooth
- มีไมโครโฟนในตัวสามารถใช้สนทนาได้
- รองรับแจ็ค 3.5 มม.
- มีปุ่มปรับระดับเสียงและรับสายในตัว
- ชาร์จไฟผ่านพอร์ต Micro USB
- แบตเตอรี่ 900 mAh ใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 10 ชั่วโมง
จัดเต็มกันเลยทีเดียวสำหรับสเปคของลำโพงไร้สายรุ่นนี้เมื่อเทียบกับ รีวิว – MiPow The Boom & Boom mini “ลำโพง Bluetooth สไตล์ Retro” ถือว่าสเปคค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับราคาที่อยู่ในระดับเดียวกัน (ตัวนี้เสียงเป็น Stereo ด้วย)
อุปกรณ์ในกล่องประกอบด้วย
- ลำโพง Rapoo A500
- สาย Micro USB
- สายแจ็ค 3.5 มม.
- คู่มือผลิตภัณฑ์
ลำโพงเป็นลักษณะวงรีหน้าตาดีมาก มีสีสันให้เลือกถึง 5 สี (ดำ, เทา, ฟ้า, เขียว และล่าสุดทองเป็นสีพิเศษต้อนรับ iPhone 5s ครับ) ภายในเป็นลำโพงอีกสองตัวให้เสียงแบบ Stereo ครับ (ในตลาดมีหลายรุ่นมากที่เป็น Mono ต้องสังเกตหน่อยบางทีสเปคไม่ได้บอกไว้)
ด้านบนมีปุ่มปรับเสียงและตรงกลางเป็นปุ่ม Bluetooth (รายละเอียดดูได้ในคู่มือ) ตัวนี้มีไมค์รับเสียงอยู่ด้านบนครับ รวมถึงตำแหน่ง NFC ก็อยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะ ส่วนขอบอลูมิเนียมด้านข้างก็ตัดเหลี่ยมได้อย่างสวยงามครับ
น้ำหนักของ Rapoo A500 อยู่ในเกณฑ์ที่เบามาก ๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะแบตเตอรี่ขนาด 900 mAh (อย่าเอาไปเทียบกับมือถือนะครับ การใช้พลังงานไม่เหมือนกัน) ส่วนด้านหลังก็จะเป็นปุ่ม on/off รวมถึงพอร์ต Micro USB แล้วก็แจ็ค 3.5 มม. ตามลำดับครับ
ด้านล่างจะเป็นฐานที่กันลื่นอีกทีออกแบบมาได้สวยงามดีครับ
เครื่องที่ใช้ทดสอบเป็น I-mobile IQX Octo ที่มี NFC ในตัวทันทีที่แตะกับ Rapoo A500 ก็จะขึ้นให้ Pair Bluetooth ทันทีไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่อง Rapoo A500 ก่อน
Rapoo A500 ใช้เทคโนโลยี Bluetooth 4.0 ซึ่งถ้าหากอุปกรณ์ของเราเป็น Bluetooth 4.0 ด้วยเหมือนกันก็จะช่วยเรื่องประหยัดพลังงานได้มาก (ส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์ระดับ TOP รวมถึง iPhone และอนาคตก็จะมีปริมาณมากขึ้นครับ) แต่ถ้าหากอุปกรณ์คุณเป็น Bluetooth รุ่นเก่าก็ไม่เป็นไรครับ สามารถใช้ร่วมกันได้อย่างปกติ
ด้านในมีไฟแสดงสถานะซ่อนไว้ครับ ดูดีมีระดับมากเลยทีเดียว
พอร์ต Micro USB ไม่ได้มีไว้โอนถ่ายไฟแต่มีไฟสำหรับชาร์จไฟด้วยพอร์ตมาตรฐานตามสมัยนิยม สามารถใช้ชาร์จกับ Adapter ที่แถมมากับมือถือได้เลย หรือหากใครจะใช้กับ Power Bank ก็ไม่มีปัญหาครับ ส่วนด้านขวาถัดมาเป็นพอร์ตแจ็ค 3.5 มม. สามารถใช้กับเครื่องเล่น MP3 รวมถึงอุปกรณ์เล่นเสียงทุกชนิด จะเป็น Notebook รุ่นเก่าที่ไม่มี Bluetooth ก็สามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างคุ้มค่า
ขณะชาร์จไฟจะขึ้นดวงไฟสีม่วงแสดงสถานะครับ
ทดสอบ Pair พร้อมกันถึง 2 อุปกรณ์ด้วยกันและโทรให้สนทนาผ่าน Rapoo A500 ไปด้วยก็สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี หลักการก็คือใช้อุปกรณ์ใดเปิดเพลงก็ได้ หากเป็นมือถือทั้งคู่เมื่อมีสายเข้ามาก็สามารถรับสายได้เลยไม่ว่าจะเป็นเครื่องไหน ช่วยให้เราสามารถใช้งานได้สะดวกมากครับ
ซูมกันให้ดูชัด ๆ เลยว่าตอนนี้กำลังเชื่อมต่อพร้อมกัน 2 เครื่องอยู่ ถึงแม้ว่าจะต่างระบบปฏิบัติการกันก็ไม่ใช่ปัญหา สามารถเลือกเปิดเพลงจากเครื่องใดเครื่องหนึ่งได้เลยไม่ต้องมานั่งคอย Pair ใหม่
http://youtu.be/WDQUeh-MnZo
เสียงที่ได้จาก Rapoo A500 เมื่อเทียบกับลำโพงมือถือทั่วไปนั้นเจ๋งกว่าแบบไม่มีข้อสงสัยแน่นอน (ขนาดมันต่างกันเยอะ) ส่วนเสียงแนวที่ได้ออกแนวหนักแน่นและกังวาล ช่วงเบสค่อนข้างต่ำแต่ก็พอมีอยู่บ้างแต่ไม่ถึงกับเป็นลูก ๆ แต่อย่างใด ออกแนวฟังสบาย ๆ และค่อนข้างที่จะเป็นสากลมากกว่าคือไม่ได้เด่นไปด้านใดด้านนึงเป็นพิเศษ (ภาษาพุทธเราเรียกเดินสายกลาง)
ข้อดี
- เทคโนโลยีล่าสุด Bluetooth 4.0
- รองรับ NFC และแจ็ค 3.5 มม.
- มีไมค์ในตัวสามารถใช้สนทนาได้เลย
- รองรับการใช้งานกับ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน
- ชาร์จไฟผ่านพอร์ต Micro USB สะดวก
ข้อเสีย
- ราคาสูงกว่าลำโพง Bluetooth รุ่นธรรมดาทั่วไป
- ไม่สามารถเล่นเพลงได้ด้วยตัวเอง (ไม่มีหน่วยความจำในตัว)
- ไม่มี Adapter ชาร์จไฟแถมมาให้
สรุป
หากเทียบกับลำโพง Bluetooth ธรรมดา ๆ ในตลาดทั่วไปถือว่า “แพง” แต่หากเทียบสเปคนี้กับแบรนด์อื่น ๆ จะถือว่า “ถูก” เพราะมีทั้งไมค์ในตัวและเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Bluetooth 4.0 ส่วนการออกแบบอื่น ๆ ก็ทำออกมาได้อย่างลงตัว สุดท้ายต้องลองถามใจตัวเองแล้วแหล่ะว่า “ต้องการลำโพงสเปคดี ๆ หรือว่าลำโพงอะไรก็ได้ขอแค่มีเสียงออก”