สรุปคุณสมบัติเกี่ยวกับ Vivo V19 หลังจาที่เราได้ทำการรีวิวไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับราคาเปิดตัวเพียง 12,999 บาท สมาร์ตโฟนที่แสนจะคุ้มค่าที่สุดจากวีโว่ โดยในวันนี้เราจะมาสรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับประสิทธิภาพที่น่าทึ่ง 5 เหตุผลที่ต้องเลือก Vivo V19 เพราะไม่ใช่เพียงแค่กล้องหน้าคู่ 32 MP ชาร์จเร็วเวอร์ ถ่ายกลางคืนสวยเท่านั้นที่เป็นจุดขาย แต่ยังเหมาะกับการเล่นเกม ดูภาพยนตร์ และการใช้งานในด้านอื่นอีกด้วย
1. Snapdragon ใครก็ว่าเล่นเกมลื่น
Vivo V19 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลยอดฮิตของเกมเมอร์ Qualcomm Snapdragon 712 และยังมี RAM 8 GB จะใช้งานหรือเล่นเกมก็ลืมคำว่าหน่วงไปได้เลย สาเหตุหลักก็เพราะ GPU ที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้นักพัฒนาเกมส่วนใหญ่ยังเลือกใช้ Snapdragon เป็นอุปกรณ์ทดสอบ ทำให้โอกาสมีปัญหาระหว่างเล่นเกมมีน้อยกว่านั่นเอง และการที่มี RAM 8 GB ทำให้ใช้งานหลายแอปพลิเคชันพร้อมกันได้ดี
Qualcomm Snapdragon 712 มีจุดเด่นตรงที่รองรับกล้องหลายตัว ชิปประมวลผลภาพแบบปัญญาประดิษฐ์ (ต้องใช้ร่วมกับ Software ที่ดีด้วย) และมีประสิทธิภาพสูงกว่า Snapdragon 710 รุ่นเดิมถึง 10% เป็นความลงตัวกับสมาร์ตโฟนระดับกลาง กระบวนการผลิตขนาด 10 นาโนเมตร ทำงานได้เร็ว + กินไฟน้อย เมื่อทดสอบประสิทธิภาพทำให้ได้คะแนน OpenGL ES 3.1, Vulkan อยู่ที่ 2171 และ 2026
2. เล่นเกมได้ทั้งในวันนี้และเกมในอนาคต
Vivo V19 มีระบบเพิ่มพลังให้สามารถรีดประสิทธิภาพการทำงาน CPU, GPU, IO, RAM ได้ดีมากยิ่งขึ้น (นึกถึงเวลาเล่นเกมขับรถแล้วกดไนตรัส) เป็นข่าวดีคือทางวีโว่ได้พัฒนามาจนถึง Multi-Turbo 3.0 และยังมี ART++ Turbo ให้ช่วยในการเปิดแอปพลิเคชันได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น จากผลทดสอบการเปิดพร้อมกับ Center Turbo ช่วยลดปัญหาเฟรมเรตตกได้ถึง 78.05% แรงในวันนี้และยังครอบคลุมถึงเกมในวันหน้า
Ultra Game Mode ตัวใหม่นี้ไม่เพียงแค่ให้เล่นเกมได้ลื่นมากขึ้น แต่ยังรวมสารพัดเครื่องมือความสะดวกในการเล่นเกม ป้องกันการสัมผัสที่ไม่ตั้งใจ ป้องกันการรบกวนจากการแจ้งเตือน เล่นอัตโนมัติขณะหน้าจอดับ ฯลฯ และยังอัปเกรดฟีเจอร์เจ๋ง ๆ เพิ่มเติมมาอีกเพียบทั้ง Game Vibration, Voice Changer และ Killer Countdown ทำให้เล่นเกมได้อย่างมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น สำหรับเกมที่รองรับในส่วนคุณสมบัติเหล่านี้
3. เล่นเกมนานเครื่องไม่ร้อน
นอกจากหน่วยประมวลผล Snapdragon 712 ที่ให้ประสิทธิภาพสูง กินไฟต่ำ และไม่ร้อน ทางวีโว่ยังได้พัฒนา Copper Tube Liquid Cooling เพิ่มเติมขึ้นอีกขั้น ในการระบายความร้อนด้วยของเหลวผ่านทางท่อที่ออกแบบมาพิเศษ โดยจากการทดสอบแล้วช่วยลดอุณหภูมิลงได้ราว 3-7 องศาเซลเซียส แก้ปัญหาเครื่องร้อนระหว่างเล่นเกมหรือใช้งานเป็นระยะเวลานาน ช่วยให้ความเร็วไม่ถูกลดลงเพราะความร้อน
4. แบตเตอรี่อึดใช้งานได้ทั้งวัน
ไม่ว่าจะเป็นการดูหนังหรือเล่นเกม Vivo V19 ก็สามารถใช้งานได้ทั้งวันโดยไม่ต้องเสียบชาร์จ เพราะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4500mAh จากการรีวิวคือเปิดใช้งานปกติทั่วไป ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นก็ไม่ต้องชาร์จ Power Bank ในระหว่างวัน (ยกเว้นแต่ว่าเล่นเกมหนักมากแบบไม่หยุดไม่หย่อน) สำหรับคนที่ไม่ชอบพกอะไรเยอะแยะให้หนักกระเป๋า ก็ถือว่าช่วยให้การพกพาของเราคล่องตัวได้มากยิ่งขึ้นครับ
5. ชาร์จเร็วทันใจไม่ต้องรอ
ระบบชาร์จเร็ว 33W vivo FlashCharge 2.0 ผ่านทาง USB-C ที่เป็นมาตรฐานสากล ชาร์จแบตเตอรี่เพียงแค่ 30 นาที ก็สามารถชาร์จได้ถึง 54% ไม่ต้องเสียเวลารอหลายชั่วโมงในการชาร์จแบตเตอรี่ เพลิดเพลินกับการใช้งานได้อย่างยาวนาน ส่วนเรื่องอะแดปเตอร์มีแถมมาให้จากโรงงานเลย ผู้ใช้งานไม่ต้องเสียเงินซื้ออะแดปเตอร์แยกต่างหาก ส่วนสายที่ให้มาจะเป็น USB Type A > USB Type C ที่อเนกประสงค์มากกว่า
สรุป
ถึงแม้ว่า Vivo V19 จะเป็นสมาร์ตโฟนที่มีจุดเด่นอยู่ตรงที่ “กล้องหน้าคู่ 32+8 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 4 เลนส์” สามารถถ่ายกลางคืนได้อย่างดีเยี่ยมด้วย Super Night Selfie แต่ก็ไม่ได้มีดีเพียงแค่กล้องเท่านั้น ด้วยประสิทธิภาพการใช้งานโดยรวมสามารถเล่นเกมได้ลื่นไหล (มีระบบที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ) เปิดแอปพลิเคชันทำได้อย่างรวดเร็ว หน้าจอสวยขนาดใหญ่ มีแบตเตอรี่อึดและยังรองรับการชาร์จเร็ว 33 วัตต์ เป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนระดับกลางที่มีราคาเพียง 12,999 บาท แต่มีความคุ้มค่าเกินราคาค่าตัว
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial