ลำโพง Bluetooth ในปัจจุบันในตลาดบอกได้เลยว่ามีไม่ค่อยมาก เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่มีต้นทุนค่อนข้างสูง (แบตเตอรี่, Bluetooth) และขายค่อนข้างยาก (ไม่เหมือนพวก Power Bank) แต่จะดีแค่ไหนถ้าหากลำโพง Bluetooth ของคุณนอกจากจะเสียงดีแล้ว ยังสามารถรับสายได้ด้วย? วันนี้เราจะมารีวิวกันครับกับ MiPow : The Boom & Boom mini

Review-The-Boom-Boom-Mini (1)

MiPow : The Boom & Boom mini สามารถหาซื้อได้ตาม Power Buy, iStudio, Jaymart, และร้านโทรศัพท์มือถือชั้นนำทั่วไป สำหรับราคา The Boom จะอยู่ที่ 4,490 บาท และ Boom mini จะอยู่ที่ 2,490 บาท หรือดูได้ ที่นี่

Review-The-Boom-Boom-Mini (2)

MiPow : The Boom & Boom mini สามารถใช้ได้กับทั้ง Smart Phone, Tablet, iDevice (แนะนำ), Notebook, MP3 (เฉพาะรุ่น The Boom)

Review-The-Boom-Boom-Mini (3)

แกะกล่องออกมาก็เรียบ ๆ ครับ มีอุปกรณ์แล้วก็คู่มือ

Review-The-Boom-Boom-Mini (4)

ของแถมระหว่าง Boom mini และ The Boom จะไม่เหมือนกันครับ แต่น่าแปลกที่ The Boom แถมสายสีแดง (ไม่เข้ากันเอาซะเลย) ส่วน Boom mini จะไม่แถมแจ็ค 3.5 มม. ให้ครับ เนื่องจากมันรองรับ Bluetooth อย่างเดียว

Review-The-Boom-Boom-Mini (5)

Boom mini และ The Boom ทั้งคู่ผลิตมาจาก Anodized Aluminum ที่ป้องกันสนิมและรอยนิ้วมือครับ การออกแบบได้แรงบันดาลใจมาจากวิทยุ Transistor ในสมัยก่อนผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ดูยังไงก็ไม่มีเชย

Review-The-Boom-Boom-Mini (6)

ความแตกต่างระหว่าง Boom mini และ The Boom

ทั้งสองอุปกรณ์เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.0 ทั้งคู่ และต่อไปนี้คือความแตกต่างระหว่า Boom mini และ The Boom ครับ

  1. แบตเตอรี่ : 650 mAh/1600 mAh
  2. ขนาด : 55.6 x 73 x 55.6 มม./106 x 50 x 92 มม.
  3. น้ำหนัก : 180 กรัม/370 กรัม
  4. ลำโพง : 3W x 1/3W x 2
  5. สนทนาต่อเนื่อง : 12 ชั่วโมง/23 ชั่วโมง
  6. เล่นเพลงต่อเนื่อง : 9 ชั่วโมง/16 ชั่วโมง
  7. สแตนบายต่อเนื่อง : 45 วัน/95 วัน

สำหรับความแตกต่างอีกนิดนึงก็คือ The Boom สามารถเล่นเพลงผ่านแจ็ค 3.5 มม. ได้โดยตรงครับ ซึ่ง Boom mini ทำไม่ได้

Review-The-Boom-Boom-Mini (7)

อย่างที่ทราบกันจากสเปคว่า Boom mini จะเป็นลำโพงระบบ Mono เนื่องจากมีลำโพงแค่ดอกเดียว ส่วน The Boom จะเป็นสเตอริโอครับ

Review-The-Boom-Boom-Mini (9)

สีมีให้เลือก 4 สีเหมือนกันครับ คือ แดง, ฟ้า, ดำ, เทา

Review-The-Boom-Boom-Mini (10)

มุมด้านข้างจำนวนพอร์ทการเชื่อมต่อจะไม่เท่ากันครับ The Boom จะมีช่องเสียบแจ็ค 3.5 มม. เข้ามา

Review-The-Boom-Boom-Mini (11)

ด้านล่างจะเป็นบางสำหรับกันลื่นครับ

Review-The-Boom-Boom-Mini (12)

สำหรับใครที่ว่ามันเกะกะอยากบอกว่า The Boom สามารถแกะที่จับออกได้ด้วยนะ

Review-The-Boom-Boom-Mini (13)

อีกภาพเพื่อความกระจ่าง

Review-The-Boom-Boom-Mini (14)

ระบบเสียง

อันนี้ไม่แน่ใจว่ารวม Boom mini ด้วยรึเปล่า (แต่เข้าใจว่าเหมือนกันทั้ง 2 ตัว) built-in Subwoofer มาและรองรับการปรับ Equalizer คือ Rock, Classic, Hip Hop (วิธีปรับกด +, – หรือดูในคู่มือ)

Review-The-Boom-Boom-Mini (15)

ทั้งสองตัวมีไฟ LED แสดงสถานะเครื่องด้วยครับ ส่วนของ The Boom จะซ่อนอยู่ด้านในตะแกรง

Review-The-Boom-Boom-Mini (16)

ชุดคำสั่งทั้งหมดที่อยู่ใน MiPow The Boom และ Boom mini

Review-The-Boom-Boom-Mini (17)

ทดสอบ The Boom และ Boom mini

ใช้งานก็กดปุ่มรูปโทรศัพท์ค้างไว้ซัก 3 วินาทีครับ เครื่องก็จะเปิดพร้อมเสียง (ดังมาก) ถ้าหากต้องการจะ Pair ก็กดค้างไว้ซัก 7 วินาที มันจะขึ้นเสียงเตือนมา จากนั้นก็ค้นหาผ่าน Bluetooth ได้เลย

Review-The-Boom-Boom-Mini (18)

เชื่อมต่อเรียบร้อยแล้วครับ (หน้าจอสกปรกจัง)

Review-The-Boom-Boom-Mini (19)

สำหรับเครื่องนี้ที่ใช้ทดสอบเป็น Android นะครับ รุ่น I-mobile IQX สำหรับสาวก iDevice ก็ไม่ต้องเสียงใจไปนะครับ เพราะใช้ได้เหมือนกันและใช้ดีกว่าด้วย!

Review-The-Boom-Boom-Mini (20)

เหนือกว่าตรงที่รับสายได้!

Boom mini และ The Boomเหนือกว่าลำโพงบลูทูธ (Bluetooth Speaker) ทั่ว ๆ ไปตรงที่ “มันสามารถรับสายได้” หรือก็คือมันมีไมค์ในตัวนั่นเอง เมื่อมีสายเข้ามาเราสามารถสนทนาผ่าน Boom mini และ The Boom ได้เลยครับ

Review-The-Boom-Boom-Mini (21)

MiPow : The Boom & Boom mini กับ Apple Authorized

อีกหนึ่งข้อดีของ Boom mini และ The Boom คือว่ามันได้ Apple Authorized เรียบร้อยแล้ว (ต้องเสียเงินให้กับ Apple) ซึ่งนั่นหมายความว่า Boom mini และ The Boom ได้ผ่านการทดสอบจาก Apple และทดสอบ (อย่างละเอียด) แล้วว่าสามารถใช้งานกับ iDevice ได้อย่างไม่มีปัญหา

และเมื่อเชื่อมต่อกับ iDevice จะมีสัญลักษณ์รูปแบตเตอรี่แสดงให้ด้วยว่า Boom mini และ The Boom เหลือแบตเตอรี่เท่าไหร่แล้ว (ยี่ห้ออื่นไม่มีนะ) ซึ่งมันสะดวกและเจ๋งมาก ๆ เลยครับ ใช้ได้ทั้งกับ iPhone, iPod, iPad

Review-The-Boom-Boom-Mini (22)

ตอนนี้กำลังทดสอบ The Boom บน iPad 2 โดยเล่นผ่าน YouTube มันจะขึ้นฟีเจอร์ AirPlay ให้เลยว่าจะเปิดเสียงผ่าน iPad 2 หรือ The Boom (ตอนนี้ผมต่อ Bluetooth กับทั้ง The Boom และก็ Keyboard ใช้งานพร้อมกันได้)

Review-The-Boom-Boom-Mini (23)

อย่างที่ทราบกันดีกว่า Boom mini และ The Boom สามารถต่อ Bluetooth กับอุปกรณ์ใด ๆ ก็ได้ไม่เว้นแม้กระทั่ง Notebook แต่พิเศษสำหรับ The Boom หากเราไม่อยากใช้ Bluetooth ก็ยังมีแจ็ค 3.5 มม. ให้ซึ่งจะใช้ต่อกับ MP3 หรือเครื่องใด ๆ ก็ได้ไม่มีปัญหา

เมื่อเปรียบเทียบพลังเสียงของ The Boom กับ iPad 2 จะพบว่าพลังเสียงมันแตกต่างกันมาก (ดังกว่า, เบสแน่น, คมกว่า) และเท่านั้นยังไม่พอ มันสามารถเชื่อมต่อใช้งานพร้อมกันได้ถึง 2 เครื่องเลยทีเดียว

ข้อดี

  1. พลังเสียงดีกว่าลำโพงเดิม ๆ ทุกตัว (เหนือกว่า Notebook อีก)
  2. ใช้ Bluetooth 4.0 สามารถเปิดทิ้งไว้ได้โดยไม่เปลืองพลังงาน (อยู่ได้หลายเดือน)
  3. วัสดุดีทำมาจาก Anodized Aluminum

ข้อเสีย

  1. ราคาค่อนข้างสูง
  2. ปุ่มควบคุมใช้งานยาก (ถ้าจำคำสั่งไม่ได้)

[message_box title=”สรุป” color=”red”]ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนมีฐานะครับ ราคาแพงแลกกับเทคโนโลยี Bluetooth 4.0 วัสดุดี ๆ ที่ไม่ใช่พลาสติก เสียงที่ดีสุดยอด ไม่ต้องหงุดหงิดคอยชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆ และที่สำคัญมันก็รับสายสนทนาได้ด้วย ถ้าคุณใช้ทั้งหมดที่ว่ามาก็คุ้มนะครับ ผมค่อนข้างมั่นใจเลยว่าหาสเปคตอบโจทย์แบบนี้ในตลาดไม่ได้อีกแล้ว แต่ถ้าคุณใช้งานแบบลำโพงบ้าน ๆ ดูเหมือนจะมีตัวเลือกอื่นที่ถูกกว่าเยอะ (มาก) ครับ[/message_box]