LINE Mobile (Beta) Thailand ได้ให้เกียรติทีมงานเป็นผู้ทดสอบสั่งซื้อซิม และเป็นทดลองใช้งานเป็นคนกลุ่มแรกในไทย โดยให้บริการผ่าน DTN เครือข่ายชั้นนำ TOP3 ในไทย (ไม่ใช่ CAT/TOT แน่นอน) ข้อดีก็คือ ราคาถูก ใช้งานง่าย ไม่ต้องเสียเวลาไปศูนย์บริการ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเปิดตัวไปแล้วในประเทศญี่ปุ่น ผ่านการแถลงการณ์ในงาน LINE Conference Tokyo 2016 และก็ถึงเวลาแล้วสำหรับการเปิดตลาดในประเทศไทย

LINE Mobile (Beta)
LINE Mobile (Beta)

LINE Mobile (Beta)

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่านี่คือการ ทดลองให้บริการ ดังนั้นเรื่องราคากับแพ็คเกจจึงยังไม่เป็นทางการ ขออนุญาตปิดเอาไว้เผื่ออนาคตใครค้นหาผ่าน Google, Pantip, Facebook แล้วมาเจอรีวิวนี้จะได้ไม่สับสนกัน (แต่ขอแอบกระซิบว่ามันถูกมาก ราคาถูกจนต้องตะลึง!) คิดเอาง่าย ๆ ว่าบริการโทรศัพท์มือถือดิจิทัลที่เปิดตัวทีหลัง หากราคาไม่ถูกกว่าใครจะใช้บริการ จริงไหม ?

แพ็คเกจแบ่งออกเป็น XS, S, M, L, XL และ XXL

ถ้าหากเป็นเครือข่ายปกติ (Ais, Dtac, Truemove H) หากเราจะเปลี่ยนหรือสมัครแพ็กเกจแต่ละที ถ้าคุณไปที่ศูนย์บริการจะได้โบรชัวร์มาแผ่นนึง ซึ่งมีเป็นสิบ ๆ แพ็กเกจ แถมแต่ละอันก็รายละเอียดยิบย่อยจนปวดหัว ยังไม่นับเรื่องการติดสัญญากับ โปรลับ ที่ต้องมาเปรียบเทียบกันอีก บางค่ายสลับค่าโทรเป็นเน็ตได้ บางค่ายใช้เน็ตไม่หมดทบไปเดือนหน้าได้ ปวดหัววุ่นวายไปหมด

เลือกแพ็กเกจ
เลือกแพ็กเกจ

การเลือกแพ็กเกจของ LINE Mobile นั้นง่ายแสนง่าย อย่างที่บอกคือแบ่งออกเป็น 6 แพ็กเกจ คุณดูเพียงแค่เน็ตที่ต้องการใช้ที่ความเร็วสูงสุด แล้วก็ดูค่าโทรที่ได้ก็พอ นอกนั้นไม่ต้องสนใจอะไรแล้ว (ยกเว้นราคา) เพราะทุกแพ็กเกจจะได้เหมือนกันดังนี้

  1. ใช้เน็ตไม่จำกัด (FUP) ที่ความเร็ว 256 Kbps
  2. SMS ฟรี! ส่งหาได้ทุกเครือข่าย
  3. LINE Messenger เล่นฟรี ไม่คิดค่าเน็ต

ไม่มีสัญญา ไม่ผูกมัด อยากใช้เมื่อไหร่ก็ใช้ ไม่อยากใช้จะยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกเปลี่ยนแพ็กเกจใหม่ได้ทุกเดือน (มีผลรอบบิลหน้า) เพื่อความต้องการที่หลากหลายและยืดหยุ่น โดยสามารถทำได้เองผ่านหน้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน สะดวกมากครับ

สมมุติหากผมต้องการเปลี่ยนแพ็กเกจ XS ไปเป็น XXL ในเดือนหน้าก็สามารถทำผ่านหน้าเว็บไซต์ได้เลย แต่หากก่อนถึงรอบบิลหน้าแล้วเกินเปลี่ยนใจกะทันหัน ก็สามารถเลือกเป็นแพ็กเกจอื่นแล้วยกเลิกของเก่าได้ ไม่ต้องโทรไปศูนย์บริการแจ้งเรื่องอะไรให้เสียเวลา

เลือกเบอร์โทร
เลือกเบอร์โทร

เลือกเบอร์ได้เอง

ถ้าหากคุณไปซื้อซิมตามตู้หรือศูนย์บริการ ก็จะเลือกได้แค่ไม่กี่เบอร์ที่เขามีให้ แต่สำหรับการสั่งซื้อออนไลน์กับ LINE Mobile ระบบค่อนข้างดีมาก ใครที่มี “ความเชื่อเรื่องตัวเลข” สามารถเลือก เบอร์สวย หรือ เบอร์มงคล ได้ด้วยตัวเอง โดยสามารถระบุตัวเลขที่ชอบลงไปได้

อย่างตัวผมมีเบอร์หลักอยู่แล้ว แต่อยากเปิดเพิ่มให้มีเลขลงท้ายเหมือนเบอร์หลักก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ใครชงหรือไม่ถูกกับเลขเบอร์ไหนก็สามารถเลี่ยงได้เช่นกัน จากนั้นระบบจะเอาแบบทั้งหมดมาให้เลือกเป็นร้อย ๆ เบอร์ หากันตาแฉะจนกว่าจะเจอเบอร์ที่ใช่ เลขที่ชอบกันได้เลย

วิธีการชำระเงิน
วิธีการชำระเงิน

สรุปขั้นตอนสุดท้ายของออเดอร์ ก็จะเป็นวิธีการชำระเงินเลือกได้ทั้ง บัตรเครดิต/บัตรเดบิต หรือ LINE Pay จากนั้นก็รอใช้เวลาไม่นาน ซิมการ์ด ก็จะส่งถูกส่งมาถึงบ้านคุณ ตรงนี้หากใครเคยสั่งของออนไลน์ ก็น่าจะมีบัตรเครดิต/บัตรเดบิตกันทุกคนอยู่แล้ว แต่อนาคตอาจมีช่องทางการจ่ายเงินใหม่ ๆ มาให้เลือกครับ

แพ็กเกจเสริม
แพ็กเกจเสริม

แพ็กเกจเสริม

ความต้องการของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุดฉันใด 4G/3G ก็เป็นฉันนั้น หากแพ็กเกจหลักที่ซื้อไม่เพียงพอก็สามารถซื้อเป็น “แพ็กเกจเสริม” ได้ด้วยราคาที่ถูกมาก (ยังเปิดเผยราคาไม่ได้เนื่องจากอยู่ในช่วงทดสอบ) ส่วนค่าโทรก็ไม่แพงตกนาทีละ 0.99 บาท ทั้งนี้หากใครกลัวบิลสิ้นเดือนออกมาแล้วช็อก ก็สามารถเลือกตั้งค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้ด้วย

โทรต่างประเทศ
โทรต่างประเทศ

โทรต่างประเทศ

ไม่เพียงแค่เน็ตถูก ค่าโทรถูก (ที่สำคัญคือ SMS ฟรี!) ยังสามารถโทรไปต่างประเทศได้ในราคาถูกแสนถูก ยกตัวอย่างโทรข้ามทวีปไปอเมริกาตกนาทีละ 2.5 บาท ถูกมากถูกจนต้องร้องขอชีวิต หรือใครจะเลือกเอาซิมนี้ไปต่างประเทศ แล้วโทรกลับไทยก็ได้ในราคาถูกไม่แพ้กัน โดยค่าบริการทั้งหมดสามารถเช็คได้จากเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

แอปพลิเคชัน
แอปพลิเคชัน

ข้อดี ข้อเสีย น่าใช้ไหม

จุดเด่น ข้อดี อยู่ตรงที่แอปพลิเคชัน ที่ผู้ใช้สามารถควบคุมได้อยากได้ด้วยตัวเอง ยกตัวอย่างเช่นอยากเก็บเน็ตความเร็วสูงไว้เพื่อเล่นเกมโดยเฉพาะ ส่วนการใช้งานทั่วไปอยากใช้เพียงแค่ 256kbps (เดี๋ยวรีวิวอย่างละเอียดอีกที) แต่หากมองโดยภาพรวมแล้ว สรุปข้อดีมีดังนี้

  • ดูรายละเอียดการใช้งาน (โทร, เน็ต) ได้ทันที
  • สลับความเร็วเน็ตได้ตลอดเวลา ระหว่างเน็ตฟรีกับเน็ตความเร็วสูง
  • คุมค่าใช้จ่ายได้ บิลไม่มีทางเกินวงเงินที่ตั้งไว้
  • ตรวจสอบประวัติโทรออก กับการใช้เน็ตย้อนหลังได้
  • แชทกับพนักงานช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  • โทรหาคอลเซ็นเตอร์ฟรี! รอสายไม่เกิน 3 นาที

แต่สำหรับ ข้อเสีย ก็คงไม่มีอะไรมากนอกจากเรื่อง “ปรับตัว” มากกว่า ผู้ใช้งานหลายคนอาจไม่ค่อยถนัดออนไลน์ หรือการทำอะไรด้วยตัวเองนัก ไม่มีศูนย์บริการให้เข้าไปจ่ายเงินหรือช่วยเหลือ ส่วนบิลทวงเงินก็ไม่มีส่งมาถึงบ้าน (แต่สามารถจ่ายออนไลน์ได้เลย) นอกนั้นหาข้อเสียไม่เจอจริง ๆ

บริการที่ตรงไปตรงมา และรองรับทุกจังหวะชีวิต

สรุปก็คือหากใครอยากได้บริการง่าย ๆ ที่ตรงไปตรงมา เน้นราคาถูกและสามารถควบคุมการใช้งานได้ด้วยตัวเอง อยากขอแนะนำ LINE Mobile (Beta) ซึ่งถ้าหากเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว สามารถเข้าไปสั่งซื้อหรือลงทะเบียนรับข่าวสารล่วงหน้าได้ที่ th.linemobile

อ้างอิง : Brand InsideBlognone, Manager Online

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial