ในราคาไม่เกิน 8,000 บาท vivo Y33T เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ที่มาพร้อมกับหน้าจอ 90Hz โดยมาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 680 ใช้งานกันได้แบบลื่นไหล นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับกล้องหลัง 50 MP เหมาะกับคนที่อยากได้สมาร์ตโฟนใช้งานทั่วไป แต่ก็อยากให้มันดีกว่าใช้งานทั่วไป เช่น ดูหนังเล่นเกมลื่น, กล้องชัดถ่ายรูปไม่อายใคร, และมีแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างอึดหน่อย

vivo Y33T

ราคาเปิดตัว vivo Y33T อยู่ที่ 7,999 บาท มาพร้อมกับสโลแกน “เร็ว แรง เต็มประสิทธิภาพ ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม” จุดเด่นหลักเลยก็คือชิปเซ็ต Snapdragon 680 ที่ไม่เห็นได้บ่อยนักในสมาร์ตโฟนราคาไม่ถึงหมื่น นอกจากความเสถียรตัวนี้ยังมีจุดเด่นในเรื่องของประหยัดพลังงาน สามารถใช้งานได้ยาวนานทั้งวันรวมถึงการเล่นเกมที่ดี รองรับการแสดงผลบนหน้าจอ 90Hz

สเปกและคุณสมบัติ

  • ระบบปฏิบัติการ Android 11 (ครอบทับด้วย Funtouch OS 12)
  • หน้าจอ LCD ขนาด 6.58″ ความละเอียด Full HD+ ความถี่ 90Hz
  • หน่วยประมวลผล Snapdragon 680
  • แรม 8 GB
  • รอม 128 GB (รองรับ microSD)
  • กล้องหลังแบบ 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช LED
    • กล้องหลัก 50 MP (F/1.8)
    • กล้องมาโคร 2 MP (F/2.4)
    • กล้องโบเก้ 2 MP (F/2.4)
  • กล้องหน้า 16 MP (F/2.0)
  • รองรับสองซิม 5G
  • รองรับ Bluetooth 5.0, Wi-Fi 5 GHz
  • แบตเตอรี่ 5,000 mAh (รองรับชาร์จเร็ว 18W Fast Charge)
  • ขนาด 164.26 × 76.08 × 8 มม.
  • น้ำหนัก 182 กรัม

การออกแบบ

เนื่องจากรุ่นนี้อยู่ในกลุ่มสมาร์ตโฟนราคาประหยัด ดังนั้นดีไซน์จึงไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมากมายนัก โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี (Starry Gold และ Mirror Black) แต่ก็ไม่ถึงกับมีลูกเล่นเลยสำหรับสี Starry Gold จะเป็นดีไซน์คล้ายฝนดาวตก แต่ถ้าหากใครชอบแบบเรียบง่ายก็อาจเลือกเป็น Mirror Black ตัวที่เรากำลังรีวิวอยู่นี้ก็ได้ครับ ฝาจะออกแนวเงาสะท้อนนิดหน่อย

  • Starry Gold: พื้นผิวกลิตเตอร์ฟลูออไรท์ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ร่วมกับเทคโนโลยีการเคลือบสีไล่ระดับแบบนาโน ให้พื้นผิวเป็นประกายสีทองแวววาว สัมผัสละเอียดอ่อนไร้กังวลเรื่องรอยนิ้วมือ ประกายระยิบระยับราวกับฝนดาวตกสีทองที่น่าดึงดูดใจ
  • Mirror Black: กระบวนการเคลือบสีสองชั้นที่พัฒนาใหม่ผสมผสานเฉดสีดำอันหรูหราเหมือนกระจกสีดำที่มีแสงและเงามันวาว

เกือบลืมบอกไปว่าฟิล์มกันรอยติดมาให้พร้อมจากโรงงาน นอกจากนี้ยังมีเคส TPU แบบใสแถมมาให้ด้วย พร้อมกับหัวชาร์จแบตเตอรี่แบบ Type-A > Type-C แล้วก็อะแดปเตอร์ 18W ชาร์จเร็วตามสเปกของตัวเครื่อง ส่วนหูฟังที่ว่าแบรนด์ไหนต่างก็ไม่แถม (ประหยัดงบ) แต่ทางวีโว่ก็ยังจัดมาให้ 3.5 มม. เสียบเข้ากับตัวเครื่องได้เลยโดยไม่ต้องผ่านอะแดปเตอร์แปลงหูฟัง

สำหรับผู้หญิงคงไม่อยากได้สมาร์ตโฟนที่มันเทอะทะ และสำหรับ vivo Y33T ก็ไม่ทำให้ผิดหวังแม้ว่าจะมีแบตเตอรี่ 5,000 mAh แต่ก็มีความบางเพียงแค่ 8 มม. (ไม่รวมกล้อง) และน้ำหนักอยู่เพียงแค่ 182 กรัม สามารถพกพาเก็บใส่กระเป๋าถือ หรือแม้กระทั่งกระเป๋ากางเกงได้อย่างไม่ต้องกลัวว่ามันจะหนาเทอะทะ แต่ทั้งนี้จอก็ไม่ได้เล็กตามความบางเพราะได้ถึง 6.58″ จอใหญ่แต่ไม่หนา

หน้าจอ

หน้าจอมาพร้อมกับขนาด 6.58″ เล่นเกมหรือดูหนังได้แบบจุใจกับความละเอียด FHD+ สัดส่วนหน้าจออยู่ที่ 90.6% สามารถแสดงผลได้อย่างเกือบเต็มหน้าจอ รองรับการแสดงผล Refresh Rate 90Hz หรือภาษาเล่นเกมที่เขาเรียกว่า “สบายตา” แต่สำหรับคนใช้งานทั่วไป อันนี้ก็สัมผัสได้ว่าเวลาใช้งานมันจะสมูทมากกว่าหน้าจอปกติทั่วไป

ประสิทธิภาพ

หน่วยประมวลผลชิปเซ็ต Snapdragon 680 มาพร้อมกับ RAM 8 GB + 4 GB Extended RAM โดยใช้หน่วยความจำ ROM ที่เป็น UFS 2.1 ทำให้ได้คะแนน AnTuTu อยู่ที่ 276,587 คะแนน มีระบบ Ultra Game Mode ช่วยให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล รวมถึงเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมไม่ว่าจะเป็น

  • ระบบสั่น 4D
  • การแสดงภาพซ้อนภาพของเกม
  • โหมดห้ามรบกวน
  • โหมด E-Sport

บวกกับการแสดงผล Ultra Clear Display ที่ให้ขอบเขตสี NTSC ครอบคลุมถึง 96% และการแสดงผล Refresh Rate 90Hz ช่วยเพิ่มประสบการณ์เล่นเกมได้เป็นอย่างดี นอกเหนือไปจากประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่ลื่นไหล โดยหากเป็นเกมยอดฮิตในตลาดยังไงก็สามารถเล่นได้แบบไม่มีสะดุด อันนี้วางใจได้เลย

และด้วยความที่อยู่ในรุ่นราคาประหยัด จึงไม่มีสแกนลายนิ้วมือเหมือนกับตระกูล V Series แต่สำหรับรุ่นนี้จะเป็นการสแกนลายนิ้วมือด้านข้างแทน เวลาใช้งานจริงก็ไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ (ขึ้นอยู่กับความถนัดคนมากกว่า) ความเร็วที่ได้อยู่ในระดับเสี้ยววินาที แต่ถ้าหากใครไม่ชอบก็ยังมีสแกนใบหน้าแบบ 2D หรือ Face Wake ให้ใช้งาน

กล้องหลัง

ตามสไตล์ของวีโว่กล้องนั้นต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ก็จัดเต็มมาพร้อมกับลูกเล่นตามแบบฉบับของ Funtouch OS 12 มีให้เลือกปรับแต่งได้หลากหลาย สามารถถ่ายรูปได้ง่ายโดยจบเพียงแค่ในกล้องถ่ายภาพ ถ่ายเสร็จหน้าสดก็สามารถเอาไปโพสต์ลง Social Network ได้เลยไม่จำเป็นต้องเอามาปรับแต่งอะไรต่อให้วุ่นวาย

กล้องหลังความละเอียด 50 MP ส่วนอีกสองกล้องเป็นระยะมาโคร (Macro) และวัดความลึก (Depth) ดังนั้นรุ่นนี้จะไม่มีระยะกว้างหรือระยะซูม แต่สำหรับคนที่ใช้ระยะถ่ายรูปปกติ กล้องที่ให้มาก็ค่อนข้างที่จะเหลือเฟือแล้ว มีการใช้หน่วยประมวลผลภาพแบบ ISOCELL JN1 แบบเดียวกับ vivo Y33s ที่เป็นรุ่นญาติพี่น้องของมัน

ภาพถ่ายกลางคืน (Night Mode) นี่ถือว่าเอาอยู่มาก มาพร้อมกับการปรับแต่งของวีโว่และมีการใช้ AI ช่วยประมวลผลอีกที มีการลดนอยส์ระดับโดเมน RAW ซึ่งสามารถรวบรวมรูปหลายเฟรมเป็นรูปเดียวเพื่อให้ได้ภาพที่มีความคมชัดสูง และหากเปิด Super HDR จะช่วยปรับรายละเอียดให้คมชัดในส่วนเงามืด เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบทุกรายละเอียด

กล้องหน้า

ถึงแม้ว่ากล้องหน้าจะมีความละเอียด 16 MP น้อยกว่ากล้องหลัง แต่ก็มาพร้อมกับการเซลฟี่อันเป็นเอกลักษณ์ มั่นใจได้ถึงความสดใสตลอดวัน ด้วยอัลกอริธึมภาพบุคคลเฉพาะของวีโว่ สามารถถ่ายภาพบุคคล (Multi-Style Portrait) โหมดถ่ายภาพบุคคลที่มีให้เลือกหลากหลายสไตล์เพื่อให้เหมาะสมกับสไตล์ของคุณ เพิ่มโหมด Face Beauty และ Bokeh เพื่อความงดงามและดูเป็นธรรมชาติ

ข้อดี

  1. RAM 8 GB + 4 GB Extended RAM
  2. หน่วยประมวลผล Snapdragon 680
  3. กล้องหลัก 50 MP
  4. หน้าจอ 90Hz

ข้อเสีย

  1. ไม่มีเลนส์มุมกว้างและซูม

สรุป

ราคาเพียงแค่ 7,999 บาท ถือว่าคุ้มค่าตัวกับ vivo Y33T ออกแบบมาเพื่อใช้งานทั่วไป เน้นเกมบ้างเล็กน้อยกับถ่ายภาพ และด้วยหน้าจอที่สเปกสูงกว่าจอทั่วไป ทำให้ผู้ใช้งานสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่าง หน่วยประมวลผล Snapdragon 680 ถือว่าทำออกมาได้ดีในเรื่องความเสถียร และการประหยัดแบตเตอรี่ทำให้ใช้งานได้ยาวตลอดทั้งวัน

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial