มาถึงหน้าร้อนทีไรของที่ขาดไม่ได้ก็คือ พัดลม และแม้จะมีแอร์อยู่แล้วก็ตาม แต่จะให้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ก็คงจะสู้ค่าไฟไม่ไหว เมืองไทยเป็นสมภูมิสุดโหดสำหรับตลาดพัดลม ยี่ห้อไหนที่ไม่เย็นจริง ไม่ทนจริง รับรองอยู่ไม่ได้แน่นอน แต่สำหรับคนที่กำลังมองหาซื้อพัดลมใหม่ วันนี้เรารวบรวมสารพัดยี่ห้อเอามาจัด 10 อันดับพัดลมน่าซื้อ อัปเดต 2021 ถ้าพร้อมแล้วเราลองไปดูทีละรุ่นกันได้เลยครับ
10 อันดับพัดลมน่าซื้อในปี 2021
- Sharp พัดลมตั้งพื้น 16 นิ้ว รุ่น PJ-SL163
- Xiaomi พัดลมตั้งพื้น รุ่น Mijia 1X DC
- Mitsubishi พัดลมตั้งพื้น 12 นิ้ว รุ่น R12A-DW
- Mitsubishi พัดลมสไลด์ 18 นิ้ว รุ่น R18-GZ
- Tefal พัดลมทาวเวอร์ รุ่น VF6670
- Hatari พัดลมตั้งพื้น 18 นิ้ว รุ่น Slide Smart L1
- Hatari พัดลมตั้งพื้น 16 นิ้ว รุ่น HB-S16M4
- OGAWA พัดลมตั้งพื้นสไลด์ 16 นิ้ว รุ่น OA-2696
- FAMILY พัดลมสไลด์ก้านเหล็ก 16 นิ้ว รุ่น FM-S16B
- MITSUMARU พัดลมตั้งพื้น 16 นิ้ว รุ่น AP-SF
1. Sharp พัดลมตั้งพื้น 16 นิ้ว รุ่น PJ-SL163
พัดลมแบรนด์คุณภาพจากประเทศญี่ปุ่น มีการใช้เทคโนโลยี Wide Wind เพิ่มองศาใบพัดให้ลมแรง และถึงแม้ว่าจะมีขนาดใบ 16 นิ้ว แต่ก็สามารถกระจายลมเป็นวงกว้างได้มากกว่า (ข้อดีของพัดลม 16 นิ้ว ที่เรายกให้เป็นที่หนึ่งเพราะมันเงียบด้วย) นอกจากนี้ Sharp (ชาร์ป) ยังได้ปรับการออกแบบตะแกรงทั้งหน้าและหลังให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น (มีความถี่เป็นพิเศษ) และยังมั่นใจได้มากขึ้นกับความปลอดภัย 3 ระบบ ได้แก่ ระบบตัดไฟอัตโนมัติ (Thermal Fuse), ตัดเมื่อกระแสไฟเกิน (Current Fuse), และพลาสติกไม่ลามไฟ (Flame Retardant) โดยพัดลมชาร์ปเป็นยี่ห้อเดียวที่กล้ารับประกันทุกชิ้นส่วนถึง 3 ปี
2. Xiaomi พัดลมตั้งพื้น รุ่น Mijia 1X DC
ดีไซน์มาเต็มสำหรับ Xiaomi (Mi) นาทีนี้ไม่มีใครเกิน แถมยังเปิดด้วยราคาแบบสมเหตุสมผล คุณสมบัติแบบจัดเต็มรองรับ Wi-Fi เชื่อมต่อแอปพลิเคชันผ่านมือถือ มีการออกแบบใบพัด 7 ใบเพื่อให้พลังลมสูง ลมที่พัดออกมาตรงและนุ่มนวลมีความนุ่มนวล จะมีข้อเสียเพียงเล็กน้อยก็คือแรงลมที่ค่อนข้าง “เบา” ไปหน่อย เหมาะสำหรับเปิดในห้องแอร์เสริมอีกที และอีกเรื่องที่สำคัญก็คือบริการหลังการขาย เนื่องจากพัดลมรุ่นนี้ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายในไทย เท่ากับว่าก็ไม่มีศูนย์บริการและอะไหล่เช่นกัน
3. Mitsubishi พัดลมตั้งพื้น 12 นิ้ว รุ่น R12A-DW
หากคุณชอบในเรื่องพัดลมของ Xiaomi แต่ติดตรงที่ไม่มีศูนย์บริการและตัวแทนจำหน่าย ทางออกก็คือไปเลือกซื้อพัดลม Mitsubishi ที่มีหน้าตาคล้ายกัน และมีความคงทนตามสไตล์แบรนด์ญี่ปุ่น แน่นอนว่าข้อเสียก็ยังคงมีให้ติบ้างนิดหน่อยในเรื่องของ “ความแรง” ที่ไม่อาจเทียบเท่าพัดลมหน้าตาบ้าน ๆ ที่เรานิยมใช้งานกัน ส่วนข้อดีนอกจากดีไซน์แล้วก็สามารถปรับได้ 4 ระดับ (Constant Spring) ให้ลมแบบไม่กระจายเน้นพุ่งเป็นเส้นตรง มีขนาดเล็กประหยัดพื้นที่สามารถเก็บแยกฐานได้
4. Mitsubishi พัดลมสไลด์ 18 นิ้ว รุ่น R18-GZ
Mitsubishi คือหนึ่งในแบรนด์ที่ถูกพูดถึงในอินเทอร์เน็ตเรื่องความทน และโมเดลนี้ก็ขายค่อนข้างดีเพราะได้แรงลมมหาศาล แลกกับเสียงรบกวนที่เพิ่มขึ้นอีกนิด (ไม่เหมาะกับห้องนอน) ส่วนเรื่องราคาจะสูงกว่าคู่แข่งเยอะพอสมควร พัดลมรุ่นนี้มีการใช้งานที่เรียบง่ายตามสไตล์พัดลมทั่วไป ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ ให้แรงสม่ำเสมอ กระจายได้กว้างทั่วถึงกว่า รูปโฉมสวยงาม อะไหล่หาซื้อง่าย ดีไซน์ทันสมัย มาพร้อมมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง และระบบป้องกันความปลอดภัยตามพื้นฐานที่ควรจะเป็น
5. Tefal พัดลมทาวเวอร์ รุ่น VF6670
ถ้าพัดลมตั้งพื้นทั่วไปยังไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ ลองเปลี่ยนมาใช้เป็นพัดลมทาวเวอร์จาก Tefal แบรนด์เครื่องครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลมแนวตั้งยกตัวอย่างเช่นการนั่งทำงานบนเก้าอี้ มีอุปกรณ์เสริมเป็นรีโมทมาให้เรียบร้อยดีพร้อมช่องจัดเก็บ และถึงแม้จะไม่ได้เป็นพัดลมอัจฉริยะเหมือนกับ Xiaomi แต่ก็สามารถตั้งการใช้งานได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาการใช้งาน การปรับความเร็วอัตโนมัติตามอุณหภูมิห้อง หรือจะเป็นการปิดเครื่องอัตโนมัติใน 12 ชั่วโมง
6. Hatari พัดลมตั้งพื้น 18 นิ้ว รุ่น Slide Smart L1
พัดลม Hatari (ฮาตาริ) ชื่อทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น แต่ความจริงแล้วเป็นแบรนด์ไทยนี่เอง ส่วนตัวผู้เขียนก็ได้ใช้งานมาหลายเครื่อง แรงลมกำลังดี วัสดุก็แข็งแรงใช้ได้ แต่เจอปัญหาดิจิทัลเสียหลายตัวเลยขอหักคะแนนเยอะหน่อย ข้อดีก็คือศูนย์บริการและอะไหล่หาซื้อได้ง่าย ส่วนคุณสมบัติก็จะเป็นเรื่องปรับแรงลมได้ 5 ระดับ, ปรับระดับความสูงได้ 6 ระดับ, มีโหมดจำลองลมธรรมชาติ แล้วก็สามารถสั่งการผ่านรีโมทหรือระบบสัมผัสที่บริเวณพัดลมได้ ให้ความรู้สึกไฮโซอยู่เล็กน้อย
7. Hatari พัดลมตั้งพื้น 16 นิ้ว รุ่น HB-S16M4
ถ้าหากตัดเรื่องดิจิทัลออกไปอยากได้พัดลมธรรมดาสักตัว Hatari รุ่นนี้ก็เป็นหนึ่งในรุ่นที่ขายดีมาก ๆ ในประเทศไทย เรียกได้ว่าไปที่ไหนหรือบ้านไหนก็มีโอกาสเจอรุ่นนี้สูงมาก มีสีให้เลือกทั้งหมด 10 สี น่าจะเป็นพัดลมแบรนด์เดียวที่ทำสีออกมาเยอะมาก (ในใจแอบคิดให้ทำลาย Limited Edition ออกมาให้มันรู้แล้วรู้รอด) สำหรับรุ่นนี้สามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับ ตามมาตรฐานของพัดลมธรรมดาทั่วไป แล้วก็สามารถปรับระดับความสูงได้ 5 ระดับ ได้มาตรฐานประหยัดไฟเบอร์ 5 จากการไฟฟ้า
8. OGAWA พัดลมตั้งพื้นสไลด์ 16 นิ้ว รุ่น OA-2696
พัดลมตั้งพื้นสไลด์ราคาถูก OGAWA ด้วยราคาเพียงแค่ไม่กี่ร้อยบาท ทำให้สามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างไม่ยากนัก ตัวพัดลมทำจากพลาสติก PP และ ABS มีความเงางาม คงทน ปรับระดับแรงลม ได้ 3 ระดับ มีปุ่มกดปรับระดับความสูง สามารถปรับระดับความสูงของตัวพัดลมได้ มอเตอร์แบบแบริ่งพิเศษที่ให้การหล่อลื่นอัตโนมัติ จึงไม่ต้องใส่น้ำมันหล่อลื่นใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังใช้งานปลอดภัยด้วยระบบ Thermal Fuse ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อมอเตอร์มีอุณหภูมิสูงผิดปกติ ถูกและดีมีอยู่จริง!
9. FAMILY พัดลมสไลด์ก้านเหล็ก 16 นิ้ว รุ่น FM-S16B
ชื่อนี้คุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก FAMILY สมัยก่อนเป็นเครื่องเล่น DVD ที่เป็นสินค้าสร้างชื่อ ตอนนี้มีการขายพัดลมก็ถือว่าเป็นการปรับตัวที่ดี จุดเด่นก็คือราคาไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ตัวพัดลมสามารถกระจายลมได้อย่างสม่ำเสมอ พร้อมเทอร์โมฟิวส์ตัดไฟเมื่อร้อน มีสวิตช์ควบคุมแรงลม สามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับ มาพร้อมกับแผงควบคุมดีไซน์ใหม่ล่าสุด ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายใช้งานมากขึ้น ทั้งยังสามารถปรับหมุนพัดลมได้รอบทิศทาง สามารถปรับองศาขึ้นลงได้อีกด้วย
10. MITSUMARU พัดลมตั้งพื้น 16 นิ้ว รุ่น AP-SF
แบรนด์สุดท้ายแล้วกับ MITSUMARU ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวกับ Mitsubishi แต่อย่างใด และถึงจะชื่อคล้ายกันแต่มีราคาที่ต่างกันเยอะมาก แต่ถึงจะราคาถูกกว่าแต่คุณภาพก็อยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้เลย สำหรับพัดลมรุ่นนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ตัวฐานและบริเวณลำคอแข็งแรงดีมาก สามารถปรับความสูงได้ 110 – 130 เซนติเมตร มาพร้อมปุ่มกดแรง 3 ระดับ ที่ไม่ต้องก้มลงกดให้เมื่อย (แต่บางคนก็ชอบใช้เท้ามากกว่า) ตัวเครื่องส่ายได้องศากว้าง 180 องศา มั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้ด้วยระบบเทอร์โมฟิวส์
สรุป
ไม่น่าเชื่อว่าประเทศเราก็มีพัดลมขายเยอะอยู่เหมือนกัน (ก็เมืองร้อนอ่ะเนอะ) ยังไม่นับรวมพวกแบรนด์แปลก ๆ หรือพวกราคาหลักหมื่นอย่าง Dyson อะไรพวกนี้นะครับ (ส่วนตัวมองว่ามันเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มไปหน่อย) การเลือกซื้อพัดลมหัวใจหลักคือแรงลมและความเย็น ส่วนเรื่องเสียงก็ต้องเอามาคิดด้วยเช่นกัน และค่อยไปดูเรื่องของงานประกอบและวัสดุ เพราะตัวพวกนี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าพัดลมจะทนอยู่กับเรานานแค่ไหน ส่วนยี่ห้อโนเนมหรือจีนแดงที่ไม่มี มอก. ไม่แนะนำให้ซื้อเด็ดขาด ต่อให้ราคาจะถูกสักแค่ไหนก็ตาม เพราะพัดลมมีเรื่องของใบพัดและความปลอดภัย รวมถึงอาจเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ได้ถ้าเราใช้สินค้าที่ไม่มีมาตรฐานนั่นเอง