Fitbit Flex 2 สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ จากผู้นำตลาดด้านอุปกรณ์การดูแลสุขภาพ และกิจกรรมการออกกำลังกาย “ฟิตบิท” เป็นรุ่นแรกที่ออกแบบมากันน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร สามารถใส่ว่ายน้ำหรือเล่นทะเลได้ และด้วยขนาดเล็กจึงสามารถสวมใส่ได้ทุกวัน สวมข้อมือใส่นอนหรือใส่อาบน้ำได้โดยไม่อึดอัด

Fitbit Flex 2
Fitbit Flex 2

Fitbit Flex 2

สำหรับสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาถ ที่มีคุณสมบัติกันน้ำได้รุ่นแรกของฟิตบิท ราคา 4,490 บาท วางจำหน่ายที่ร้านพาวเวอร์บาย, เจ มาร์ท, ไอสตูดิโอ และร้านอุปกรณ์ไอทีชั้นนำใกล้บ้าน มีให้เลือกหลายสีด้วยกัน

  • สีดำ
  • สีลาเวนเดอร์
  • สีมาเจนต้า
  • สีกรมท่า

นอกจากนี้ยังมีส่วนเสริมขายได้แก่ สายรัดข้อมือฟิตเนสแบบคลาสสิค (1,290 บาท) เครื่องประดับแบบกำไล (3,590 – 3,990 บาท) และจี้เครื่องประดับ (3,190 – 3,990 บาท) สามารถพกติดตัวได้หลายดีไซน์อย่างแท้จริง

คุณสมบัติ

  • มีดีไซน์บางที่สุด มีขนาดเล็กกว่ารุ่นเดิมถึง 30%
  • ตัวอุปกรณ์ (Tracker) สามารถถอดแยกออกได้
  • ติดตามกิจกรรมระหว่างวัน นับก้าวเดิน และ นับแคลอรี่
  • ติดตามการนอนหลับอัตโนัมติ
  • กันน้ำลึก 50 เมตร ติดตามกีฬาว่ายน้ำได้โดยเฉพาะ
  • ตัวสายเปลี่ยนได้ง่าย สลับเปลี่ยนเครื่องประดับได้
  • แจ้งเตือนเมื่อไม่นั่งอยู่เฉย ๆ เป็นเวลานาน
  • ติดตามการออกกำลังกาย บันทึกให้อัตโนมัติไม่ต้องกดปุ่ม
  • แจ้งเตือนสายเรียกเข้าและข้อความด้วยระบบสั่น
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ 5 วัน
  • เก็บข้อมูลในตัวเครื่องนานสูงสุด 30 วัน
  • มาพร้อมกับสายขนาด S และ L

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • Fitbit Flex 2
  • สายรัดข้อมือจำนวน 2 ขนาด (S/L)
  • อุปกรณ์สำหรับชาร์จและ Sync ข้อมูลกับคอมพิวเตอร์
  • คู่มือการใช้

ถึงแม้ว่าสายรัดข้อมือจะมีมาให้ถึง 2 เส้น แต่สำหรับคนไทยไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็ใช้เพียงขนาด “S” เสียเป็นส่วนใหญ่ ตัวอุปกรณ์สำหรับชาร์จอันนี้ชอบมาก เพราะใช้เสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้เลย (หรือจะใช้ร่วมกับที่ชาร์จสมาร์ทโฟนก็ได้) ไม่ต้องแยกหลายท่อนเพื่อเสียบชาร์จให้วุ่นวาย

ตัวอุปกรณ์ (Tracker) สามารถถอดแยกออกได้ ตรงนี้เหมือนจะเป็นจุดขายหนึ่งของ Fitbit ที่เน้นความลงตัวในชีวิตประจำวัน สามารถเปลี่ยนเป็นเครื่องประดับสุภาพสตรีได้ด้วย ไม่จำเป็นต้องออกแนวสปอร์ตอยู่ตลอดเวลา

ด้านหลังเป็นตัวล็อคแบบสองชั้น แต่ขัดใจนิดหน่อยตรงที่สวมใส่ยากไปนิด ส่วนตัวสายเป็นซิลิโคนสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย (ล้างสบู่ได้เลย) และผ่านการทดสอบจาก Fitbit มาแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง ต่างจากนาฬิกาอัจฉริยะบางรุ่นที่นิยมทำเป็นสายหนังหรือโลหะ ที่มีโอกาสก่อให้เกิดอาการแพ้ และไม่เหมาะกับการทำความสะอาด

การทำงานผ่านเซ็นเซอร์ Accelerometer ชนิดแบบ 3 แกน มีมอเตอร์สั่นในตัวเพื่อแจ้งเตือนข้อมูลผู้ใช้ ส่วนหน้าจอแสดงผลไม่มีจำเป็นต้องดูผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกันตลอดเวลาก็ได้ เพราะตัวสายรัดข้อมือเองสามารถเก็บข้อมูลได้ถึง 30 วัน

สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ ขนาดเล็กที่สุด กันน้ำลึกสูงสุด 50 เมตร
มีโปรแกรมสำหรับกีฬาว่ายน้ำ

โดยการสั่งงานเดียวที่ทำได้โดยไม่พึ่งสมาร์ทโฟนคือการ “เคาะ” เพื่อเช็คจำนวนก้าวผ่านไฟ LED (แต่ส่วนใหญ่ก็แทบไม่ได้สั่งงานอะไรอยู่แล้ว เนื่องจากมันติดตามพฤติกรรมอัตโนมัติ) ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ก็ไม่ต้องกังวลเนื่องจากเป็น Bluetooth 4.0 สามารถใช้งานได้นาน 5 วัน

ตัวแอปพลิเคชันสามารถใช้ร่วมกับ Fitbit รุ่นอื่นได้ รองรับ Android, iOS รวมถึง Windows Phone ภายในแอปพลิเคชันสามารถควบคุมน้ำหนัก ตั้งค่าแคลอรี่จากการกิน (ต้องใส่ค่าอาหารเข้าไปเอง) ตั้งเป้าหมายแถมยังมีโค้ชส่วนตัวคอยช่วย และนอกจากนี้ก็ยังสามารถแชร์กับเพื่อนได้ด้วย

Fitbit App
Fitbit App

Fitbit App

ไม่เพียงแค่แอปพลิเคชัน แต่ยังมีโปรแกรม (Dashboard) ให้ใช้งานบน Windows 10 ด้วยเช่นกัน การใช้งานทั่วไปโดยรวมไม่ได้แตกต่างกัน โดยหน้าแอปพลิเคชันแบ่งออกเป็น Dashboard, Challenges, Guidance, Community, Notification ซึ่งคงไม่ขอพูดสองตัวท้ายเพราะไม่ได้ใช้งานอะไรมาก

  • Dashboard เป็นหน้าแรกรวมสารพัดประโยชน์ ดูจำนวนก้าว, ระยะทาง, แคลลอรี่ รวมถึงจะตั้งค่าออกกำลังหายหรือเพิ่มอาหารและน้ำดื่มก็ตรงนี้
  • Challenges เป็นเหมือนกิจกรรมสนุก ๆ ที่ชวนเพื่อนรวมแก๊งค์มาทำภารกิจร่วมกัน เช่น เริ่มเดินให้ครบหมื่นก้าว, ออกวิ่งตามงานกีฬา เป็นต้น
  • Guidance เป็นโค้ชออกกำลังกายส่วนตัว โดยจะลิงค์ไปอีกแอปพลิเคชัน รวมสารพัดท่าออกกำลังกายที่ถูกต้อง

โดยรวมแล้วไม่ใช่เพียงแค่เครื่องนับก้าวเดิน แต่ยังเป็นเหมือนสังคมเล็ก ๆ ที่สามารถแบ่งปัญกับเพื่อนได้ว่าใคร “ฟิต” กว่ากัน รวมถึงการเริ่มต้นออกกำลังกายที่ถูกวิธี เหมือนเราซื้อสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพแล้วได้โค้ชส่วนตัว ข้อเสียก็คือทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ ใครที่ไม่เก่งคงต้องขยันแปลเอาหน่อย

Fitbit App
Fitbit App

จุดเด่นมาก ๆ อีกจุดก็คือ ติดตามกีฬาว่ายน้ำ ซึ่งเป็นสายรัดข้อมือหนึ่งในไม่กี่รุ่นที่ทำได้ เพราะโดยปกติการว่ายน้ำของเราจะตีมือเป็นวงต่างจากการวิ่งทั่วไป โดยเราสามารถมากำหนดโปรแกรมเพิ่มเติมได้ที่นี่ (ต้องตั้งค่าเอง) ส่วนเรื่องเดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ออกกำลังกาย ก็สามารถจับค่าได้โดยอัตโนมัติเช่นกัน

แต่ถึงแม้ว่า Fitbit Flex 2 จะไม่มี GPS ในตัวแต่หากคุณเอาสมาร์ทโฟนไปวิ่งด้วย ก็สามารถเปิดแอปพลิเคชันแล้วเชื่อมต่อใช้ GPS จากสมาร์ทโฟนได้เลย พร้อมมีเสียงโค้ชคอยกระตุ้นให้กำลังใจเป็นระยะ

สามารถใช้ปลุกผ่านการสั่นได้ด้วย ไม่รบกวนคนรอบข้าง

ส่วนสุดท้ายไม่พูดถึงไม่ได้ ติดตามการนอนหลับ ด้วยคุณสมบัติทางกายภาพที่มีขนาดเล็ก ทำให้คุณสามารถใส่นอนได้เลย (แต่ส่วนตัวผู้เขียนไม่ใส่นอน เพราะไม่ชอบให้อะไรมาติดข้อมือ) โดยไม่จำเป็นต้องตั้งค่าอะไรมันจะบันทึกการนอนหลับโดยอัตโนมัติ สามาถสรุปออกมาได้ว่าเรานอนหลับสนิทแค่ไหน และพลิกตัวไปตอนไหนบ้าง สามารถใช้ปลุกผ่านการสั่นได้ด้วย

ข้อดี

  1. ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา 23.5 กรัม
  2. กันน้ำลึก 50 เมตร ลงทะเลได้
  3. ติดตามการนอนหลับ
  4. รองรับกีฬาว่ายน้ำ
  5. แบตเตอรี่ใช้งานได้ 5 วัน

ข้อเสีย

  1. ราคาค่อนข้างสูง
  2. ไม่มี GPS ในตัว
  3. ไม่มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ

สรุป

Fitbit Flex 2 ทำแอปพลิเคชันออกมาได้ค่อนข้างดี สามารถเพิ่มแคลลอรี่ของอาหารได้สะดวก การออกแบบมาขนาดเล็กสำหรับใช้งานทุกวัน สามารถใส่แล้วอาบน้ำและนอนได้เลย สำหรับคนที่ว่ายน้ำบ่อย ๆ รุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกอันดับ 1 เพราะสายรัดข้อมือบางรุ่นไม่ได้ออกแบบมาเพื่อว่ายน้ำ แถมยังไม่มีระบบวัดแคลอรี่ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเหมือนรุ่นนี้

สำหรับสินค้ามีวางจำหน่ายที่ร้านพาวเวอร์บาย, เจ มาร์ท, ไอสตูดิโอ และร้านอุปกรณ์ไอทีชั้นนำใกล้บ้าน ราคา 4,490 บาท นอกจากนี้ยังมีส่วนเสริมขายขายแยกเป็นสายรัดข้อมือฟิตเนสแบบคลาสสิค, เครื่องประดับแบบกำไล และจี้เครื่องประดับ โดยราคาที่ร้านขายปลีกอาจแตกต่างกันได้เล็กน้อย (แล้วแต่ร้าน) ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ว็บไซต์ Fitbit.com