Plantronics Explorer 500 รีวิวหูฟังบลูทูธอีกรุ่นที่น่าจับตามอง หูฟังบลูทูธใหม่ล่าสุดนี้มีราคาอยู่ในระดับกลาง แถมคุณสมบัติไม่เบาอย่างรองรับ HD Voice (ตอนนี้เปิดให้ทดสอบทั้ง AIS และ Dtac) หากใครกำลังมองหาอยากซื้อหูฟังไร้สายสักตัวลองมาดูกันครับ แต่ถ้าใครมีงบหน่อยลอง Plantronics Voyager Edge ก็เจ๋งไม่แพ้กัน
Plantronics Explorer 500
Plantronics Explorer 500 ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 2,190 บาท สามารถหาซื้อได้ที่ บริษัท ซิสเท็ม 2000 จำกัด ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือตามร้านขายอุปกรณ์เสริมชั้นนำใกล้บ้านท่าน
- Bluetooth 4.1 ประหยัดพลังงานและรองรับ A2DP และ AVRCP
- สามารถใช้สนทนาได้ต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง
- เปิดใช้งานรอรับสายได้นานถึง 12 วัน
- เปิดใช้งานแบบหลับลึกได้นาน 6 เดือน (Deep Sleep)
- รองรับคุณภาพเสียง HD Voice (GSMA-certified)
- ไมโครโฟน 2 ตัว สำหรับตัดเสียงรบกวน
- เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน (Multipoint)
- รองรับเสียงแจ้งเตือน (Voice Alert) ได้ 3 ภาษา (อังกฤษ, แมนดาริน, จีนกวางตุ้ง)
- แสดงปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือผ่านหน้าจอ iOS และ Android (Plantronics Hub)
- สายชาร์จ USB charging strap แบบใหม่ ใช้คล้องและพกพาหูฟังบลูทูธในตัว
- น้ำหนัก 7.5 กรัม
โดดเด่นด้วยราคาที่ไม่แพงมาก Plantronics วางตำแหน่งสินค้านี้ไว้ที่ระดับกลาง (Middle Level) แต่ส่วนตัวผมคิดว่าราคามันค่อนข้างถูกด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับสเปคและแบรนด์นี้ที่เป็นหูฟังไร้สายอันดับต้นของโลก
ตัวหูฟังรับประกันผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 1 ปี
แนะนำให้มองหาสติ๊กเกอร์ System 2000 ที่อยู่ใต้ชื่อแบรนด์ Plantronics แบบตัวอย่างหน้ากล่องในภาพแรกครับ
สำหรับสเปคเราได้กล่าวไปหมดแล้ว ทีนี้เรามาดูรายละเอียดปลีกย่อยอย่าง “แกะกล่อง” และ “รีวิว” กัน
ด้วยความสามารถเชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน (Multipoint) จะเห็นได้ว่าผมสามารถต่อทั้ง Galaxy S6 และ iPhone 6 ได้พร้อมกัน (ใช้หูฟังตัวเดียวกัน) ความหมายก็คือสมมุติว่าผมมีสมาร์ทโฟนสองเครื่อง โดยอาจเป็นของส่วนตัวและของบริษัทอีกเครื่อง และเวลาคนโทรเข้าเครื่องไหนผมก็สามารถกดรับสายได้เลย ไม่จำเป็นต้องเสียเวลา Pair ใหม่อีกรอบ ทำให้สะดวกมากเลยทีเดียว
อุปกรณ์ภายในประกอบไปด้วย
- สายคล้องคอ
- สายชาร์จ
- ก้านคล้องหูและหูเจล
- หูฟังบลูทูธ Explorer 500
- การ์ดรับประกัน
สำหรับที่ชาร์จไม่มีแถมมา แต่ก็สามารถใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนทุกรุ่น หรือชาร์จกับคอมพิวเตอร์ได้เลยครับ (แบตเตอรี่ไม่เยอะใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เต็ม)
USB charging strap อันนี้เป็นสายชาร์จแบบใหม่ซึ่งสามารถใช้เป็นที่คล้องกระเป๋า (เนื่องจากทั้งสองฝั่งมันเป็นแม่เหล็ก) และเสียบหูฟังผ่านทาง Micro USB ได้เลยครับ
สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ “ก้านคล้องหู” กับ “หูเจล” หรือจะใช้ทั้งคู่เลยก็ยังได้ แต่ส่วนตัวผมมองว่าใช้เพียงแค่หูเจลก็แน่นหนาเพียงพอแล้ว
ตัวก้านคล้องหูและหูเจลนี้ สามารถใช้ปรับระดับได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน และที่สำคัญสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดง่าย
ด้านหลังจะเป็นช่องสำหรับเสียบ Micro USB สำหรับชาร์จไฟครับ
ฝั่งนี้จะเป็นปุ่มปรับเสียงครับ มีรอยขรุขระทำให้สามารถรู้ได้ว่าตรงไหนปรับเสียงเพิ่มหรือลดเสียงได้ และยังมีฟังก์ชั่นกดปุ่มบนหูฟังเพื่อเปลี่ยนเพลงหรือคลิปวิดีโอผ่านหูฟังได้เลย (AVRCP)
ความสะดวกคือนอกจากจะใช้รับสายแล้วยังรวมถึงฟีเจอร์ Siri หรือ Google Now แต่สำหรับคนที่ยังไม่ทราบ วิธีใช้งานหูฟังไร้สายง่ายมากครับ เมื่อมีกดโทรเข้ามาเราสามารถกดรับที่หูฟังได้เลย หรือจะรับผ่านสมาร์ทโฟนก็ได้ (หูฟัง, สมาร์ทโฟน, ลำโพง)
รีวิวการใช้งานจริง
เนื่องด้วยที่น้ำหนักค่อนข้างเบาทำให้สามารถใส่ทั้งวันได้อย่างสบาย การปรับเสียงและรับสามารถทำได้โดยง่ายดาย ส่วนเสียงสนทนาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเนื่องจากมีไมโครโฟน 2 ตัว สำหรับใช้ตัดเสียงรบกวน
ตรงนี้ผมได้ทดสอบรีวิวจากผู้ใช้งานจริง (แต่ไม่กล้าออกกล้องเขิน) แบตเตอรี่ชาร์จประมาณอาทิตย์ละครั้ง ทำให้ไม่ต้องเหนื่อยหรือเป็นอุปสรรค์ในชีวิตประจำวันมาก ขนาดเล็กพกพาง่ายทั้งตัวเครื่องและสายชาร์จเอง
https://youtu.be/GYM3H9Sy8Z0
VDO โฆษณาสาธิตการใช้งานคร่าว ๆ จากทางผู้ผลิต
ข้อดี
- ไมค์ตัดเสียงรบกวน 2 ตัว
- รองรับ Bluetooth 4.1
- น้ำหนักเบา 7.5 กรัม
ข้อเสีย
- รูปทรงดูธรรมดาไปนิด
สรุป
เป็นหูฟังที่ซื้อไปแล้วรับรองว่าไม่ผิดหวัง น้ำหนักเบาเหมือนกับราคา สามารถใช้งานกันได้ยาว ๆ ไม่มีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนให้ปวดหัว แถมยังโดดเด่นด้วยการควบคุมที่ใช้งานง่ายและประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี